6 มี.ค. 2023 เวลา 05:37 • ไลฟ์สไตล์

กินบุญเพิ่มพูนราศี ดึงโชคดีเข้าตัวเอง #Lifestyleโมกขสิทธิ์

วันมาฆบูชา ที่ไปที่มา รู้พอไปวัดไปวา เพียงแต่วันนี้
มาสะกิดใจเงาภาพเก่า ไหลกวนใจเหมือนสาวน้อยหยิก
ไม่คิดไปต่อไม่ได้
ขณะเดินซื้อของกินของใส่บาตร คำพูดของอาจารย์แสง จันทร์งาม
ผู้เคยชี้ให้ผมเห็นความสำคัญของงานวัด เหมือนภาพขาวดำไหลย้อนฉายซ้ำ
อาจารย์ตั้งคำถาม คมทำไมคนเก่าก่อน ตั้งมั่นตั้งตารอคอยงานวัด?
ผมก็ยกฟ้ายอดิน ขุดคำร้อยแปด แปลงปั้นคำตอบมา
อาจารย์แสง ใช้มือแตะไหล่เบา ๆ บอกผมว่า ที่ตอบมาไม่ผิดหรอก
เพียงแต่อยากแทรกจุดเล็ก ๆ ลงไป
เหมือนนาฬิกามีกลไกไขลานครบ คำอธิบายนี้อาจเป็นเพียงเข็มวินาที
อาจารย์พูดต่อว่า คนโบราณ มีคติในใจ
จดจ่อวันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญที่จะมาถึง
ทุกคนจะนำอาหารหวานคาว สิ่งดีสุด เสื้อซิ่นสวยสุด
เสริมสร้างบรรยากาศให้งานมีอารมณ์ เย็น สนุก อบอุ่น
ถือว่าปลุกจิตวิญญาณทำบุญตั้งแต่เริ่มจะไปงาน
อาจารย์อธิบายยาวเป็นรถไฟไปเมืองจีน ฉึกฉัก ๆๆๆๆ
แต่ผมมาสะกิดใจตรงคำว่า
“คนไปงานวัด ต้องกินข้าวในงาน กินบุญเพิ่มพูนราศี ดึงโชคดีเข้าตัวเอง”
เห็นศิษย์หน้างง แววตาดูไม่เชื่อ
ท่านพูดต่อว่า ไม่ใช่กินข้าวก้นบาตรนะ
แต่เป็นกินข้าวกินขนมในบริเวณงาน
แต่เก่าก่อนถือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา
วันออกพรรษา และบุญกฐิน ใครละเลยเท่ากับทิ้งโชคเหมือนเก่งแต่ขาดเฮง
หลังจากร่วมงานบุญแล้ว ต้องกินข้าวในบริเวณงานวัดให้ได้
ต้องกินอยู่ในปริมณฑลแห่งงานบุญ บริเวณวัด
บุญจะช่วยเพิ่มพูนราศี ล้างจัญไรภายในกาย เปิดรับโชคลาภ
โดยแต่ก่อนคนมาขายของในงานวัด จะนำสิ่งอร่อยมาแสดงฝีมือประจำถิ่น
จิตที่จะให้สิ่งดีสุดผ่านเครื่องใช้ของกิน และอยู่ในปริมณฑลร่มเงาบุญ
คนยุคนั้น บางถิ่นปิดบ้านปิดเรือน หยุดนาหยุดไร่ ใช้โอกาสนี้ล้างอาถรรพ์ในกาย
จะถือว่าเป็นภูมิปัญญา ให้คนสามัคคีกันก็ว่าได้
คิดไปคิดมา
จิตวิญญาณ คำว่าให้ ให้ที่ย่อยออกจากใจ ไหลผ่านฝีมือ อาจอัศจรรย์กว่าที่คิด กว่าคำว่างานวัด
โฆษณา