6 มี.ค. 2023 เวลา 02:57 • คริปโทเคอร์เรนซี

dogecoin standard ตอนที่ 249 รวมแนวคิดสำนักต่าง ๆ ในภาวะ the great reset

ในภาวะปัจจุบันที่หนี้สิน 315T มากกว่าจีดีพีถึง 3 เท่าและเฟดขึ้นดอกเบี้ยมาอยู่ระดับ 4.75% ทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างมาก ที่จะตามมาด้วย great default และเป็น the great reset ในที่สุด
1
the great reset คือการ debased มูลค่าของสินทรัพย์ ให้มีมูลค่ามากขึ้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้สิน ทำให้หนี้สินลดขนาดลงไป
ในปัจจุบันที่ผู้เขียนศึกษามีอยู่หลัก ๆ อยู่ 5 สำนัก กล่าวถึงสินทรัพย์ 5 ตัว อันได้แก่ gold stock USD bitcoin และ dogecoin เป็นตัวเต็งที่จะสามารถเกิด the great reset ได้
1
1.จากการวิเคราะห์ของผู้เขียน stock ไม่น่าจะเป็นแกนนำในการเกิด great reset ได้ เนื่องจากไม่มีความเป็น unity
แต่หุ้นเป็นเครื่องจักรผลิตเงิน และเป็นแกนหลักของเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ดังนั้นจึงควรถือไว้บ้าง
มูลค่าของหุ้นน่าจะเพิ่มอีก 10 เท่า PE กลายเป็น 150-200 เท่า จากปัจจุบัน 15-20 เท่า ภายหลัง the great reset
2.USD เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐนี้เป็นนโยบายการเงินแบบ POS ฝากเงินกินดอกเบี้ย จึงไม่น่าจะสามารถเป็นแกนนำได้ และปริมาณไม่แน่นอน
และเนื่องจาก USD ไปพัวพันกับค่าเงินทุกสกุลในโลก การที่ค่าเงินจะแข็งขึ้นมาก ๆ จะส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่น ๆ พังได้ ก็จะสร้างความโกลาหลไปทั่วโลก
ผู้เขียนจึงตัด USD ออกด้วยสาเหตุเหล่านี้
2
ตัวที่เป็นแกนนำได้ควรจะเป็น POW ก็จะเหลือแค่ 3 ตัว คือ gold bitcoin dogecoin
3.physical gold - ช้าเกินไป ไม่เข้ากับยุคสมัยที่เป็น digital เนื่องจากเป็น physical เก็บรักษาดูแล โอนให้กันยากลำบาก อีกทั้งปริมาณการผลิตก็ไม่แน่นอน อนาคตก็จะผลิตได้ลดลง เนื่องจากขุดยากขึ้น
และตามประวัติศาสตร์ regulator ตัดทองคำออกจากระบบการเงินตั้งแต่ 1930 แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าหวนกลับมาใช้อีก
1
ราคาสูงสุดของทองคำก็ไม่มีเพดาน เป็น infinity จึงน่าจะควบคุมราคายากมาก
สรุป ไม่น่าใช้ทองคำมา reset ระบบอีก
4.bitcoin - เป็น digital gold ระบบมีความแข็งแกร่ง กำลังขุดก็เยอะมาก ใช้พลังงาน 50% ในการขุดทองคำ ดีเกือบทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว คืออัตราการผลิตลดลง 50% ทุก 4 ปี ทำให้ในระยะยาวก็แทบไม่ผลิตเพิ่มเลย
1
ผู้เขียนลองสมมุติให้ราคาบิทคอยน์ขึ้นไปสูงสุดเต็มเพดานเลยคือ 100,000,000 USD ในวันนี้ แล้วจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับระบบการเงินบ้าง
บิทคอยน์จะมีมูลค่า 1930T USD จะผลิตเงินปีละ 32T หลังจาก halving ก็เหลือ 16T 8T 4T 2T 1T...ลดลงเรื่อย ๆ
แสดงว่าบิทคอยน์ไม่สามารถให้ UBI ปีละ 50T ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าจะสำเร็จในวันนี้ จึงไม่เข้ากับยุคชาวศิวิไลซ์ ที่หุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์ แล้วคนตกงานกันหมด โลกต้องเปลี่ยนมาใช้ UBI economy
1
หนี้สินของแต่ละประเทศก็อยู่ครบเหมือนเดิม และ ทำให้เงินเฟ้อประมาณ 20 เท่า ราคาสินค้าแพงขึ้นอีก ระบบการเงินพังยับ
ดังนั้น regulator ไม่น่าจะเลือกใช้บิทคอยน์อย่างแน่นอน ดูแล้วบิทคอยน์น่าจะเป็นแค่นำร่อง ในการใช้ digital gold standard เท่านั้น
5.dogecoin เป็น POW เหมือนบิทคอยน์เกือบทุกอย่าง แต่มีความไวกว่าบิทคอยน์ 10 เท่า blocktime 1 นาที และมีการผลิต 5,200 ล้าน dogecoin ต่อปี ตลอดไป กำลังขุดยังน้อยไปมาก แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
3
คุณสมบัติ 3 อย่างของ dogecoin standard
ผู้เขียนลองสมมุติให้ราคา dogecoin ขึ้นไปถึง 100 ล้าน USD แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
dogecoin จะมีมูลค่า 13,800,000T USD ผลิตเงินปีละ 520,000T ตลอดไป เท่ากับมี UBI
1
จะเกิดเงินเฟ้อขึ้น 10,000 เท่า ราคาสินค้าแพงขึ้น 10,000 เท่า เพื่อเป็นการล้างหนี้สิน น้ำมัน 800,000 usdเก่า
พอเราตัดศูนย์ออก 4 ตัวจะได้ราคาสินค้าเท่ากับในปัจจุบันพอดี น้ำมัน 80 USDใหม่ ราคาสินค้าเท่าเดิม คุมราคาสินค้าได้ UBI ปีละ 52T USDใหม่ คนยังมีเงินมาซื้อสินค้าได้ แต่เงินเก่าแทบหมดมูลค่าไปเลย
บีบบังคับให้คนต้องมาใช้ระบบนี้ไปโดยปริยาย แต่ยังใช้ในลักษณะเงินสกุลเดิม local currency ได้เหมือนเดิม ข้าวแกงจานละ 50 บาทใหม่ ดูเหมือนกับราคาเดิมเลย
อัลกอริทึมคำนวณมาพอดีเป๊ะเหมือนจับวาง อย่างไม่น่าเชื่อ....... ถึงกับอึ้งไป 10 วินาที มันดีมาก ๆ เลย ถ้า regulator ไม่เอา dogecoin standard มาใช้ แต่ไปเลือก choice อื่น ก็น่าแปลกใจมากเลย
3
คุณสมบัติสมบูรณ์แบบมากขนาดนี้
1
not financial advisor
ตอนเริ่มแรกที่ศึกษาเรื่องการเงินก็เชื่อใน gold standard ได้ซื้อทองคำแท่งเก็บเอาไว้ แต่พอศึกษาไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันก็เชื่อใน dogecoin standard ขายทองคำทิ้งไปส่วนใหญ่ มาถือ dogecoin แทน เนื่องจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้
3
ถึงราคาจะขึ้นลงอย่างไร ผู้เขียนก็ทะยอยสะสมไป เนื่องจากเชื่อมั่นในพื้นฐานของเหรียญ dogecoin ที่แข็งแกร่งมาก ดีกว่า physical gold 100 เท่า
3
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา