Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ผ่านบอล
•
ติดตาม
6 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • กีฬา
จบไปแล้วสำหรับศึกแดงเดือดนัดที่สองของฤดูกาล
และก็เป็นทางด้านลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้อย่างถล่มถลาย 7-0 ด้วยฟอร์มที่น่าทึ่ง!!
โดยถ้าเราย้อนดูความมั่นใจก่อนเกม ฝั่งแมนยูที่พึ่งได้แชมป์คาราบาวคัพมานั้นดูจะมีความมั่นใจมากกว่าลิเวอร์พูลที่มีฟอร์มการเล่นขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ทำไมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามจนน่าตกใจขนาดนี้
และต่อไปนี้คือ 5 ประเด็นหลังเกมแดงเดือดที่ขาดลอยที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์
[ ความสมดุลของกองกลางที่แตกต่างกัน ] ในทีมฟุตบอล กองกลางถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการขับเคลื่อนเกมของทีม โดยสิ่งที่สำคัญคือความสมดุลของแผงกองกลาง ซึ่งต้องมีทั้งคนที่เน้นพละกำลังและเน้นลูกเทคนิคหรือการจ่ายบอล
ทีนี้เรามองมาดูเกมแดงเดือดในวันนี้ คู่กองกลางของลิเวอร์พูลอย่างฟาบินโญ่และเฮนเดอร์สันดูมีความสมดุลมากกว่าคู่กลางของแมนยูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฟาบินโญ่ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มของเขาไม่ดีเอาเสียเลย แต่วันนี้ฟาบินโญ่สามารถคุมแดนกลางของทีมได้อย่างอยู่หมัดทั้งการสกัดบอลและการแก้เพลสซิ่งก็ทำได้ดี ส่วนกัปตันเฮนโด้ก็เป็นกองกลางที่วิ่งทำงานหนักได้อย่างดีเยี่ยม เขาคอยไปประคองรับบอลและจ่ายบอลให้ทีมได้เปรียบหลายต่อหลายลูก ส่งผลให้วันนี้ทีมลิเวอร์พูลเล่นง่ายขึ้นมาก ๆ
ส่วนทางด้านแมนยูการขาดหายไปของอีริคเซ่นเป็นปัญหาที่เด่นชัดขึ้นในนัดนี้ การยืนคู่กันของคาเซมิโร่และเฟร็ดดูไม่ลงตัวเอาเสียเลย เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นสายพละกำลัง แม้คาเซมิโร่จะพอจ่ายบอลได้แต่ก็ไม่อาจแทนตัวจ่ายอาชีพอย่างอีริคเซ่นได้อย่างร้อยเปอร์เซ็น
ทำให้วันนี้เกมของแมนยูดูไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น อีกทั้งเฟร็ดที่ลงมามีหน้าที่วิ่งไล่บอลและกดดันในแดนหน้า โดยเฉพาะเวลาที่เฮนโด้ได้บอลก็จะเห็นเฟร็ดวิ่งเข้าใส่ แต่กลับน้อยมากที่เราเห็นเฟร็ดแย่งบอลกลับมาได้ อีกทั้งบางทีก็ขึ้นสูงเกิน จนเป็นช่องว่างตรงกลางที่คาเซมิโร่คนเดียวก็เอาไม่อยู่ จึงส่งผลให้ทีมแมนยูในวันนี้โดนลูกสวนกลับเป็นว่าเล่นจนพ่ายเละเทะได้ขนาดนี้
[ เวกฮอร์สต์ ในตำแหน่งหลังกองหน้าไม่เวิร์ค ] วันนี้การตัดสินใจของเทนฮาคในการนำกองหน้าร่างโย่งคนนี้ไปยืนอยู่หลังกองหน้าตัวเป้าอย่างแรชฟอร์ดนั้นดูไม่เวิร์คเอาเสียเลย จากแทคติกการที่เขาถูกส่งลงให้เล่นในตำแหน่งนั้น เทนฮาคคงหวังให้เวกฮอร์สต์พักบอลและเล่นลูกกลางอากาศให้กับทีม แต่วันนี้ดันไม่ได้ผลเพราะเจ้าตัวไม่สามารถทำหน้าที่นั้นได้ดีพอเพราะเจอฟินบินโญ่แย่งบอลมาได้ซะส่วนใหญ่ อีกทั้งพอได้บอลก็ไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้ทีมได้เลย ส่งผลให้เกมรุกของแมนยูดูขาดมิติการเล่นเป็นอย่างมาก
บรูโน่ที่ควรเล่นตรงกลางก็ดันจับไปเล่นด้านซ้ายเพื่อหวังจะเจาะทางด้านเทรนต์ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนแรชฟอร์ดที่ตำแหน่งเด่นของเขาคือด้านซ้ายก็ดันจับเขาไปเล่นหน้าเป้าส่งผลให้ดาวยิงฟอร์มระเบิดคนนี้เงียบกริบแทบไม่ได้บอลเลย
อาจบอกได้ว่าการจับเวกฮอร์สต์มาเล่นตรงตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือหน้าต่ำนั้น เป็นตัวแปรสำคัญให้เกมรุกแมนยูขาดมิติและความไหลลื่นเลยก็ว่าได้
[ 2 ประตูแรกที่ได้มาในเวลาที่เหมาะสม ] แน่นอนเกมที่มีชื่อว่าฟุตบอลนั้น ตัดสินแพ้ชนะกันด้วยประตู แต่ประตูที่ได้มาในเวลาที่เหมาะสมนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว เช่นเดียวกันในแมทช์นี้ สองลูกแรกของทีมหงส์แดงนั้นได้มาในเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก นั่นคือท้ายครึ่งแรกและต้นครึ่งหลัง ส่งผลให้แผนของทีมปีศาจแดงพังไม่เป็นท่า
ลูกแรกมาในนาทีที่ 43 ก่อนทดเวลาเพียง 2 นาที แน่นอนการที่จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 และ 1-0 นั้นต่างกันเป็นอย่างมาก หากจบ 0-0 ช่วงเตรียมแผนในครึ่งหลังอาจให้ทีมเล่นรัดกุมหรือแก้เกมได้หลากหลายกว่าจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0 ที่บังคับว่าต้องเปิดเกมบุกมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ทีมมีความเสี่ยงมากขึ้นในการเสียประตู
ซึ่งนำมาสู่การเสียลูกที่ 2 ในนาทีที่ 47 หรือช่วงต้นครึ่งหลังที่เหมือนการตอกทีมปีศาจแดงให้จมกับความพ่ายแพ้เลยที่เดียวเพราะแผนที่เตรียมมานั้นโดนพังอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันการโดนนำ 1-0 และ 2-0 ก็ต่างกันเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลถึงกำลังใจของทีมที่แย่ลงอย่างแน่นอนและต้องเสี่ยงมากขึ้นเพื่อที่จะตีเสมอหรือพลิกกลับมาชนะ
ด้วยการเสียสองลูกแรกในช่วงท้ายครึ่งแรกและต้นครึ่งหลังนั้น ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผลในวันนี้ไหลไปถึง 7-0 เลยทีเดียว เพราะเมื่อเสียถึงสองประตู แมนยูต้องดันเกมขึ้นสูงขึ้นเพื่อพยายามทำประตูคืนซึ่งเป็นผลดีต่อลิเวอร์พูลเพราะการสวนกลับด้วยการเล่นไม่กี่จังหวะถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของทีมหงส์แดงอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงเห็นสกอร์ไหลเป็นน้ำถึง 7-0 จากการสวนกลับที่เฉียบคมของทีมหงส์แดง
[ เกมรุกหงส์แดงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอีกครั้ง ] ก่อนหน้าฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในแมทช์นี้ ทีมหงส์แดงต้องประสบกับปัญหาในแนวรุกที่ยังไม่ลงตัวและขาดความมั่นใจ ซาล่าที่เป็นความหวังในการยิงประตูก็ยิงประตูได้น้อยกว่าทุกปีที่เขาเคยทำได้ ส่วนตัวใหม่ที่ซื้อเข้ามาอย่างดาร์วิน นูเญซและโคดี้ กัคโปก็ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ทีมลิเวอร์พูลมีผลงานที่ย่ำแย่จนช่วงนึงตกไปอยู่อันดับ 10 ของตาราง
แต่ในแมทช์นี้ ทุก ๆ อย่างเหมือนเป็นใจให้กับลิเวอร์พูลเพราะวันนี้เป็นวันที่แนวรุกของลิเวอร์พูลโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้ง 3 คน โดยยิงกันไปคนละ 2 ประตู และทุกประตูที่ยิงได้เราจะเห็นความมั่นใจที่อยู่ในลูกยิงเหล่านั้น โดนเฉพาะสองลูกของกัคโปที่ทำได้นั้น เขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคนอยากเห็นจากตัวกัคโป
ด้วยสกอร์ 7-0 อาจบอกได้ว่านี้คือผลงานเกมรุกที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้
[ กำลังใจที่หดหายของปีศาจแดง ] หนึ่งในสิ่งที่ขึ้นชื่อและถูกปลูกฝังมาของแมนยูคือพลังใจในการพลิกกลับมาจากสกอร์ที่ตามหลังหรือที่เราเรียกกันว่า เฟอร์กี้ไทม์ แต่ในวันนี้เราไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นจากนักเตะแมนยูเลย ทั้ง ๆ ที่พวกเขาพึ่งคว้าแชมป์กันมา พวกเขาควรจะมีพลังใจที่แข็งแกร่งด้วยความเป็นแชมเปี้ยน แต่มันกลับหายไปหมดตามสกอร์ที่ไหลไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะบรูโน่ที่เป็นตัวความหวังของทีม เขาควรจะกระตุ้นเพื่อนหรือพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ทีมดีขึ้น แต่มันกลับตรงกันข้าม วันนี้เขาดูหงุดหงิดกับการเล่นของทีม จนทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาแย่ลงไปด้วย และด้วยผู้นำที่มีสภาพจิตใจแบบนี้ เราคงไม่ต้องพูดถึงลูกทีมว่าพวกเขาจะมีสภาพจิตใจยังไง เพราะสกอร์ 7-0 คงเป็นคำตอบให้กับพวกเราอย่างชัดเจนแล้ว
ทั้งนี้การที่ทีมปีศาจแดงจะกลับมาอยู่ในจุดที่ควรอยู่ พลังใจคือสิ่งสำคัญ เราเห็นได้จากอาเซน่อลที่โดนนำ 2-0 แต่ก็ยังกลับมาชนะได้ นั่นคือสิ่งที่ทีมที่จะยิ่งใหญ่ควรจะมี ซึ่งในตอนนี้แมนยูมีโค้ชและนักเตะที่ดี และผมเชื่อว่าในอนาคตก็น่าจะมีนักเตะที่ดีกว่านี้เข้ามาอีก แต่ซึ่งที่สำคัญคือพลังใจ แมนยูต้องสร้างความแข็งแกร่งในด้านนี้ขึ้นมาให้ได้ และผมหวังว่าความเลวร้ายในนัดนี้จะไม่ส่งผลให้พวกเขาเสียความมั่นใจจนฟอร์มหลุดไปเลยเพราะคงน่าเสียดายถ้าพวกเขาไม่สามารถสานต่อความสำเร็จหลังจากการเป็นแชมป์ได้
ส่วนลิเวอร์พูลหลังจากมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ ตอนนี้พวกเขากำลังเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง ผลงานในนัดนี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ทีมหงส์แดงตื่นอย่างเต็มตาอีกขึ้น หลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับเจอร์เก้น คล็อปป์และลูกทีมของเขาว่าจะสามารถสานต่อความยอดเยี่ยมจากนัดนี้ได้ไหม ถ้าพวกเขาทำได้การลุ้นพื้นที่ยุโรปคงสนุกขึ้นแน่นอน
และนี้คือประเด็นทั้งหมดที่ผมอยากพูดในเกมนี้นะครับ โดยสิ่งที่ผมเขียนเกิดจากการดูและความคิดเห็นของผมต่อเกมนี้นะครับ
ถ้าทุกท่านที่อ่านคิดว่ามีประเด็นไหนที่น่าสนใจในเกมนี้ก็ลองมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะครับ
ถ้าชอบก็เชิญชวนให้มากดไลค์และติดตามเพจนะครับ
#แดงเดือด #RedWar #พรีเมียร์ลีก #แมนยู #ลิเวอร์พูล
กีฬา
ฟุตบอล
พรีเมียร์ลีก
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย