The Inspiration by Stock Operator คนค้นหุ้น
วิกฤตเศรษฐกิจและภาวะขาลงในตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบ 48 ปีแล้วนับตั้งแต่การซื้อขายครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 30 เมษายน 2518 จากเริ่มต้นที่มีปริมาณการซื้อขายต่อวันไม่ถึงร้อยล้านบาท จนมาวันนี้ปริมาณมาการซื้อซื้อขายต่อวันอยู่ที่หลักหมื่นล้านบาท
วันนี้ผมจะเล่าให้ทุกท่านฟังว่าตลาดหุ้นบ้านเราผ่านอะไรมาบ้าง ในช่วงชีวิตของมัน
ในยุคแรกตลาดหุ้นบ้านเราไม่ได้มีกฏเกณฑ์มาดูแลมากนัก และชาวไทยเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุน ช่วงนั้นตลาดหุ้นถือว่าเป็นตลาดการเก็งกำไรแบบ 100% เพียงแค่ 2 ปีหลังจากการซื้อขายครั้งแรกเกิดขึ้น วิกฤตการณ์ครั้งแรกก็เกิดขึ้น ชื่อของมันคือ วิกฤตราชาเงินทุน มันเกิดจากบริษัทหนึ่งที่ปล่อยเงินกู้ให้กับผู้กู้ที่ไม่มีคุณภาพนัก
เงินเหล่านั้นไม่ได้ไหลไปยังภาคเศรษฐกิจ แต่ไหลไปยังตลาดหุ้น โดยราชาเงินทุนเองก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกปั่นขึ้นไป จากราคา IPO ที่ 275 บาทเป็น 2,470 บาท และเมื่อบริษัทขาดสภาพคล่องไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ ฟองสบู่ที่สูบเงินเข้าไปจนเต็มก็แตกออก เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้น จากนั้นก็ซึมยาวไปนาน 8 ปี
เมื่อเข้าปีพ.ศ. 2529 ตลาดหุ้นก็เริ่มบูมอีกครั้ง ตอนนั้นผู้คนเริ่มสนใจเล่นหุ้นกันมากขึ้น แต่บูมได้อยู่ไม่นานเมื่อตลาดสหรัฐฯเกิด BLACK MONDAY ขึ้น ตลาดหุ้น บ้านเราก็ร่วงตามไป เป็นความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ครั้งนั้นไม่ได้เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่เชื่อกันว่ามีสาเหตุมากจากความขัดข้องของ Algorithm Trading ในยุคนั้น
การฟื้นตัวครั้งนั้นใช้เวลาไม่นานนัก เพียง 3 ปี ตลาดก็สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องสะดุดอีกครั้งจากเหตุปัจจัยภายนอก เมื่อความขัดแย้งของอิรักและคูเวตใช้การเจรจาทางการทูตไม่ได้ผล การปฏิบัติการทางการทหารจึงเริ่มถูกใช้ และสหรัฐฯก็ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่ง วิกฤครั้งนั้นเรียกว่า สงครามอ่าวเปอร์เซีย
จากนั้นในเดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2536 ตลาดหุ้นก็สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ทุกอย่างดูสวยงามและเปี่ยมด้วยความหวัง เศรษฐกิจไทยเติบโตจนเกือบได้เป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ตลาดหุ้นให้เงินกับคนที่เข้ามาง่ายๆ โดยทุกคนที่เข้ามานั้นก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีหายนะรออยู่
ในช่วงการเติบโตนั้น เงินทุนได้ไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเงินเหล่านั้นเข้ามาเนื่องจากนโยบายเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี และด้วยดอกเบี้ยภายในประเทศที่ถูกตรึงไว้ในระดับสูง สถาบันการเงินยุคนั้นก็นำเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาปล่อยกู้ เพราะจะได้ส่วนต่างที่มากขึ้น แต่เงินที่ปล่อยให้กู้นั้นกลับเข้าสู่วงจรการเก็งกำไรจนเกินตัว ทำให้ภาวะฟองสบู่เกิดขึ้น
และเมื่อไทยขาดดุลการค้าในปีพ.ศ. 2537 ทุกอย่างก็เริ่มสะดุด สถานะเงินทุนสำรองฯเริ่มอ่อนแอ เงินทุนที่เคยไหลเข้ามาก็เริ่มไหลออกจากประเทศ และทุกอย่างก็ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อไทยตกเป็นเป้าการโจมตีค่าเงินบาท ซึ่งจะนำไปสู่วิกฤตต้มยำกุ้งในเวลาต่อมา
สงครามการเงินครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยกับเฮดจ์ ฟันด์ต่างชาติ เมื่อพวกเขาเห็นว่า ค่าเงินบาทที่ราวๆ 25 บาทดอลล่าร์สหรัฐฯนั้นแข็งค่าเกินปัจจัยทางเศรษฐกิจไปมาก สงครามครั้งนี้ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้เงินทุนสำรองฯไปจนเกือบหมด และสุดท้ายไทยก็ต้องปล่อยให้ค่าเงินบาทลอยตัว เงินที่ถูกกู้มาจากต่างประเทศก็มีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อต้องจ่ายคือเป็นเงินบาท วิกฤตการณ์ครั้งนั้นพาดัชนีหุ้นไทยลงมาอยู่ที่ 204.59 จุด จากเดิมที่เคยไปได้ไกลถึง 1,789.16 จุด
กว่าตลาดหุ้นไทยจะไปถึงจุดเดิมได้ใช้เวลาเกือบ 23 ปีเต็ม โดยระว่างทางนั้น ตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้ต่างกับชีวิตคนมากนัก มีขึ้นมีลง มีช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและเต็มไปด้วยความกลัว โดยช่วงเวลาที่ยากลำบากในตลาดหุ้นเกิดขึ้นตามอีก 5 ครั้งหลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยส่วนมากจะมีเหตุมาจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่น ฟองสบู่ดอท-คอม เหตุการณ์ 9-11 วิกฤตสับไพรม มหาอุทกภัย และโควิด-19
เราจะเห็นได้ว่าการติดลบแต่ละครั้งนั้นไม่ต่ำกว่า 20% และทุกครั้งๆที่ภาวะตลาดขาลงผ่านไป ตลาดหุ้นก็ฟื้นตัวกลับมาได้เสมอ แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาขึ้นอยู่กับว่าภาคเศรษฐกิจจริงจะฟื้นตัวกลับมาได้เมื่อไหร่และความหวังของคนในตลาดหุ้นจะถูกเรียกคืนกลับมาได้หรือไม่
เข้ากลุ่ม Open Chat รับข้อมูลข่าวสารการลงทุน
.
ถ้าหากคุณมีปัญหา
"มาร์เก็ตติ้งไม่ดูแล, ไม่มีหุ้นเด่นแนะนำ,
ข่าวสารไม่ส่งให้, กลยุทธ์ไม่ชัดเจน"
ทางเราแก้ปัญหาให้คุณได้!!!
รับดูแลพอร์ตการลงทุนแบบส่วนตัว
"เสมือนเพื่อนคู่คิดที่จะคอยอยู่เคียงข้างในทุกจังหวะของชีวิต"
พร้อมเข้ากลุ่มลับ DAY TRADE, MOMENTUM TRADE by Stock Operator คนค้นหุ้น
ให้มุมมองเชิง Technical ที่คุณจะไม่พลาดเมื่อตลาดมา และคุณจะอยู่รอดเมื่อตลาดไม่เป็นใจ
แอด line ส่วนตัวได้ที่ลิ้งค์ด้านล่าง
*ไม่มีค่าใช้จ่าย... ย้ำ ไม่มีค่าใช้จ่าย!!!
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
