2 มี.ค. 2023 เวลา 04:03 • ไลฟ์สไตล์

ข้อแม้เยอะทางเลือกน้อย ข้อแม้น้อยทางเลือกเยอะ

ในยามที่เรารู้สึกว่าชีวิตยากลำบากและถามตัวเองเกินวันละหนึ่งครั้งว่า
"ทำไมเราต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ด้วย"
นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่เราจะกลับมาทบทวนตัวเองว่าใครกันที่พาเรามาอยู่ในสถานการณืแบบนี้
ถ้าหากว่าซื่อตรงพอ คำตอบมันก็คือเรานี่แหละ
สมมติว่าผมเป็นหัวหน้าที่งานเยอะมาก สามทุ่มแล้วก็ยังทำงานอยู่ ในขณะที่ลูกน้องกลับบ้านกันไปหมดแล้ว แทนที่ผมจะโกรธลูกน้อง ผมควรกลับมาถามตัวเองว่าทำไมผมถึงกระจายงานไม่เป็น
เพราะเราไม่ไว้ใจลูกน้องเพียงพอใช่มั้ย ? เพราะเรากลัวว่าลูกน้องจะทำงานได้ไม่ดีเท่าเราใช่มั้ย ? เพราะเราทำเองเสร็จเร็วกว่าใช่มั้ย ?
เมื่อไม่ไว้ใจพอ ก็เลยตัดทางเลือกออกไป แล้วก็เก็บงานนั้นๆไว้ทำคนเดียว เราก็เลยต้องอยู่จนดึก แล้วจะโทษใคร ?
มีตัวอย่างอีกมากมายที่เราพาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่เราไม่ชอบ "ด้วยข้อแม้ที่เราสร้างขึ้นมาเอง"
ข้อแม้หนึ่งข้อก็เปรียบเสมือนกรงหนึ่งซี่ ยิ่งข้อแม้เยอะเท่าไหร่ คุกที่เราสร้างก็ยิ่งแข็งแรงขึ้นเท่านั้น
บางคนอาจเถียงว่า ที่เขาข้อแม้เยอะ เพราะว่าเขานั้นมาตรฐานสูง
ผมเห็นด้วยนะ ว่าคนเราต้องมีมาตรฐานอยู่บ้าง แต่เราไม่จำเป็นต้องมาตรฐานสูงกับทุกเรื่อง หนึ่งเพราะมันเหนื่อย สองคือเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาตรฐานที่ว่านั้นมันเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือเป็นเพียงเพราะเราถูกชี้นำจากสื่อ สังคม และคนรอบข้าง
"ข้อแม้เยอะทางเลือกจะน้อย ข้อแม้น้อยทางเลือกจะเยอะ"
หากลดข้อแม้ได้เมื่อไหร่ ความเป็นไปได้จะเปิดกว้าง และเราจะเหนื่อยน้อยลงแน่นอนครับ
ขอบคุณที่มา : หนังสือ ช้างกูอยู่ไหน? I Elephant in the room
โฆษณา