2 มี.ค. 2023 เวลา 21:51 • ประวัติศาสตร์

#ตำนานหลวงพ่อเฒ่า ( ปั้น )

หากพูดถึง หลวงพ่อกวย ชุตินธโร แห่ง วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ย่อมไม่เป็นที่ปฏิเสธ ถึงความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง ในทางพุทธคุณ และแน่นอน ในครั้งนี้ เราจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องราวโดยตรงของ หลวงพ่อกวย แต่จะกล่าวถึง ครูอาจารย์ ที่นอกเหนือจาก หลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง จ.สุพรรณบุรี ยังมีอีกท่านหนึ่ง ที่ในหมู่ศิษย์วัดบ้านแค กล่าวถึง นั่นคือ หลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว  ครูบาอาจารย์จากแดนชลบุรี ผู้เคยเข้าร่วมทัพ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
เรื่องราวเกี่ยวกับ หลวงพ่อเฒ่า หรืออีกนาม หลวงพ่อปั้น เท่าที่มีการเผยแพร่ในกลุ่มวัดโฆสิตาราม นั้น ได้ระบุว่า ประวัติ หลวงพ่อเฒ่า ที่มีการตรวจทานตรวจสอบ ตรวจทานจากประวัติศาสตร์, พิพิธภัณฑ์, เอกสารเก่า, และคำบอกกล่าวเล่าสืบต่อกันมาจากคนเฒ่าคนแก่ คนเก่าๆ และมีอยู่ในบันทึกของหลวงพ่อสอน สืบทอดมาถึงหลวงพ่อสวัสดิ์ และอาจารย์จิ๊ วัดค้างคาวเป็นข้อมูลที่กลั่นกรองและน่าเชื่อถือที่สุด ดังนี้
หลวงพ่อเฒ่า ท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี เดิมชื่อ นายปั้น เกิดในสมัยอยุธยาตอนปลาย ประมาณปี พ.ศ.2289  เป็นทหารของ พระเจ้าตากสินมหาราช ในยุค ปี พ.ศ.2310 - 2325 สมัครเป็นทหารในช่วงกำลังจะเข้าตีเมืองจันทบุรี และตั้งชุมนุม พระยาตาก อยู่ ในปี พ.ศ.2310 และหลังจากนั้นก็ติดตาม พระเจ้าตากสิน มาตลอด โดยเรียนรู้ศึกษาวิชาคาถาอาคม เข้มขลังหนังดีมาตั้งแต่เป็นทหารวัยหนุ่มๆ
ภายหลังตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานีก็ถูกส่งขึ้นเหนือมาดูแลพระนครศรีอยุธยาราชธานีเก่า หลังสิ้นยุคสงคราม ได้บวชพระและจำวัดอยู่ที่พระนครศรีอยุธยา จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์รุกขมูล ขึ้นเหนือไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อ หลวงพ่อแป้น รูปร่างขาวสูง ส่วนตัวหลวงพ่อปั้นนั้นรูปร่างล่ำ แบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านธุดงค์ มาถึงบริเวณแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด
ก็ได้อธิษฐานด้วยการโยนผ้าอาบไปกระทั่งผ้าอาบปลิวตามลมมาตกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน หลวงพ่อปั้น จึงเริ่มรวบรวมศรัทธาก่อสร้าง วัดค้างคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้น ก็ใช้เรือขึ้นต่อไปทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยตอนที่พ่อเฒ่าท่านธุดงค์มา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย 1 ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัดจนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่า ที่ไม่ มีใครกล้าทำอันตรายจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเจ้าลิงก็ทำแสบแอบขโมยใบลานเทศน์ ที่มีลายมือชื่อ หลวงพ่อเฒ่า ไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
นอกจาก หลวงพ่อเฒ่า จะเลี้ยงลิงแล้วท่านยังมีช้างอีกสามเชือก ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้และเป็นพาหนะให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืนนำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด  โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือหลวงพ่อสงฆ์  วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ
วัตถุมงคลที่ทัน หลวงพ่อเฒ่า นั้น มีอยู่สองอย่างที่ตกทอดมาคือ ผ้ายันต์แดงจารอักขระขอม "อะปะจะคะ" และตะกรุดเนื้อตะกั่ว เป็นที่หายากมากในปัจจุบัน คนรุ่นเก่าท่านบอกต่อๆกันมาว่าหลวงพ่อเฒ่านั้นท่านอายุยืนเกินกว่า 100 ปี และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ช่วงบวชใหม่ๆ ก็เดินทางมาเรียนวิชากับ หลวงพ่อเฒ่า
ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักหลวงปู่ศุข เพียงแต่ได้รับฟังมาจาก หลวงปู่ศุข ว่ารู้จัก หลวงพ่อเฒ่า มาในราวๆ ปี 2410 กว่าๆ  ต่อมาหลังจากปี 2420 ก็ไม่มีใครพบเห็นหลวงพ่อเฒ่าอีกเลย รูปปั้นหลวงพ่อเฒ่าที่ปรากฎได้มาจากนิมิตของหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ที่บอกกล่าวไว้ว่าท่านมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งเหมือนตัวจริงของหลวงพ่อเฒ่ามากๆ อย่างอื่นคงเหลือไว้เพียงตำราใบลาน พระธรรมวินัย และสรรพวิชาต่างๆ ที่มีบันทึกไว้
หลวงพ่อป่วน วัดโพธิ์งาม หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ต่างก็ได้ศึกษาจากตำราดังกล่าว อันจะเห็นได้ในพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ "อะปะจะคะ" ที่สืบทอดมาในวัตถุมงคลของท่านในหลายๆรุ่น แม้กาลปัจจุบัน หลวงพ่อเฒ่า จะละสิ้นสังขารไปนานมากกว่าร้อยปีแล้ว แต่ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ยังปรากฏให้ได้เห็นอยู่ตลอดเวลา
ดังจะมีผู้ไปบูชากราบไหว้ขอพร  หรือบนบานอยู่อย่างสม่ำเสมอ และทุกอย่างจะสำเร็จสมประสงค์กับบารมีที่สั่งสมมาของแต่ละคนอยู่เป็นประจำ โดยผู้ที่บนบานศาลกล่าวเมื่อสำเร็จสมปรารถนาแล้วก็ต้องไปแก้เสมอ มิฉะนั้นแล้วจะพบว่า มีลิงป่ามาเดินวนๆ เวียนๆ อยู่หน้าบ้าน/หลังบ้าน เพื่อทวงคำสัญญาที่บอกกล่าวไว้เสมอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา