5 มี.ค. 2023 เวลา 01:10 • ข่าวรอบโลก
ไวต์เฮาส์

“โอลาฟ โชลซ์” นายกเยอรมนี มาอเมริกาพบ “ไบเดน” หลังเรื่องอื้อฉาว Nord Stream

3 มีนาคม พ.ศ. 2566 ตามเวลาท้องถิ่นในดีซี ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ให้การต้อนรับการมาเยือนทำเนียบขาวของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี “โอลาฟ โชลซ์” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้พูดคุยกัน “แบบส่วนตัว” ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว นานกว่า 1 ชั่วโมง
1
“โชลซ์” เดินทางมาอเมริกาแบบทริปวันเดียวสั้นๆ และไม่มีแผนการประชุมที่อื่นใดๆในอเมริกา นอกจากกับ “ไบเดน” ที่ทำเนียบขาว
โดยใช้โอกาสนี้ย้ำคำมั่นของสองฝ่ายในการสนับสนุนทางทหารอย่างต่อเนื่องแก่ยูเครน “ตราบเท่าที่ยังไหว”
3
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากวาทศิลป์และการแลกเปลี่ยนความยินดีตามปกติแล้ว ผู้นำทั้งสองได้ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการพูดคุยระหว่างกันของพวกเขา และไม่ตอบคำถามใดๆ จากนักข่าว
เครดิตภาพ: Twitter @POTUS
“ไบเดน” ได้กล่าวกับ “โชลซ์” ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ดังนี้
  • ผมอยากจะขอบคุณ “โอลาฟ” สำหรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและมั่นคงของคุณ
  • สิ่งที่ผมพูดด้วยความจริงใจ มันสร้างโลกแห่งความแตกต่าง คุณก้าวขึ้นมาให้การสนับสนุนทางทหารที่สำคัญ และผมขอยืนยันว่านอกเหนือจากการสนับสนุนทางทหารแล้ว การสนับสนุนทางศีลธรรมที่คุณให้กับชาวยูเครนนั้นตราตรึงใจมาก
1
  • “ไบเดน” ยังชื่นชมการใช้จ่ายด้านกลาโหมของเยอรมนีที่เพิ่มขึ้น และชื่นชม “โชลซ์” ที่ถอยห่างออกจากแหล่งพลังงานของรัสเซีย ไบเดนพูดว่า “ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย มันยากมากสำหรับคุณ”
2
เมื่อเดือนก่อน “ซีมัวร์ เฮิร์ช” นักข่าวระดับตำนานรางวัลพูลิตเซอร์ ออกมาเปิดโปงข้อมูลว่า อเมริกาอยู่เบื้องหลังของการก่อวินาศกรรมท่อก๊าซ Nord Stream เมื่อกันยายน 2022 โดยระบุว่าไบเดนเป็นคนสั่งการอีกต่างหาก พร้อมอธิบายไทมไลน์ขั้นตอนการก่อวินาศกรรมไว้อย่างชัดเจน
2
จุดประสงค์เพื่อต้องการตัดการลำเลียงก๊าซธรรมชาติของ “รัสเซีย” เพื่อส่งผ่านทะเลบอลติกขึ้นฝั่งที่ “เยอรมนี” และกระจายต่อส่งไปยังส่วนอื่นในยุโรปตะวันตก เพื่อให้แน่ใจว่าเยอรมนีจะไม่เปลี่ยนใจเกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซียและการส่งอาวุธไปยังยูเครน
1
“ไบเดน” พูดในการแถลงการณ์ต่อนักข่าวเกี่ยวกับการจะให้ “ยุติ” Nord Stream 2 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2022 หากกองกำลังรัสเซียเริ่มเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อยูเครน ระหว่างการเยือนทำเนียบขาวครั้งก่อนหน้านี้ของ “โชลซ์”
1
สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นนี้ จากบทความที่ผมเคยเขียนไว้ตามลิงก์ด้านล่าง
  • “โชลซ์” ไม่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานของเยอรมนีในการพูดคุยร่วมกับ “ไบเดน” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับวอชิงตันเพื่อให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่ยูเครน “มันสำคัญมากที่เราจะต้องสื่อสารกับพันธมิตรของเรา [อเมริกา] ว่าเราจะทำต่อไปตราบเท่าที่สถานการณ์ยังต้องการและตราบเท่าที่จำเป็น”
3
  • ดังนั้นแล้วเมื่อดูจากคำพูดและท่าทีของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี [จากภายนอก] ในการพบกันส่วนตัวกับไบเดนครั้งนี้ เยอรมนียังต้องอ่อนข้อและผูกสัมพันธ์กับอเมริกาอยู่ต่อไป ถึงแม้ว่าเรื่องการก่อวินาศกรรมท่อก๊าซจะเป็นตัวแปรหลักในการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ตาม
3
ที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ ครั้งนี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเดินทางมายังวอชิงตันพร้อมกับคณะผู้แทนที่มีจำนวนน้อยผิดปกติ และไม่มีกำหนดการแถลงข่าวใดๆ หลังจากการประชุมเป็นการส่วนตัวกับไบเดน
1
ในการนี้ “อเมริกา” ใช้โอกาสในการเปิดเผยแพ็คเกจความข่วยเหลือด้านอาวุธอีกมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ ที่จะส่งไปช่วยยูเครน แต่ “เยอรมนี” ก็ไม่ได้มีการประกาศข้อผูกมัดเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากการพูดคุยกันระหว่างสองผู้นำ
2
ก่อนหน้านี้ “เยอรมนี” ลังเลอยู่หลายเดือนก่อนที่จะให้คำมั่นว่าจะส่งมอบรถถังหลัก Leopard 2 ให้กับเคียฟ จนท้ายที่สุดก็ยืนยันส่งให้เมื่อปลายเดือนมกราคม หลังจากที่ “ไบเดน” สัญญาว่าจะจัดส่งรถถัง M1 Abrams จำนวนหนึ่งให้ด้วย
3
เมื่อรวมกับพันธมิตรในยุโรปและนาโต้แล้ว เยอรมนีหวังว่าจะสร้างกองพันยานเกราะจำนวน 2 กองพันที่ประกอบด้วยรถถัง Leopard 2 กองพันละ 30 คัน ที่เป็นข่าวลือไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่จนถึงตอนนี้พวกเขากลับล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว – อ้างอิง Bloomberg
1
ส่วนรถถังของอเมริกา M1 Abrams คาดว่าจะไม่ถึงยูเครนจนกว่าจะสิ้นปีนี้ – อ้างอิงจากข่าวในกองทัพของยูเครนเอง
สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นนี้ จากบทความที่ผมเคยเขียนไว้ตามลิงก์ด้านล่าง
1
เบื้องหลังฉากการพูดคุยกันของสองผู้นำ มีรายงานว่า “ไบเดน” และ “โชลซ์” ยังได้หารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการสนับสนุนยูเครนในทางการทูต รวมถึงความเป็นไปได้ใน “การคว่ำบาตรจีน” หากจีนยื่นมือเข้าให้การสนับสนุนทางทหารแก่รัสเซีย
2
เรียบเรียงโดย Right SaRa
5th Mar 2023
  • แหล่งข่าวอ้างอิง:
<ภาพปก: โอลาฟ โซลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเดินทางมาสหรัฐอเมริกา และเข้าพบ โจ ไบเดน ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เมื่อ 3 มีนาคม 2023 เครดิต: Susan Walsh/AP>
โฆษณา