จริงๆมีหลายทฤษฎีอยู่นะคะเกี่ยวกับอาการที่คุณพ่ออาจจะเป็น แต่เราขอยกตัวอย่างมาซัก 1 อย่างนะคะ🙏 เพราะว่ามันเป็นไปได้เยอะมากเลยค่ะ(จนบางทีเราก็นึกไม่ออกจริงๆค่ะ😢)
เรากำลังสัณนิษฐานถึงการตีกันของยาค่ะ ซึ่งยาแต่ละตัวเวลามันตีกันแล้วจะให้ผลข้างเคียงที่หลากหลายมากค่ะ ตีกันแล้ว dose ของยาอีกตัวในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นหรือลด จากการที่ไปเหนี่ยวนำหรือยับยั้งการขับออก(Metabolism)ของยาอีกตัวค่ะ อีกความหมายหนึ่งก็อาจจะไปเพิ่มผลข้างเคียง(Side effects) จากยาได้ค่ะ
คุณบอกว่าพ่อเป็นเบาหวานความดันโลหิตสูง แสดงว่าพ่อกำลังกินยาพวกนี้อยู่ถูกไหมคะ และอาจจะกินยาอื่นๆด้วย ซึ่งเรากำลังคิดว่า ยาซักตัวที่คุณพ่อกิน(อาจจะเป็นพวกสมุนไพรอื่นๆ หรือยาอะไรซักตัวที่ไม่เกี่ยวกับความดันเบาหวาน) ตีกับยาตัวนี้ค่ะ
อันนี้เป็นตัวอย่างของอาการที่เกิดจากยากลุ่มยาต้านเศร้ากลุ่ม SSRIs (ช่วยเพิ่มการดูดกลับของ Serotonin ในสมอง) เช่น Sertraline ตีกับยารักษาโรคหัวใจ Amiodarone นะคะ โดย Amiodarone จะเป็นตัวยับยั้งไม่ให้ยา Sertraline ถูกขับออก แล้วทำให้ Sertraline อยู่ในกระแสเลือดนานผิดปกติค่ะ และยาอีกประเภทหนึ่งที่ต้องระวังเลยค่ะ คือยาแก้ปวดกลุ่ม opioid เช่น tramadol ค่ะ
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น Serotonin syndrome เกิดจากการมี Serotonin ในสมองมากเกินไป ผู้ป่วยจะมีอาการสับสน มึนงง กระวนกระวาย ตัวสั่น หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก เป็นต้นค่ะ มีตั้งแต่ระดับเล็กน้อย ปานกลาง รุนแรง
ซึ่งในกรณีแบบนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปปรึกษาแพทย์เลยค่ะ คือเราไม่รู้นะว่าพ่อของคุณกำลังกินยาอะไรควบคู่กันไปอยู่ เพราะเราไม่ได้เป็นคนซักประวัติเอง ดังนั้นไปพบแพทย์แล้วแจ้งผลที่เกิดขึ้นเพื่อให้แพทย์ประจำตัวของคุณพ่อวินิจฉัยดีกว่าค่ะว่า เป็นเพราะ Drug interaction ที่ส่งผลไปถึง Dose ของยาหรือเปล่า เขาจะได้เปลี่ยนยา หรือปรับยาให้คุณพ่อได้ค่ะ
ลิงก์ข้างล่างเป็นวารสารจิตแพทย์ค่ะ ซึ่งลิงก์นี้มีการพูดถึง Serotonin syndrome ด้วย ค่ะ ลองไปอ่านเพิ่มเติมเป็นความรู้ได้ค่ะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
