#10
ดัชนีลงมาเยอะ ซื้อได้ยัง ต่ำสุดยัง ก็ต้องย้อนกลับไปถามว่า เราซื้อหุ้นหรือซื้อดัชนี แต่ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือดัชนีก็ไม่มีใครตอบได้ มีแต่ออกมาคาดการณ์ว่าจะไปยังไงโดยข้อมูลทางสถิติที่มีเหมือนกันไม่ว่าสำนักไหน แต่มุมมองการคาดคะเนนี้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสมมุติฐานของแต่ละคน ถ้าตอยได้ว่าเราซื้อดัชนีก็ดูแต่ดัชนี แต่ถ้าเราซื้อหุ้น ก็ต้องดูหุ้น ไม่ใช่ดัชนี เพราะหุ้นแต่ละตัวมีปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาแตกต่างกัน ดังนั้นไม่ว่าดัชนีจะลบแค่ไหนก็จะมีหุ้นที่บวกอยู่ในตลาด
และไม่ว่าดัชนีจะพุ่งสู่สูงสุดก็จะมีหุ้นที่ไม่พุ่งตามและบางทีอาจสวนทาง สำหรับผมอล้วผมดูหุ้นเหมือนสินค้า ถ้าของดีกำลังลดราคา และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ขายได้แน่ๆในอนาคตทำไมจะไม่ซื้อ แต่ก็จะมีคำถามว่าที่ราคาไหนก็ต้องกลับมาดูว่าเราเป็นพ่อค้าหุ้นแบบไหน (ดูจากบทความที่เคยเขียนไว้) ผมซื้อที่ราคาที่พอใจซึ่งแต่ละคนก็พอใจในราคาที่ไม่เท่ากัน ซื้ออย่างไรให้ความเสี่ยงลดลง(ดูจากบทความก่อนหน้า) ช่วงนี้ก็จะมีข่าวไม่ดีออกมาเรื่อยๆ ก็จะกดดันไปเรื่อย
ก็จะมีคนทยอยขายออกมาและก็จะมีคนรอสินค้าที่ลดราคาแบบนี้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามแต่ละสำนักเริ่มแจ้งข่าวดีมาเนืองๆก็จะมีคนเริ่มซื้อจนกระทั่งข่าวดีมากมายตอนนั้นราคาสินค้าก็จะสูง เราก็จะรอขายที่ช่วงเวลาน้ัน แต่ท่ามกลางสิ่งเร้าใครจะมีความอดทนรอ และสิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้มีความแตกต่างของกำไรในแต่ละคน มีนักลงทุนมากมายถือหุ้นไว้เอาเงินปันผลมาใช้จ่ายอย่างสบายไม่ต้องทำงาน แต่มูลค่าพอร์ตของเขาเหล่านั้นมีมากน้อยเท่าไหร่ และใช้เวลาสะสมความมั่งคั่งมานานเพียงใด
สำหรับหลายคนรวมทั้งตัวผมไม่ได้ร่ำรวยเริ่มจากพอร์ตเล็กไปแต่เน้น turnover สูงซื้อมาขายไปให้มีกำไรระดับที่พอใจ สะสมความมั่นคั่งพอร์ตก็จะมีมูลค่ามากขึ้น ไม่คิดฝันว่าจะเจอหุ้น 5เด้ง 10เด้ง แต่เป็นพ่อค้าในแบบที่เราเป็นที่ถูกกับจริตเราเอง คุณเป็นพ่อค้าแบบไหนบองอ่านดูในบทที่เคยเขียนไว้ครับ
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
