"Brace for Impact"
ผมประทับใจหนังเรื่อง Sully มาก
Sully เป็นเรื่องจริงของเที่ยวบิน US Airways ของเช้าวันที่ 15 มกราคม 2009 ที่บินออกจากสนามบินลากวาเดียร์ นิวยอร์ก
แต่โชคไม่ดี ในขณะที่เพิ่งบินขึ้นไปไม่กี่วินาที ในระดับความสูงเพียง 2,800 ฟิต ก็ชนกับฝูงห่านกลุ่มใหญ่ (Canadian Geese) จนทำให้เครื่องยนต์ทั้งสองข้างพังลง
นักบินมีเวลาเพียง 208 วินาทีเท่านั้น เพื่อตัดสินใจให้ดีที่สุด
ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และสติสัมปชัญญะ ของกัปตัน Sully (อายุ 57 ปี) สามารถนำเครื่องร่อนลงสู่แม่น้ำฮัดสันอย่างปลอดภัย และผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 155 คน รอดชีวิตได้ราวกับปาฏิหารย์
กัปตัน Sully กลายเป็นฮีโร่ เป็นข่าวเด่นดังให้กับชาวเมืองนิวยอร์กที่กำลังหดหู่จากวิกฤตการเงิน (Subprime crisis 2008) ให้มีความหวังอีกครั้ง
ความพีคถัดมาของหนัง คือ ทั้งกัปตันและนักบินผู้ช่วยต้องถูกสอบสวนภายหลัง ว่าทำไมถึงไม่บินกลับไปที่สนามบินที่ใกล้ที่สุด?
เพราะในการบินจำลองแบบ Simulator พบว่าถ้านักบินหันกลับทันที จะสามารถนำเครื่องลงจอดสนามบินใกล้ทั้ง 2 แห่งได้อย่างปลอดภัย
แต่กัปตัน Sully ตอบได้ดีมาก ว่า ทั้งหมด ยังไม่ได้นำปัจจัยความเป็นมนุษย์ (Human factor) เข้าไปพิจารณาด้วย
ที่ผ่านมา ไม่มีนักบินคนไหน ที่เจอเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วรู้โดนทันที ว่าต้องหันหัวเครื่องบินกลับไปลงจอดที่สนามบินที่เพิ่งออกมาได้อย่างปลอดภัย
ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจจะหมายถึงความเสี่ยงถึงชีวิตของผู้โดยสารอีกร้อยกว่าคน
คงนึกภาพตามออกนะครับ ว่าถ้าเป็นแบบเราๆ คงสติแตกไปแล้วแน่ๆ
สุดท้าย คณะกรรมการ ให้เพิ่มเวลาการตัดสินใจอีก 35 วินาที เพื่อทดสอบการบินจำลอง Simulator อีกครั้ง
และพบว่าไม่สามารถนำเครื่องลงจอดสนามบินใกล้เคียงทั้ง 2 แห่งได้
ดังนั้น นั้นการลงจอดในแม่น้ำฮัดสันจึงกลายเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด
พีคในพีค... ท้ายสุด คณะกรรมการกล่าวชื่นชมกัปตัน Sully ว่าทั้งหมดทั้งมวล ถ้าไม่มีกัปตัน Sully ในสมการ คงไม่ได้ผลลัพธ์แบบนี้
แต่กัปตัน Sully กลับตอบว่า "ไม่เห็นด้วย"
ถ้าหากไม่มีพนักนักต้อนรับมืออาชีพทั้ง 4 คน
ผู้โดยสารทุกคนที่ให้ความร่วมมือ
หน่วยกู้ภัยทางน้ำทางอากาศที่ปฏิบัติการแบบไม่รีรอ
และพนักงานหอบังคับการบินที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะไม่เป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน
ผมนับถือความมี Leadership ของ กัปตัน Sully อย่างที่สุด
ผมเชื่อว่า บางครั้งในชีวิตเราก็อาจจะต้องเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้
เรื่องที่เราไม่ได้ทำกรรมอะไรไว้เลย แต่ต้องมารับเคราะห์กรรมนั้นแทน
หลายครั้งเราคงคิดว่า มันคงเป็นคราวซวยของเรา เป็นหายนะที่ต้องเจอ
แต่เมื่อต้องเจอแล้ว เราจะทำอย่างไรกับมันต่อ...
จะให้มันเป็นหายนะจริงๆ
หรือจะพลิกมันเป็นโอกาส ที่จะได้แสดงศักยภาพขั้นสูงสุดของเรา
ในโมเม็นต์ที่ใช่ ...ผมว่าเราเลือกได้ครับ
Brace for Impact!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
