7 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนอาจหมดยุคเศรษฐกิจเติบโตสูงอีกต่อไปแล้ว...?

หลักจากที่จีนปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1978 เศรษฐกิจจีนก็เติบโตโดยเฉลี่ย 9-10% มาโดยตลอด บางปีที่เศรษฐกิจเติบโตดีมากๆ ก็เคยเติบโตได้สูงถึง 13%
การเติบโตสูงมากเช่นนี้ กลายเป็นภาพที่คุ้นชินจนทำให้หลายคนเคยทำนายเอาไว้ว่า อีก 20 ปีข้างหน้าจีนจะต้องมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าสหรัฐฯ ได้แน่ๆ
แต่ดูเหมือนในปัจจุบัน ภาพเหล่านั้นค่อยๆ เลือนรางลงทุกที และล่าสุดทางการจีนได้ประกาศเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้อยู่ที่ 5% ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเป้าหมายที่ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษเลยก็ว่าได้ และยังต่ำกว่าที่ค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์กันไว้อีกด้วย
📌 ทำไมจีนถึงตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตแค่ 5% ?
เป้าหมายนี้มีถูกกำหนดขึ้นในขณะที่จีนพยายามจะฟื้นฟูเศรษฐกิจของตัวเองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หลังจากยกเลิกมาตรการ Zero-COVID ที่นำมาซึ่งการล็อกดาวน์ การตรวจโควิด และการกักตัวเป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา
ในปี 2022 ทางการจีนเคยตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้อยู่ที่ 5.5% อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจจีนเติบโตได้จริงๆ เพียง 3% เท่านั้น ต่ำกว่าเป้าหมายที่ทางการจีนตั้งไว้อยู่มากทีเดียว เนื่องมาจากจีนมีข้อจำกัดอย่างเข้มงวดในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาด วิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลมีการปราบปรามองค์กรเอกชน และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ไปฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจเอาไว้
2
และถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจีนในปีนี้ จะเริ่มดูมีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาจากการแพร่ระบาดได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว หลังจากที่ในปลายปีก่อน ทางรัฐบาลจีนได้ยกเลิกมาตรการ Zero-COVID ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศหลังจากนั้น จนส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิต และซัพพลายเชน
แต่ในปีนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ส่วนอุตสาหกรรมบริการและก่อสร้าง ก็เติบโตได้ดีที่สุดในรอบสองปี
📌 ความเสี่ยงที่ยังรออยู่เบื้องหน้า
ถึงอย่างนั้นทางการจีนก็ยังคงกังวลถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่ยังคงรออยู่เบื้องหน้า
ทั้งความไม่แน่นอน และบรรยากาศภายนอกประเทศ ที่ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็นระดับเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยสูง และการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ดุเดือดภายนอก โดยเฉพาะระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
อีกทั้งจีนยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายระยะยาวภายในประเทศอย่างรุนแรง ทั้งฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง และการที่ประชากรวัยแรงงานหดตัวลงเนื่องจากอัตราการเกิดลดต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติบปัญหาสังคมสูงวัยในจีนมากขึ้นไปอีก
และอย่าลืมว่าที่ผ่านมา จุดแข็งอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจจีนคือการที่มีแรงงานจำนวนมาก ประกอบกับค่าแรงถูก ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมและการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่เมื่อประชากรลดลง
นั่นหมายความว่าแรงงานก็จะลดลง ผลิตภาพทางเศรษฐกิจก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า ยุคแห่งการเติบโตสูง ที่ตัวเลข GDP ของจีนเติบโตได้ถึงสองหลัก ได้กลายเป็นอดีตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และถ้าเศรษฐกิจจีนเติบโตได้โดยเฉลี่ยปีละ 2-3% ไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2050 สมมติฐานที่หลายคนเคยพูดมาอย่างยาวนาน ว่าวันหนึ่งจีนจะโค่นสหรัฐฯ ลง แล้วกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็อาจจะเริ่มรางเลือนไปทุกที….
ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา