7 มี.ค. 2023 เวลา 11:33 • ประวัติศาสตร์

ทำไมประเทศเล็ก ๆ อย่างสวิตเซอร์แลนด์ ถึงมีความหลากหลายทางภาษา (มากกว่า 3 ภาษา !)

เพื่อน ๆ ทราบกันไหมว่า ?
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กเกือบ 13 เท่า ของประเทศไทย !
กล่าวคือ สวิตเซอร์แลนด์ มีพื้นที่ทั้งหมด 41,285 ตารางกิโลเมตร
ในขณะที่ประเทศไทยแล้ว มีพื้นที่ทั้งหมด 513,120 ตารางกิโลเมตร
หรือ ถ้าพูดให้เห็นภาพมากขึ้น ก็คงจะต้องบอกว่า ขนาดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังมีพื้นที่น้อยกว่าภาคอีสานของไทยเกือบ 4 เท่า.... !
(ดูภาพเทียบไซส์ด้านล่างได้เลย !)
กรอบสีฟ้าคือเราตัดพื้นที่ของประเทศสวิตมาเทียบกับไทยตรง ๆ
ว่าแต่ว่า…ประเทศที่มีขนาดและจำนวนประชากรที่ไม่ได้ใหญ่แห่งนี้ ทำไมถึงผู้คนถึงพูดได้ตั้ง 3 ภาษาเลยแนะ ?!
แน่นอนว่าคำตอบของเรื่องนี้ ถ้าตอบง่าย ๆ แค่ว่า…
“อ้อ ! เพราะพรมแดนของประเทศมันติดกับ 5 ประเทศที่เหลือยังไงละ ที่พูดมากถึง 3 ภาษาหลัก ๆ เลย !”
พรมแดนทางใต้ก็ติดอิตาลี 🇮🇹
ทางตะวันตกติดกับฝรั่งเศส 🇫🇷
ทางเหนือติดกับเยอรมนี 🇩🇪
ส่วนทางตะวันออกติดกับออสเตรียและลีชเทินชไตน์ 🇦🇹
มันก็ถูกต้องนะ ! ถ้าเราจะตอบเพียงแค่นี้
แต่ว่า…เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมว่า แค่ประเทศมีพื้นที่ติดกันแค่นี้..มันส่งผลกระทบให้ชาวสวิสพูดภาษานั้น ๆ เลยเหรอ ?
โอเคค อธิบายเพิ่มเติม เราจะต้องพาเพื่อน ๆ ย้อนกลับไปยังอดีตก่อนที่สวิตเซอร์แลนด์จะรวมเป็นชาติเดียวกันสักหน่อย
แล้วก่อนที่จะมาเป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พวกเค้าเป็นชาวอะไรกันมาก่อนละ ?
คำตอบที่พอเป็นไปได้ คือ มีการพบซากอารยธรรมอยู่ตั้งแต่เมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนชาติอะไร
จนมาถึงประมาณช่วง 2,500 ปีก่อน จึงพอจะระบุได้ว่า กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (และเป็นต้นกำเนิดของชาวสวิส) คือ ชนเผ่าชาวเจอร์มานิก หรือถ้าจะให้เจาะลึกลงมา ก็จะเรียกว่า “กลุ่มชาวเผ่าเคลต์ (Celts)” นั่นเอง
จริง ๆ แล้วกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่มีเชื้อสายเดียวกันกับกลุ่มที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศสและที่อพยพเข้ามาในเนเธอร์แลนด์ เพียงแต่ว่า กลุ่มที่มาตั้งรกรากอยู่กลางเทือกเขาแอลป์ (หรือสวิตเซอร์แลนด์) ก็จะเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ชนเผ่าเฮเวลตี (Helvetia)”
ก่อนที่ต่อมาชื่อของชนเผ่านี้ จะกลายเป็นชื่อเรียกของประเทศสวิต ในชื่อว่า Confoederatio Helvetica (หรือตัวย่อที่เราพอคุ้นตาคือ “CH”)
แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาแอลป์รายล้อมรอบประเทศ จึงทำให้การย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในสวิต จึงมีความลำบาก
แต่สำหรับพรมแดนตอนเหนือที่ติดกันเยอรมนีแล้ว… ถือว่าง่ายยยที่สุด เพราะแทบจะไม่ต้องปีนเทือกเขาแอลป์มาเลยย เดินทางสบายมาก (จึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานหลายอย่างว่า ชาวสวิสคือชาวเยอรมนี และใช้ภาษาเยอรมันกันเยอะที่สุด)
ประมาณนี้ไม่ค่อยมีเทือกเขาเลย
กลับมาที่ชนเผ่าเฮเวลตี (Helvetia) กันต่อ
คือ ไอชนเผ่านี้ เป็นพวกชนเผ่าบ้าพลัง บ้าการรุกราน
พวกเค้าไม่ได้หยุดอยู่แค่การมีถิ่นฐานในเทือกเขาแอลป์ แต่ว่าได้ทำการรุกรานลงใต้ข้ามไปยังดินแดนของพวกโรมัน (หรืออิตาลี) ในช่วงประมาณ 40 ปีก่อนคริสตกาล
ก่อนที่… ชนเผ่าเฮเวลตีจะถูก จูเลียส ซีซาร์ รัฐบุรุษของชาวโรมัน กำราบจนหมดท่า…
พอกำราบพวกชาวเขาเฮเวลตีได้
จูเลียส ซีซาร์ ก็เลยเข้าไปรุกรานบ้างซะเลยยย
จูเลียส ซีซาร์
นั่นจึงทำให้ดินแดนของชาวเฮเวลตี(หรือชาวสวิสดั้งเดิม)เนี่ย ถูกพวกโรมันปกครอง เป็นเวลายาวนานเกือบ 500 ปี
ทั้งวัฒนธรรมและภาษาอิตาลี(โรมัน) ก็ได้ถูกเผยแพร่จนเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมหลักของชนเผ่าเฮเวลตี (Helvetia)
ตรงนี้เราขอสรุปสั้น ๆ เลยว่า ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ 1 ในภาษาทางการอย่าง “อิตาเลียน (Italian)” 🇮🇹
Swiss-italian costume
เมื่อจักรวรรดิ์โรมันล่มสลายไปแล้ว
กลุ่มราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก (Habsburg) ของออสเตรียก็เป็นใหญ่ในเวลาต่อมา
เล่าแบบนี้ ก็แน่นอน…กลุ่มราชวงศ์ฮัปส์บูร์กได้ทำการยึดทุก ๆ พื้นที่ ที่เคยเป็นของชาวโรมัน พร้อมกับถ่ายทอดความวัฒนธรรมและภาษาของตัวเองเข้าไป
ทีนี้เพื่อน ๆ ยังจำพรมแดนทางเหนือที่ติดกับเยอรมนี และทางตะวันออกที่ติดกับออสเตรียที่เกริ่นไปด้านบนได้ไหมเอ่ย ?
ที่บอกว่า ไม่ค่อยมีอุปสรรค ไม่มีเทือกเขาสูงมาขวางกั้น เดินทางง๊ายง่าย
แน่นอนว่าพวกสวิสโดยเฉพาะในแถบที่ว่ามานี้ ที่โดนราชวงศ์ฮัปส์บูร์กรุกรานอย่างง่ายดาย และต้องหันมาใช้ภาษาเยอรมัน (German) 🇩🇪
Swiss-German costume เราว่าดูลงตัวดีแห่ะ จริงๆอันนี้คือชุดประจำชาติเองสวิสเลยละ
สำหรับชาวสวิสอีกกลุ่มที่อยู่กลางเทือกเขาแอลป์หรือเยื้องลงไปทางตอนใต้กับตะวันตกแล้ว…
การรุกรานของราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก ก็อาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย เอาง่าย ๆ คือ ราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก ปกครองประเทศสวิตนั่นละ แต่ไม่ได้ปกครองอย่าง 100% ได้ทั้งหมดนั่นเอง
เพราะหลังจากที่สวิสหลุดมาจากการปกครองของจักรวรรดิ์โรมัน.. พวกชาสวิสก็กลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าก็ได้รวมตัวกันปกป้องชนเผ่าของพวกเค้า
(เป็นจุดกำเนิดของพันธมิตรสวิส และต้นกำเนิดของกลุ่มทหารสวิสที่แข็งแกร่ง)
ถึงแม้ว่าเลโอโปลด์ที่ 1 ของฮัปส์บูร์ก จะโจมตีมามากแค่ไหน แต่ทหารสวิส ก็ต่อต้านได้เสมอ
แต่เนื่องจากชาวเมืองที่มีกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก มันมีจำนวนที่มากและทันสมัยกว่าของพวกชาวสวิส (พวกชาวเขา)
แน่นอนว่ากลุ่มพันธมิตรสวิส ต้องรีบเผ่นออกไปสร้างพันธมิตรเพิ่ม เพื่อต่อกรกับการรุกรานของราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก
ราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก
เพื่อน ๆ พอจะเดาได้ไหม ว่าชาติไหนคือชาติที่กลุ่มพันธมิตรสวิส ไปขอความช่วยเหลือ ?
นั่นคือ “ฝรั่งเศส” นั่นเองจ้าา 🇫🇷
คือ ตอนนั้นเองฝรั่งเศสก็มีปัญหาภายในประเทศกันอยู่แล้ว หวั่น ๆ ว่าจะโดนกลุ่มฮัปส์บูร์ก เข้ามาตีแตกเหมือนกัน เลยตกลงร่วมมือกับพันธมิตรสวิส ต่อสู้กับราชวงศ์ฮัปส์บูร์ก
และหลังจากที่ฝรั่งเศสคุมสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ แล้วราชวงศ์ฮัปส์บูร์กหมดสิ้นอำนาจไป (ยังไม่ล่มสลายแค่ ไม่มีอำนาจ)
ชาวสวิสก็ต้องมาพบเจอปัญหาแบบเดิม ๆ วนลูปไม่จุดจบ
คือ ฝรั่งเศส ต้องการจะมาขอดินแดนจากชาวสวิสเป็oนค่าตอบแทน จนไปถึงการจะเข้าไปยึดประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เพราะ ฝรั่งเศส (ยุคสมัยนโปเลียนที่ 1) ต้องการพื้นที่เพื่อเข้าไปโจมตีอิตาลี
ในขณะที่อิตาลี ก็กำลังจะจับมือกับกลุ่มราชวงศ์ฮัปส์บูร์กเพื่อรับมือกับพลังของนโปเลียน
แต่เอาเป็นว่าตรงจุดนี้เอง ทำให้ชาวสวิสกลุ่มที่อยู่ฝั่งตะวันตก ต้องใช้ภาษาฝรั่งเศส (French) 🇫🇷 เพื่อการสื่อสารและการดำรงชีวิต นั่นเอง
เรื่องราวทั้งหมดทำให้ ชาวสวิสคือกลุ่มคนที่อยู่ตรงกลาง ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด
แต่จำเป็นต้องเรียนรู้ให้ครบทั้ง 3 ภาษาหลัก ๆ โดยมีภาษาโบราณอย่างรีโทร-โรมานหรือ กลุ่มภาษาโรมานซ์ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต
จากเรื่องราวจุดเริ่มต้นทั้งหมดนี้
เราเองยังไม่ได้พูดถึงเรื่องราวที่ชาวสวิสโดนบุกรุกโดย นโปเลียนที่ 1 ของฝรั่งเศส
หรือ ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกและการเมืองที่ร้อนแรงจาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ของทางฝั่งเยอรมัน(และออสเตรีย) หรือ เบนีโต มุสโสลีนี ของอิตาลี
ในเรื่องของศาสนาก็อีกด้วยเช่นกัน กลุ่มคริสต์คาทอลิก vs โปรเตสแตนต์ โอโห..ยาวเยียด
ซึ่งเรื่องราวทางการเมืองทั้งหมดเหล่านี้ กลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ชาวสวิสก็ได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน เรื่องภาษาก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญ
แต่คิดว่าหากเพื่อน ๆ อ่านถึงตรงนี้ เชื่อว่าทุกท่านคงจะพอเห็นภาพตามกันไปมากขึ้น
และนี่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่พอจะเกริ่นแบบพอสัปเขปได้ว่า ทำไมชาวสวิสถึงพูดได้มากกว่า 3 ภาษา
หรือก็คือ
แนวเขตเมือง/พื้นที่ ที่ติดกับฝรั่งเศสจะใช้ภาษา สวิส-ฝรั่งเศส 🇫🇷
แนวเขตเมือง/พื้นที่ ที่ติดกับเยอรมันจะใช้ภาษา สวิส-เยอรมัน 🇩🇪
แนวเขตเมือง/พื้นที่ ที่ติดกับอิตาลีจะใช้ภาษา สวิส-อิตาเลียน 🇮🇹
อีกหนึ่งภาษาที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นมากเท่าไร (แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในภาษาทางการของประเทศสวิต) นั่นคือ มี1% ภาษาโบราณคือ รีโทร-โรมานิค
แต่ต้องบอกว่าชาวสวิสไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสนะ (คือ อารมประมาณว่าชาวฝรั่งเศสก็จะมองว่า นั่นมันเป็นภาษาฝรั่งเศสแบบสวิส จะชอบคิดว่าสำเนียงสวิสนี่มันเหน่อชะมัดเลย รวมไปถึงการใช้คำศัพท์ที่อาจจะไม่เหมือนกับภาษาต้นตำรับอีกด้วย)
อย่างเช่นการนับเลขในภาษาฝรั่งเศสแบบสวิสก็จะแตกต่างจากภาษาฝรั่งเศสแบบต้นตำรับ
ปิดท้ายด้วยเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นภาษายุโรปจะมีความหลากหลายมากมายก็ตาม
แต่ชื่อเรียก “ชาวสวิส” ในภาษายุโรป กลับมีเสียงพ้องออกไปทางเดียวกัน (แต่เขียนแตกต่างกัน) นั่นคือ
ภาษาอังกฤษ 🇬🇧 : Swiss
เยอรมัน 🇩🇪 : Schweizer/Schweizerin
ฝรั่งเศส 🇫🇷 : Suisse/Suissesse
อิตาเลียน 🇮🇹 : Svizzera/Svizzera
รีโทร-โรมาน : Svizzer/Svizra
อ้างอิง
หนังสือ Swiss History In A Nutshell โดย Gregoire Nappey
หนังสือ A Concise History of Switzerland โดย Clive h. Church
โฆษณา