5 มี.ค. 2023 เวลา 12:25 • ดนตรี เพลง

"How to มั๊ย​ล่ะมึง"​

"How to มั๊ย​ล่ะมึง"​
คนหัวเหม่งคือ Joe Satriani ส่วนอีกคือ​ Greg Kihn​ ครับ
สมัยหนุ่มๆไฟยังแรงๆ​ Joe ผู้ซึ่งเป็นมือกีต้าร์หัวก้าวหน้าเล่นอยู่กับวง​ The Square ห้องซ้อมที่พวกเขาใช้ซ้อมอยู่ในตึกโทรมๆโดยแชร์พื้นที่ร่วมกับบริษัท​ Nolo ที่เป็นบริษัทผลิตหนังสือ
บริษัท​ Nolo นี่แม่งผลิตหนังสือเฉพาะทางด้วยนะครับ​ เป็นหนังสือเกี่ยวกับ​ How to​ ในเรื่องต่างๆ
ด้วยความที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน​ พอพวก​ The​ Square พักซ้อมออกมานั่งดูดบุหรี่ก็มักจะเห็นคนงานของบริษัท​ Nolo หอบเอาหนังสือ​ที่เสียหายไม่ผ่าน​ qc มาโยนทิ้งอยู่บ่อยๆ
จนวันนึงหนังสือที่ถูกนำมาโยนทิ้งเป็นหนังสือเกี่ยวกับ​ How to ในการเริ่มต้นทำธุรกิจห้องอัดเสียง​ โอ้โห.... Joe​ เห็นแล้วรีบหยิบเอากลับบ้านไปนอนอ่านเลย เขามีความฝันที่จะทำค่ายเพลงอยู่แล้วด้วย​
เขาอ่านทุกตัวอักษร​แล้วตัดสินใจว่าขอเป็นเถ้าแก่มันซะเลย​ เขาทำตามคำแนะนำ​ทุกอย่างที่หนังสือ​ How to มันบอก​ ติดต่อส่วนราชการ​ กรอกแบบฟอร์ม​ยื่นเรื่องขอจัดตั้ง​ รอการอนุมัติ
"ไม่น่าเชื่อเลย​ หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมไป​ 12 ดอลล่า ไอแม่งได้เป็นเจ้าของ​ Record Company จริงๆด้วย​ ไอทำตามที่หนังสือมันบอกเป๊ะๆ​ ดีใจชิบหาย​ ตอนนั้นไอตั้งชื่อค่ายเพลงของไอว่า Rubina Records เออ​ ชั่ยยยย​ ชื่อเมียไอเองนั่นแหละ"
พอได้เป็นเจ้าค่าย​ Joe ก็ทำอัลบั้มในแบบ​ avant-garde อืมมมม... คือผมจะอธิบายยังไงดีอ่ะ​ 555​ แม่งเป็นอัลบั้มที่มาก่อนกาล​ ออกแนวงานทดลอง​ ไม่มีเบส​ ไม่มีกลอง​ ไม่มีคีย์บอร์ด​ งานแม่งโคตรจะตามใจฉัน​ ไม่แคร์​คนฟัง
เขาลงทุนทำออกมา​ 100 ก็อบปี้​ ปรากฏ​ว่าขายไม่ได้เลยครับ​ ไม่มีใครซื้อไปฟังเลย 555
Joe ผิดหวังมาก​ เขาตัดสินใจแพ็คแผ่นเสียง​ แล้วส่งไปให้ร้านขายแผ่นเสียงเล็กๆ​ 40-50​ แห่ง​ พร้อมทั้งแนบข้อความไปด้วยว่า​ "เฮ้​ พวก​ ช่วยๆเอาไปขายให้หน่อยเถอะ​ ขายได้กี่บาทไอยกให้หมดเลย​ ไอไม่สนห่าเหวอะไรแล้ว Sell these and keep the money. I don't care." อารมณ์​ประมาณ​คนหมดกำลังใจนั​่นแหละครับ​
หลังจากเจ๊งไม่เป็นท่า​ Joe ก็ยังคงเล่นอยู่กับวง​ The Square วันนึงตอนที่กำลังซ้อมๆกันมือเบสก็เอาข่าวดีมาบอกว่า​ "เฮ้​ Guitar Player magazine เขาเอาอัลบั้มที่ขายไม่ออกของนายไปรีวิวว่ะเพื่อน"
Joe ก็เลยรีบไปหารีวิวมาอ่าน พออ่านจบคราวนี้​ Joe มีก๊อกสองครับ​ เขาคิดว่าจะเดินหน้าทำค่ายเพลงต่อแบบไปให้สุด​ เขาลาออกจากวง​ The Square ทันทีเพื่อเดินหน้าแบบเต็มตัว
แต่การจะไปต่อแบบมีทรงมวยนั้นมันต้องมีทุน​รอน Joe เลยต้องไปยื่นเรื่องขอกู้เงินกับสถาบันการเงิน​
แต่​ เฮ้ยยยย​ ไม่มีสถาบันการเงินไหนยินดีปล่อยกู้ให้กับนักดนตรีที่อยากเป็นเถ้าแก่เลยแม้แต่รายเดียว​ "I was turned down by everyone." Joe รำพึงไว้แบบนี้เลยครับ
คนมันดวงจะต้องเป็นหนี้ครับ​ ท้ายที่สุดมีบริษัท​บัตรเครดิตรายนึงยอมให้เครดิต​ Joe ออกเช็คมูลค่า​ 5,000​ ดอลล่าให้มาเป็นเงินทุน​ เขาเอาเงินก้อนนั้นไปถมใส่​ Studio​ แบบคนหน้ามืด​ ไม่ต้องเดาครับ​ Joe เจ๊งอีกจนได้​ คราวนี้ไม่ได้เจ๊งแค่หมดตัวแต่ยังเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกต่างหาก
Joe ไม่มีปัญญาใช้หนี้​ เขาห่อเหี่ยว​ สิ้นหวัง​ หมดอาลัย​ตายอยาก​
พอเรื่องนี้รู้ไปถึงหู​ Greg Kihn​ นักดนตรีรุ่นพี่​ที่ตอนนั้นมีชื่อเสียงแล้ว Greg กำลังขาดมือกีต้าร์​เลยยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยจ่ายหนี้ให้​ Joe แต่ขอให้​ Joe มาเป็นสมาชิกของ​วง Greg Kihn Band​ หน่อย​ Joe ตกลงทันที​
Joe บอกว่า​ "ไอแม่งอ่านหนังสือ​ How to แล้ววาดฝันจะมีค่ายเพลง​ของตัวเอง เป็นเถ้าแก่​ และออกอัลบั้ม​ แต่ไปๆมาๆไอกลับต้องเป็นหนี้แล้วดันได้มาออกอัลบั้มจริงๆกับ​ Greg Kihn Band ซะอย่างงั้น​ I was on my way to my first real record กับ​ Greg."
หนังสือ​ How to นี่ทำเอา​ Joe เข็ดไปจนตายเลยครับ​ 555
ปัจจุบัน​ Joe อายุ​ 66 ส่วน​ Greg อายุ​ 73 ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา​ : incด็อทคอม
โฆษณา