28 ก.พ. 2023 เวลา 11:00 • ความคิดเห็น

Rope a dope

ในวงการมวยโลก มีเทคนิคขั้นเทพที่เรียกว่า Rope a dope ก็คือการที่แกล้งทำเป็นถูกต้อนจนหลังพิงเชือกแล้วเด้งตัวกับเชือก หลอกให้คู่แข่งชกโดยที่ใช้แรงเด้งเชือกผ่อนน้ำหนักหมัดไม่ให้เจ็บมาก แล้วรอจังหวะดักหมัดตอนคู่แข่งเผลอหรือใช้ทำให้คู่แข่งชกจนหมดแรงไปเองแล้วค่อยหาจังหวะเผด็จศึกทีหลัง
2
เทคนิคนี้โด่งดังก็เพราะมูฮัมหมัด อาลีผู้เป็นรองเยอะมากในไฟต์นั้นใช้วิธีนี้ปราบจอร์จ โฟร์แมน ผู้ที่มีหมัดหนักและรุนแรงที่สุดแห่งยุค ในการชกสุดคลาสสิกที่ประเทศซาอีร์ที่มีชื่อแมทช์ว่า Rumble in the jungle ในปี 1974 ซึ่งอาลีใช้วิธีนี้จนโฟร์แมนหมดแรง แล้วอาลีก็ค่อยๆ นวดจนชนะน็อคโฟร์แมนได้ในยกที่แปด
ที่นึกถึงกลยุทธ์นี้ส่วนหนึ่งก็เพราะยูโร 2020 กำลังจะเริ่มและกว่าจะมีทางการใจป้ำซื้อลิขสิทธิ์ซึ่งก็ปาเข้าไปวันสุดท้ายพอดีและอีกส่วนหนึ่งก็เพราะ ดร วิทย์ สิทธิเวคินเขียนถึงผมเมื่อตอนยูโร 2012 ที่แกรมมี่ไปซื้อลิขสิทธิ์มาในกล่องดาวเทียม GMM Z ที่เพิ่งเริ่มขาย เพื่อเป็นจุดขายใหม่ของกล่องแต่กลับกลายเป็นว่าไม่ถูกใจคนทั้งประเทศเพราะสมัยนั้นฟุตบอลระดับโลก
1
ระดับทวีปนั้นต้องดูฟรี แต่ยูโร 2012 จะดูได้เฉพาะผ่านกล่อง GMMZ กับเสาก้างปลา แกรมมี่จะไม่ปล่อยให้ดูผ่านจานดาวเทียมกับเคเบิ้ลเจ้าที่เป็นคู่แข่ง เป็นกลยุทธ์หลักของการเปิดตัวกล่องของเจ้านายผม
7
ในตอนนั้นผมเป็นซีอีโอที่ดูแล GMMZ ก็โดนพายุหมัดมาทุกสารทิศ ดร วิทย์ ใช้คำว่าเป็นทหารกองหน้ารับธนูนับแสนดอก เป็นบททดสอบที่สาหัสสากรรจ์มาก เพราะโดนตั้งแต่มวลชนผู้โกรธแค้น จนถึงคู่แข่งผู้ที่ไม่พอใจและใช้วิธีทั้งปลุกระดมความเกลียดชังจนถึงใช้อำนาจกดดันผ่านการทางการเมือง รัฐมนตรี รัฐสภา คดีความทั้งทางตรงและทางอ้อมในตอนนั้นมาครบหมด
ในตอนนั้นเราโดนด่าอยู่บนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ บางฉบับถึงกับเรียกว่ามหาโจรเลยด้วยซ้ำ ในตอนนี้ทุกคนก็คงเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์กันมากขึ้นแต่ตอนนั้นมีแต่ความโกรธเกรี้ยว เปรียบเป็นมวยก็คือโดนหมัดหนักๆตั้งแต่ยกแรก แต่ต้องพาตัวเองให้จบสิบสองยกให้ได้ ซึ่งก็คือต้องผ่านไปจนยูโรจบซึ่งก็ประมาณหนึ่งเดือน
การที่เราต้อง Rope a dope ก็ต้องทำตั้งแต่เรื่องสัญญาที่ทุกคนพยายามจะให้ฉีกให้ได้ มีแรงกดดันจากนักการเมืองที่ต้องการเอาคะแนนทั้งขู่ทั้งปลอบ เราก็ต้องพิงเชือก “ยูฟ่า” ด้วยการทำจดหมายไปถามยูฟ่าให้ยูฟ่าตัดสินใจ ก็ทำให้ต้องใช้เวลาสอบถามและผ่านไปได้หลายยกกว่ายูฟ่าจะตอบก็ยกท้ายๆแล้วว่าไม่ได้ ในการไปชี้แจงกรรมาธิการก็ต้องเอาสัญญาที่เราทำถูกต้องแต่ไม่ถูกใจไปประคองปิดป้องหมัดที่เข้ามา
ผมจำได้ว่าไปออกรายการคุณสรยุทธ์ ซึ่งก็ถูกถามตรงๆแทนคนดูทั้งประเทศ ในการที่จะเด้งเชือกหลบคุณสรยุทธ์ออกมาได้อีกยก คุณเดียว วรตั้งตระกูล ผู้ซึ่งตอนนี้อยู่ช่องวันแต่ในตอนนั้นเป็นมือขวาผมด้านการต้านพายุนี้ มารื้อฟื้นความทรงจำว่าผมออกจากมุมด้วยการบอกว่า ผมเกรงใจ (คู่แข่งรายใหญ่)มาก แต่ก็กลัวยูฟ่าด้วยว่าจะทำผิดสัญญาและก็เคารพผู้ถือหุ้นแกรมมี่ด้วยถ้าซื้อของมาแพงๆแล้วเอามาแจกฟรี ก็ไม่รู้ทำอย่างไร ตอบเหมือนไม่ได้ตอบแต่ก็เป็นความจริงทุกประการในตอนนั้น แล้วก็ฉากหลบยกนั้นออกมาได้
ประคองตัวมาถึงยกท้ายๆที่ขึ้นหน้าหนึ่งติดกันมาหลายวัน ก็มีโชคช่วยด้านสื่อมาอย่างบังเอิญ เย็นวันหนึ่งทางเวิร์คพอยท์มีรายการโชว์แล้วมีผู้หญิงเอาหน้าอกมาวาดภาพ ทำให้กลายเป็นประเด็นแล้วมาขึ้นหน้าหนึ่งแทน ก็ทำให้หมัดหนักๆจากหนังสือพิมพ์ก็เบาลง หลังจากเด้งเชือกมาหลายยกจนแทบจะหมดแรง จนถึงกับต้องส่ง SMS ไปขอบคุณผู้บริหารเวิร์คพอยท์ คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉมในตอนนั้น
ในตอนนั้นเรา Rope a dope จนยูฟ่าออกมาบอกว่าปล่อยสัญญานไม่ได้และฟุตบอลก็ถึงรอบชิงชนะเลิศ พอจบทัวร์นาเม้นท์นั้นเรื่องก็ซาลงและหายไปในที่สุด เหลือแต่การสะสาง การตั้งกฏ ระเบียบใหม่ที่เกิดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ กสทช ออกกฎ Must have must carry ขึ้นมาเป็นอนุสรณ์จากศึกครั้งนั้น
1
ส่วนตัวผมก็ได้เรียนรู้บทเรียนมากมายทั้งความเข้าใจถึงคำว่า “ถูกต้อง” กับ “ ถูกใจ” การได้รับรู้ถึงแทคติกชกใต้เข็มขัดที่มาจากอำนาจที่เรานึกไม่ถึง รวมถึงการต่อสู้ที่บางครั้งไม่จำเป็นต้องเอาชนะ แค่ขอประคองตัวไม่ให้ถูกน็อคด้วยการเด้งเชือกบรรเทาน้ำหนักหมัดคู่แข่ง อึด ถึก ทน ดึงเวลาให้คู่แข่งหมดแรงไปเอง
2
พอดียูโร 2020 กำลังจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ ก็เลยอยากจะบันทึกประสบการณ์ Rope a Dope ของตัวเองเมื่อ 9 ปีก่อนไว้เผื่อใครที่กำลังเจอพายุหมัดหนักๆ อยู่ อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
โฆษณา