5 มี.ค. 2023 เวลา 18:11 • ปรัชญา

ว่าด้วยเรื่อง ความฝัน

ทำไมบางครั้งเราฝันซ้ำๆในเรื่องเดิมๆ ทำไมบางครั้งเราฝันว่าสามารถแก้ปัญหาในสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ในตอนตื่น ทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันบางครั้งสามารถทำเราให้ดิ่งลึกเข้าไปสัมผัส และรับรู้ความรู้สึกอย่างรุนแรง ในสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับเรื่องจริง และทำให้เราอารมณ์ค้างขึ้นมาในตอนตื่น “ทำไมเราถึงฝัน”
ซีคมุนท์ ฟร็อยท์ ผู้เป็นที่รู้จักในฐานะบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ เชื่อว่าความฝันเป็นความปรารถนาลึกๆ ภายในจิตใจ และมักจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่คนเราปรารถนาอยากจะทำเป็นอย่างมาก แต่ในโลกความเป็นจริงแล้วไม่สามารถที่จะทำได้ ดังนั้นจิตใต้สำนึกจึงเก็บรวบรวมความปรารถนาเหล่านี้เอาไว้และแสดงออกมาในรูปแแบบของจินตนาการในความฝันขณะนอนหลับแทน “เราจึงมักจะฝันเรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้”
ชาวกรีกและโรมันโบราณเชื่อกันว่า ฝันคือสารจากพระเจ้า , ชาวอียิปต์โบราณ เชื่อว่าผู้ที่เข้าใจฝัน คือบุคคลพิเศษ , ในประเทศจีน เชื่อกันว่าฝัน คือการผละวิญญาณจากร่างหนึ่ง ไปสู่อีกร่างในโลกแห่งฝัน ที่ซึ่งร่างนั้นเพิ่งตื่น , ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันบางชนเผ่า และชาวเม็กซิกันที่เจริญแล้ว เชื่อว่า ฝันคืออีกโลกหนึ่ง ที่เราไปเยือนในยามหลับ , ในยุโรป ผู้คนเชื่อกันว่า ฝันคือสิ่งชั่วร้าย และอาจชักนำให้คนหันไปทำสิ่งเลวร้ายได้
และในบางความเชื่อก็เชื่อว่าความฝันเป็นลางบอกเหตุของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความฝันคือช่องทางการสื่อสารระหว่างโลกของจิตวิญญาณ และโลกมนุษย์ หรืออาจยาวไกลจนไปถึงว่าความฝันคือโชคลาง ให้เราไปตีเป็นเลขเผื่อเสี่ยงโชค
สำหรับนักจิตวิทยาสมัยใหม่ มองว่าความฝันนั้น เป็นหนึ่งในกลไกทางจิต เพื่อปลดปล่อยความกลัดกลุ้ม และความตึงเครียดภายในจิตใจ ดังนั้นเมื่อเกิดการฝันขึ้น จะทำให้สภาพจิตใจรู้สึกผ่อนคลายลง โดยระบุถึงสาเหตุที่ทำให้คนเราฝัน ได้แก่
1. ฝันที่มาจากความเจ็บปวด : เมื่อสภาพจิตใจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้ภาวะจิตใจในขณะนั้นกระตุ้นให้เกิดความฝันที่ยังหมกมุ่นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
2. ฝันจากเรื่องค้างคาใจ : การใช้ชีวิตประจำวัน หากการกระทำ หรือปัญหาบางอย่างยังไม่บรรลุผลหรือประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดความคิดหมกมุ่น ค้างคา และยึดติดอยู่กับเหตุการณ์เหล่านั้น ฝันลักษณะนี้บางทีก็สามารถช่วยแก้ปัญหาที่คาใจได้ หรือบอกวิธีการแก้ปัญหานั้นๆให้แก่เรา
3. ฝันอันเนื่องมาจากประสบการณ์ในอดีต : บางความทรงจำที่อาจจะลืมไปแล้ว แต่เมื่อพบเจอเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน ก็สามารถกระตุ้นให้เรานำกลับมาเป็นความฝันลักษณะนี้ได้เช่นกัน
ในทางวิทยาศาสตร์เรื่องความฝันก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าศึกษาค้นคว้าวิจัย ในทางความเชื่อความฝันคือสิ่งที่น่าสนใจ อาจเป็นช่องทางของการสื่อวิญญาณ
แต่สำหรับตัวข้าพเจ้านั้นความฝันอาจจะเป็นเพียงกระบวนการทางสมอง และจิตสำนึกของเราที่ได้รับผลกระทบจากชีวิตประจำวัน แล้วสื่อสารกับเราในสภาวะตอนที่เราหลับ
หรือความฝันอาจจะเป็นเพียงการที่สมองสั่งการออกมาเพื่อเยียวยาจิตใจเรา ดังเช่น ในสภาวะที่เราตึงเครียด หรือจมดิ่งกับความรู้สึกด้านลบสุดๆ สมองอาจจะแสดงเรื่องราวความฝันให้เรารู้สึกดีมากๆ รู้สึกถึงความสุขชีวิต ป้องกันไม่ให้จิตใจเราต้องแตกสลายเพราะความจริง หรือความรู้สึกที่ส่งผลกระทบต่อเราในตอนนั้นๆ และคอยย้ำเตือนเราว่าชีวิตยังมีความสุขอีกมาก อย่าให้จิตใจเราต้องมาแตกสลายเพราะแค่บางเหตุการณ์ในชีวิตเลย
ขอให้ความฝันในคืนนี้ของทุกคนเป็นความฝันที่ดี
เพ้อเจ้อรอบดึก
อ้ายเคน (Ordinary Man) 6 มีนาคม 2566
 
โฆษณา