คนหัวเหม่งคือ Joe Satriani ส่วนอีกคือ Greg Kihn ครับ
สมัยหนุ่มๆไฟยังแรงๆ Joe ผู้ซึ่งเป็นมือกีต้าร์หัวก้าวหน้าเล่นอยู่กับวง The Square ห้องซ้อมที่พวกเขาใช้ซ้อมอยู่ในตึกโทรมๆโดยแชร์พื้นที่ร่วมกับบริษัท Nolo ที่เป็นบริษัทผลิตหนังสือ
บริษัท Nolo นี่แม่งผลิตหนังสือเฉพาะทางด้วยนะครับ เป็นหนังสือเกี่ยวกับ How to ในเรื่องต่างๆ
จนวันนึงหนังสือที่ถูกนำมาโยนทิ้งเป็นหนังสือเกี่ยวกับ How to ในการเริ่มต้นทำธุรกิจห้องอัดเสียง โอ้โห.... Joe เห็นแล้วรีบหยิบเอากลับบ้านไปนอนอ่านเลย เขามีความฝันที่จะทำค่ายเพลงอยู่แล้วด้วย
เขาอ่านทุกตัวอักษรแล้วตัดสินใจว่าขอเป็นเถ้าแก่มันซะเลย เขาทำตามคำแนะนำทุกอย่างที่หนังสือ How to มันบอก ติดต่อส่วนราชการ กรอกแบบฟอร์มยื่นเรื่องขอจัดตั้ง รอการอนุมัติ
"ไม่น่าเชื่อเลย หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมไป 12 ดอลล่า ไอแม่งได้เป็นเจ้าของ Record Company จริงๆด้วย ไอทำตามที่หนังสือมันบอกเป๊ะๆ ดีใจชิบหาย ตอนนั้นไอตั้งชื่อค่ายเพลงของไอว่า Rubina Records เออ ชั่ยยยย ชื่อเมียไอเองนั่นแหละ"
Joe ผิดหวังมาก เขาตัดสินใจแพ็คแผ่นเสียง แล้วส่งไปให้ร้านขายแผ่นเสียงเล็กๆ 40-50 แห่ง พร้อมทั้งแนบข้อความไปด้วยว่า "เฮ้ พวก ช่วยๆเอาไปขายให้หน่อยเถอะ ขายได้กี่บาทไอยกให้หมดเลย ไอไม่สนห่าเหวอะไรแล้ว Sell these and keep the money. I don't care." อารมณ์ประมาณคนหมดกำลังใจนั่นแหละครับ
หลังจากเจ๊งไม่เป็นท่า Joe ก็ยังคงเล่นอยู่กับวง The Square วันนึงตอนที่กำลังซ้อมๆกันมือเบสก็เอาข่าวดีมาบอกว่า "เฮ้ Guitar Player magazine เขาเอาอัลบั้มที่ขายไม่ออกของนายไปรีวิวว่ะเพื่อน"
Joe ก็เลยรีบไปหารีวิวมาอ่าน พออ่านจบคราวนี้ Joe มีก๊อกสองครับ เขาคิดว่าจะเดินหน้าทำค่ายเพลงต่อแบบไปให้สุด เขาลาออกจากวง The Square ทันทีเพื่อเดินหน้าแบบเต็มตัว
แต่การจะไปต่อแบบมีทรงมวยนั้นมันต้องมีทุนรอน Joe เลยต้องไปยื่นเรื่องขอกู้เงินกับสถาบันการเงิน
แต่ เฮ้ยยยย ไม่มีสถาบันการเงินไหนยินดีปล่อยกู้ให้กับนักดนตรีที่อยากเป็นเถ้าแก่เลยแม้แต่รายเดียว "I was turned down by everyone." Joe รำพึงไว้แบบนี้เลยครับ
คนมันดวงจะต้องเป็นหนี้ครับ ท้ายที่สุดมีบริษัทบัตรเครดิตรายนึงยอมให้เครดิต Joe ออกเช็คมูลค่า 5,000 ดอลล่าให้มาเป็นเงินทุน เขาเอาเงินก้อนนั้นไปถมใส่ Studio แบบคนหน้ามืด ไม่ต้องเดาครับ Joe เจ๊งอีกจนได้ คราวนี้ไม่ได้เจ๊งแค่หมดตัวแต่ยังเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกต่างหาก
Joe ไม่มีปัญญาใช้หนี้ เขาห่อเหี่ยว สิ้นหวัง หมดอาลัยตายอยาก
พอเรื่องนี้รู้ไปถึงหู Greg Kihn นักดนตรีรุ่นพี่ที่ตอนนั้นมีชื่อเสียงแล้ว Greg กำลังขาดมือกีต้าร์เลยยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยจ่ายหนี้ให้ Joe แต่ขอให้ Joe มาเป็นสมาชิกของวง Greg Kihn Band หน่อย Joe ตกลงทันที
Joe บอกว่า "ไอแม่งอ่านหนังสือ How to แล้ววาดฝันจะมีค่ายเพลงของตัวเอง เป็นเถ้าแก่ และออกอัลบั้ม แต่ไปๆมาๆไอกลับต้องเป็นหนี้แล้วดันได้มาออกอัลบั้มจริงๆกับ Greg Kihn Band ซะอย่างงั้น I was on my way to my first real record กับ Greg."
หนังสือ How to นี่ทำเอา Joe เข็ดไปจนตายเลยครับ 555
ปัจจุบัน Joe อายุ 66 ส่วน Greg อายุ 73 ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้