Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อาลี ลองเขียน
•
ติดตาม
8 มี.ค. 2023 เวลา 13:53 • นิยาย เรื่องสั้น
5 วีรกรรมของ อลิซาเบธ บาโธรี่
เพื่อความงดงามตลอดกาล !!!
เมื่อกล่าวถึงความงามของหญิงสาวแล้ว ผู้ชายอย่างเรา ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยหากจะอยากเชยชมความงามของผู้หญิง เพราะผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่ดึงดูดเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี เพราะเหตุนี้ผู้หญิงหลาย ๆ คนมักจะดูแลในเรื่องความงามเกี่ยวกับผิวพรรณ สรรหาวัตถุและเครื่องสำอางมากมายเพื่อที่จะได้นำมาบำรุงผิว ให้งดงาม เพื่อดึงดูดให้ดูน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา แต่คงไม่ใช่กับผู้หญิงรายนี้.
ภาพจาก https://teen.mthai.com/variety/158865.html
นางมีชื่อว่า เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ หญิงงามตระกูลสูงศักดิ์ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูล ทรัพย์สินเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ ผู้หญิงท่านนี้มีครบเครื่อง แต่ก็ที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า อลิซาเบธ บาโธรี่ นั้นแสวงหาสิ่งที่จะทำให้เธอนั้นคงความงดงามและดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะดูเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องสิ่งที่จะทำให้อายุยืนและทำให้ร่างกายดูเยาว์วัยอยู่เสมอ และมักจะสรรหาสมุนไพรหรือยาอายุวัฒนะเพื่อความงามของตน.
เอาละบ่นมามากแล้วงั้นเรามาดูกันว่า นางใช้วิธีใหนบ้าง ? ที่นำมาซึ่งความงามของนางและไร้ซึ่งสัจธรรม อมหิตผิดมนุษย์เพียงเพื่อต้องการให้นางนั้นคงอยู่นิรันด์บนโลกใบนี้
ภาพจาก https://pantip.com/topic/32689018
1. อลิซาเบธ บาโธรี่ นั้นมักจะทรมานสาวใช้เพื่อทำให้ตนเองหายปวดหัว !
เป็นที่รู้กันดีในวงตระกูลว่าครั้นเมื่อ อลิซาเบธ บาโธรี่ อายุ 15 ปี มักจะมีอาการปวดหัวเป็นประจำเนื่องมาจากโรคประจำตัวของนาง ทางครอบครัวนางจึงสรรหาหมอเก่ง ๆ มารักษาคนแล้วคนเล่า แต่อาการของนางก็ทุเราลงเป็นบางครั้งบางคลา ไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้เป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับเด็กสาวในอายุวัย 15 ปี เพราะในยุคนั้นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยพอที่จะวินิฉัยได้ว่าอาการปวดหัวของ อลิซาเบธ บาโธรี่ สืบเนื่องมากจากอะไร ?
เป็นเพราะเหตุใดนางจึงมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและเป็นบ่อยครั้งอีกด้วย แต่แล้วอยู่มาวันนึง อาการปวดหัวของเธอก็กำเริบหนักขึ้นอีกครั้ง และข้าง ๆ เธอนั้นมีสาวใช้คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง หล่อนทรมานมากจากอาการปวดหัวและไม่สามารถควบคุมสติเอาไว้ได้ จึงเผลอไปกัดเนื้อไหล่ของสาวใช้ที่กำลังปฐมพยาบาลให้เธออยู่ จนสาวใช้คนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เมื่ออลิซาเบธได้ยินเสียงร้องของสาวใช้แล้วปรากฏว่าอาการปวดหัวของเธอนั้นหายเป็นปลิดทิ้งเป็นเรื่องน่าแปลกและไม่น่าเชื่อ.
ตัวนางเองก็ยังไม่เข้าใจตนเองเช่นกัน เพราะเหตุใดอาการปวดหัวของนางจึงหาย และนั้นคือจุดเริ่มต้นหายนะสำหรับสาวใช้ที่กำลังจะตามมา เพราะนับแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เธอมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หล่อนจะทรมานสาวใช้เพื่อให้ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนของสาวใช้เพื่อมาระงับอาการปวดหัวของเธอนั้นเอง (โหดไหมละ ! ไม่เหี้ยมจริงคงทำไม่ได้แน่).
ภาพจาก https://teen.mthai.com/variety/158865.html
2. ทวีความรุนแรงในการทรมานมากยิ่งขึ้น
อลิซาเบธแต่งงานเมื่อตอนอายุ 15 ปี และได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านสามีผู้สูงศักดิ์เท่าเทียมกับเธอและได้รับรู้ว่า สามีของเธอนั้นก็จิตวิตถารเช่นเดียวกัน (แหม่ ! เมียโหดไม่พอเจอผัวโหดไปอี๊กอวสานสาว ๆ ที่มารับใช้ตระกูลนี้คงไม่ได้กลับไปสภาพครบ 32 ส่วนแน่ ๆ) ทุกครั้งที่อาการปวดหัวของ บาโธรี่ กำเริบ.
นางและสามีมักจะนำสาวใช้มาทรมานเพื่อฟังเสียงกรีดร้องและเพื่อความบันเทิงของสามี ด้วยการที่จับสาวใช้มาทาน้ำผึ้งทั่วตัวแล้วจับโยนลงชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยมดที่พร้อมจะกัดแทะเนื้อหนังของสาวใช้ พร้อมเสียงร้องอย่างโหยหวนนำมาซึ่งความพอใจให้กับสองสามีภรรยา อำมหิตคู่นี้พึงพอใจเป็นอย่างมาก
(โอโห้ หมดคำบรรยายจริง ๆ ความเป็นมนุษย์มานาของสองคนนี้อยู่ที่แห่งใดกัน สงสารสาวใช้ในยุคนั้นจริง ๆ ที่ได้มารับใช้บ้านนี้.)
ภาพจาก https://pantip.com/topic/32689018
3. ถึงคราวเลือดนอง
ในปี 1600 คริสกาล อลิซาเบธ บาโธรี่ ก็อายุปาเข้าไป 40 ปีแล้ว และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ทุกอย่างดูจะปกติดี อลิซาเบธ ตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเหมือนที่เคยทำในทุก ๆ วัน แต่แล้วอยู่ ๆ สายตาของนางเริ่มส่องดูเงาตนเองในกระจก ! ทันใดนั้นนางผงะและตกใจอย่างสุดขีด นางเพ่งเล่งดูตนเองในกระจกครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะสิ่งที่เห็นคือ หน้าตาของนางนั้นดูเหี่ยวเฉา หมดออร่าและไม่คงงดงามเหมือนที่เคยผ่านมา.
นางตระหนักได้ทันทีว่าตัวนางนั้นอายุแค่ 40 ปี แต่ทำไมหน้าตานางไปไกลกว่าอายุ ดูเป็นคนอายุ 45-48 ปีกันเลยที่เดียว เธอตระหนักทันทีว่าความชราได้มาเยือนเธอแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้เธอต้องทำอะไรสักอย่าง ? อะไรสักอย่างที่จะมาหยุดไม่ให้เธอนั้นแก่ตัวไปมากกว่านี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ครั้งนี้ทรมานสาวใช้ก็ไม่สามารถทำให้หายปวดหัว จนวันหนึ่งในขณะที่สาวใช้หวีผมให้กับเธอ อาจจะเพราะเหตุใดไม่ทราบสาวใช้คงจะลงแรงหวีผมมากไปหน่อยทำให้ผมของเธอนั้นหลุดล่วงมาจำนวนหนึ่ง.
เธอเห็นเช่นนั้นอารมณ์โกรธของเธอก็พุ่งสุดขีด จึงได้ใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้ ๆ มือของเธอมาฟาดสาวใช้อย่างสุดแรงและไม่ปราณี เธอทุบสาวใช้แบบไม่ยั้งมือ และได้ลงมือหวดด้วยแส้หนังผูกปมโลหะ ฟาดลงบนเนื้อหนังของสาวใช้อย่างเมามัน จนกระทั่งแส้ตวัดนั้นติดกับเนื้อหนังและเธอได้ดึงกระซากอย่างสุดแรงทำให้เลือดกระเซ็นออกมาใส่ตัวเอง สร้างความพึงพอใจให้กับเธอเป็นอย่างมากจนกระทั่ง ! เธอได้คิดค้นสูตรยาอายุวัฒนะสำหรับเธอ มันได้บังเกิดขึ้นแล้ว….
4. ความโหดเหี้ยมเปลี่ยนเป็นความพิศวง
จากการที่เธอได้ลงมือฆ่าสาวใช้และทำให้เลือดกระเซ็นโดนเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ อลิซาเบธ จึงได้สั่งสาวใช้ที่อยู่ต้นห้อง ให้นำผ้ามาเช็ดที่ใบหน้าและลำตัวของเธอ ทันใดนั้นเองเธอได้สังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกาย นั้นคือผิวของเธอที่โดนเลือดสาดกระเซ็นใส่นั้นกลับมานวลนุ่ม ผุดผ่อง ผิวเนียวอย่างกับได้กลับไปเป็นสาวในช่วงวัยแรกรุ่นอีกครั้ง.
ซึ่งมันทำให้เธอนั้นแปลกใจและดีใจไปพร้อม ๆ กันจากการกระทำที่โหดร้ายที่พึ่งจะผ่านมาไม่นานนัก อลิซาเบธ ได้ตระหนักถึงความน่าฉงวนชวนให้สงสัย เพราะเหตุใดร่างกายของเธอนั้นกลับมาดูดี มีชีวิตชีวาอีกครั้งและผิวหนัง กลับดูผุดผ่องส่องใสอย่างกับสาวแรกรุ่นได้อีกหน เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากจึงทำให้อลิซาเบธนั้น ทวีความรุนแรงในการทรมานสาวใช้เพื่อที่จะได้เลือดมาอาบและบำรุงรักษาร่างกายให้คงเยาว์วัย อย่างที่เธอนั้นแสวงหามาตลอด.
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดโศกนาฏกรรมการฆ่าล้างสังหารเด็กสาวจำนวน 600 กว่าชีวิต เพื่อเป็นยาอายุวัฒนะสำหรับคงความงดงามของตัว อลิซาเบธเอง (ไม่อยากจะคิดหากผู้เขียนได้มีโอกาสไปรับใช้ท่านหญิงผู้นี้แล้ว ป่านนี้จะได้กลับมาเขียนให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันไหมนะ ? น่าสยดสยองจังเลย.)
ภาพจาก https://pantip.com/topic/32689018
5. 600 กว่าชีวิต เพื่อความงดงามและคงความเยาว์วัยให้กับป้าที่ไม่รู้จักแก่
ที่จริงแล้วความโหดเหี้ยมของ อลิซาเบธ บาโธรี่ มีมากกว่านี้เยอะแต่นี้แค่ 5 ข้อก็ทำให้คุณผู้อ่านหดหู่เอาไปเยอะพอสมควร
กับแค่เพื่อความงามของผู้หญิงคนนึง ก็ไม่แน่ว่า คำกล่าวที่ว่า “เกิดเป็นหญิง อย่าหยุดสวย” คำกล่าวนี้อาจมาจากแรงบันดาลใจของเรื่องนี้ก็ได้ เอาละมาต่อกันที่ 600 กว่าชีวิต ทำไมต้อง 600 กว่าชีวิตที่ได้สังเวยให้กับผู้หญิงคนนี้ ? แค่เพื่อต้องการให้ตนนั้นมีผิวที่สวยงาม ดูอ่อนเยาว์และดึงดูดมีเสน่ห์.
เพราะมันเริ่มมาจากศพแรกก็ย่อมมีศพที่สองตามมา หลังจากที่อลิซาเบธ ได้คิดค้นสูตร โคตรยาวัฒนะ ! ของเธอแล้วเริ่มลงมือทรมานและเมื่อทรมานสมใจอยากแล้วก็ฆ่าสาวใช้ (ไม่ทรมานเล่น ๆ เพื่อความบันเทิงแล้วนะรอบนี้ฆ่าเลยแหละ) เพื่อนำเลือดที่ได้จากเด็กสาวใช้ มาเติมในอ่างที่เธอจะอาบน้ำ แน่นอนว่าเธอทำคนเดียวไม่ได้แน่ เพราะความโหดเหี้ยมของเธอนั้น.
จึงมีสาวใช้บางส่วนที่เห็นพฤติกรรมเธอตั้งแต่แรกเริ่มและเป็นเครื่องไม้เครื่องมือให้กับเธอ เพราะกลัวในความอำมหิตของเธอ เพราะเหตุนี้ อลิซาเบธ จึงมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาจำนวนหนึ่ง อลิซาเบธนั้นจะเลือกเหยื่อของตนด้วยตัวเอง และได้สั่งให้เชือดเพื่อชำแหละและรีดเลือดทุกหยดออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ความสามารถของผู้ช่วยจะทำได้.
หลายคนที่โดนถูกแหวะอก ผ่าท้อง กรีดหัวใจแล้วเลือดพุ่งกระฉูดไหลออกมาเป็นสายน้ำ (โคตรเห็นภาพเลย) แล้วนำไปใส่ในอ่างน้ำเพื่อที่เธอจะได้ลงไปแช่อาบในอ่างที่เต็มไปด้วยเลือดอย่างมีความสุข
(ขอหยุดเขียนแป็บขออ้วกก่อน) เอาละมาต่อกัน ! เมื่อทำเช่นนี้บ่อยครั้งและสม่ำเสมอในทุก ๆ วัน สาวใช้ที่ตกเป็นเหยื่อก็เริ่มหมด Stock (อืมมีเก็บไว้ในคลังด้วยนะเอ่อ) เมื่อสาวใช้เริ่มหมด อลิซาเบธ จึงทำการรวบรวมหญิงสาวชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ภายในดินแดนของตน ด้วยการประกาศรับสมัครสาวใช้เป็นจำนวนมากและให้ผลตอบแทนอย่างงาม ชาวบ้านที่ยากจนจึงได้ส่ง บุตรหลานของตนสู่ประตูปราสาทที่สาว ๆ เหล่านั้นจะไม่มีวันได้กลับออกมาอีก.
การทรมานของอลิซาเบธนั้นทวีความรุนแรง เช่น มีการใช้เหล็กร้อนเผาลำคอ ใช้เครื่องทรมานบีบหน้าอก เป็นต้น มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง อลิซาเบธได้จัดงานฉลองภายในปราสาทและได้เชิญชวนเด็กสาวเป็นจำนวนมากให้มาร่วมงานของเธอ จนกระทั่งงานเริ่มและอลิซาเบธก็เป็นเจ้าภาพที่ดีแก่แขกที่ได้รับเชิญ แขกพวกนั้นไม่ได้รับรู้เลยว่าเธอได้วางแผนที่จะปิดตายประตูและให้ทหารกรูกันเข้ามา เด็กสาวที่เป็นแขกรับเชิญต่างหนีตายและถูกข่มขืน.
แล้วโดนแทงด้วยมีดที่กลางอก ศพและชิ้นส่วนต่าง ๆ ถูกรวบรวมมากรองเลือดใส่อ่าง เพื่อให้อลิซาเบธนั้นได้ลงไปอาบน้ำเลือดในอ่างอย่างสบายใจ เพราะเธอเชื่อว่าเลือดของเด็กสาวที่บริสุทธิจะนำมาซึ่งความงาม และบำรุงผิวพรรณของเธอให้ดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์เสมอมา.
ภาพจาก https://teen.mthai.com/variety/158865.html
ในช่วงท้ายชีวิตของอลิซาเบธนั้นไม่สู่ดีนัก คงเป็นเพราะกรรมตามสนองเนื่องจากเด็กสาวที่ได้มาสมัครเป็นสาวรับใช้ให้กับปราสาทแห่งนี้ล้วนไม่เคยมีใครได้กลับมาบ้านสักคน จึงสร้างความส่งสัยให้กับครอบครัวของเหยื่อ เพราะเหตุใดกันที่บุตรหลานที่ได้ส่งไปยังปราสาทแห่งนี้หายตัวไปอย่างลึกลับ และแล้วได้มีการฟ้องร้องเพื่อคลายความส่งสัย คดีนี้จึงถึงมือ พระเจ้าแมทเทียสที่ 2 พระองค์ทรงมาจัดการด้วยพระองค์เอง.
ในปี 1610 อลิซาเบธ ถูกจับได้ในความผิดที่นางได้กระทำไว้ สร้างความเจ็บแค้นให้กับชาวบ้านและบรรดาขุนนางชนชั้นสูงอีกด้วย เนื่องในความซาดิสต์ของเธอจึงไม่อาจจะอภัยในความผิดจากการกระทำที่อำมหิตเช่นนี้ได้.
อลิซาเบธถูกตัดสินโทษประหารและเนื่องจากฏีกาของตระกูลบาโธรี่ เธอจึงรอดพ้นจากโทษประหารในขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดในการสังหารทุกคนต่างต้องถูกโทษประหาร (ไม่ยุติธรรมเลย ผู้ช่วยอลิซาเบธคงเจ็บแค้นน่าดู) ถูกตัดสินให้โดนเผาทั้งเป็น โดยผู้มีส่วนร่วมเป็นสาวใช้ 2 คนที่ทำหน้าที่ค้นหาและจับผู้หญิงสาวเคราะห์ร้ายมาสังเวยแก่นายหญิงเป็นจำนวนถึง 605 คน.
ส่วนตัวอลิซาเบธนั้นโดนจองจำอยู่ในหอคอยปราสาทของเธอเอง เป็นห้องเล็ก ๆ ที่พอจะมีแสงอาทิตย์สาดส่องไปเพียงเล็กน้อยเหลือไว้เพียงช่องเล็ก ๆ ที่พอจะส่งอาหารให้กับตัวนางได้ นางสามารถมีชีวิตหลังจากนั้นได้เพียงแค่ 4 ปี จากการทรมานเช่นนี้ในที่สุด สืบเนื่องหลังจากที่โดนตัดสินโทษแล้วทางศาลได้โอนบทลงโทษให้กับตระกูลเพื่อเป็นการให้เกียติแก่วงตระกูลนั้น ไปสะสางปัญหาภายในด้วยตัวเอง ทางตระกูลจึงได้สร้างห้องบนหอคอยที่ไม่สามารถมองเห็นเดือนและตะวัน มีเพียงช่องส่งอาหารช่องเล็ก ๆ ไว้เพียงแค่นั้น.
ภาพจาก https://teen.mthai.com/variety/158865.html
วันที่ 21 สิงหาคม 1614 เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ ผู้เลอโฉมหมกหมุ่นในความงาม และใจอำมหิตก็ได้จากโลกนี้ไปในอย่างไม่มีวันได้กลับมาทำร้ายใครอีก (อย่าไปรีดเลือดยมบาลในนรกนะ สถานที่แห่งนั้นกระดูกมันคนละเบอร์) มีข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ ว่านางได้หลบหนีออกมาได้และเป็นปีศาจร้ายอยู่ในป่าบริเวณไกล้ๆ ปราสาท
แต่ไม่ว่าบทกวีและข่าวลือจะกล่าวเช่นไรก็ตาม ในทุกวันนี้ปราสาทของ อลิซาเบธ บาโธรี่นั้น ตั้งอยู่ที่ประเทศฮังการี่ ชื่อว่า ปราสาท เซติชตั้งอยู่บนภูเขา คาร์ลปาเชีย ซึ่งมีสถานที่เป็นหลักฐานยืนยันจริง ๆ ว่าตำนานเรื่องนี้มีอยู่จริง.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย