9 มี.ค. 2023 เวลา 11:00 • การศึกษา

## Episode28: Kinesiology of cervical spine#4

The atlanto-occipital joint ##
ข้อต่อ atlanto-occipital joint เป็นข้อต่อที่มีความสำคัญของร่างกาย เพราะเป็นจุดที่ต้องรับน้ำหนักของศีรษะทั้งหมด จึงเคลื่อนที่ได้น้อยและมีรูปร่างที่แตกต่างจากกระดูกคอชิ้นอื่น บทความนี้ผมจะพูดถึงเรื่องรูปร่างของarticular surface และการเคลื่อนไหวของข้อต่อ atlanto-occipital joint นะครับ
สำหรับatlanto-occipital joint(AO jt.) จะformตัวขึ้นจาก superior articular surfaceของ lateral mass of atlas กับ articular surface ของ occipital condyle
ถ้ามองในsuperior view ของatlas เราจะเห็นว่า articular surface ของatlas เป็นoval shape ที่การวางตัวของของsurface จะวางตัวในทิศทาง anteromedialของทั้ง2ฝั่ง เข้ามาเชื่อมกันตรงกลางที่midline(จุดN)(รูปที่3)
Articular surface ของทั้ง2ฝั่ง จะเป็นลักษณะconcave ที่หุ้มด้วยcartilage ถ้าลากเส้นเชื่อมต่อcurve ของทั้ง2ข้าง จะได้เป็นวงกลมใหญ่ ที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่จุดO วางตัวอยู่บนarticular surface ซึ่งก็คือรูปร่างของoccipital condyle และskull นั่นเองครับ
.
ส่วนทางด้านหลังของatlanto-occipital joint จะเห็นภาพของsurface ที่supportทรงกลมขนาดใหญ่ของoccipital condyleได้ชัดขึ้น รูปร่างของjoint เป็นเหมือนทรงกลมที่วางอยู่บนฐานที่เป็นconcave ทำให้เกิดmovementเล็กๆได้ทั้ง3plane คือaxial rotation, flexion-extensionและ lateral flexion
สำหรับการเกิดrotation ของatlanto-occipital joint จริงๆแล้วเกิดได้น้อยมาก บางตำราจึงไม่นับrotationเป็นหนึ่งในdegree of freedom ของatlanto-occiptal joint โดยที่rotation ของAO joint จะเกิดตามมาจากการเกิด general rotation ปกติของcervical spine จะไม่สามารถเกิดrotation AO jt.เพียงตัวเดียวได้
.
การเกิด rotation ของatlanto-occipital jointนี้ จะทำให้เกิดการ stretch ของ alar ligament ด้านตรงข้ามยกตัวอย่างเช่น(ในรูปที่ 4) เป็นการ rotation to left ของoccipital condyle ไปบน atlas จะทำให้alar ligamentทางด้านขวาถูกยืดขึ้น และความตึงของalar ligament นี้จะไปดึงให้occipital condyle ข้างขวาเกิดการ translation ไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย 2-3 mm. และเกิด lateral flexionไปทางด้านขวาด้วยเช่นกัน
.
ในatlanto-occipital joint จะไม่สามารถเกิดrotationเพียงอย่างเดียวได้ จะต้องเกิดร่วมกับtranslation รวมถึงการเคลื่อนไหวในทิศทางอื่นด้วยเสมอ(เป็นผลจากความตึงของligamentโดยรอบครับ)
ถ้าพูดถึง center of rotation ของการเกิด rotation ที่ AO joint อาจจะบอกได้ยากและต้องดูจาก superior view อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเมื่อเกิดการ rotation to left จะเกิดการ translation ไปทางด้านซ้าย 2-3 mm. เป็นตัวบอกเราว่าจุดหมุนของ AO join จริงๆจะอยู่ที่จุด P ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกึ่งกลางไปทางด้านซ้ายเล็กน้อยเมื่อเกิดการrotation to Lt. และจะอยู่ที่จุด P’ เมื่อเกิดการ rotation to right(ดังรูปที่5)
การเคลื่อนไหวใน frontal plane นั้นเมื่อเกิดการlateral flexion จะไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่ AA joint การเคลื่อนไหวจะเกิดที่ AO joint จากนั้นจะข้ามไปเกิดการเคลื่อนไหวที่ C3 เลย โดยที่ AO joint จะเกิดการเคลื่อนไหวเล็กๆผ่านการการ gliding ของoccipital condyleทั้งสองข้าง
.
ยกตัวอย่างถ้าเราทำ lateral flexion to Lt. จะเกิดการgliding ของoccipital condyleไปทางด้านขวา คือ occipital condyle ข้างซ้ายจะขยับเข้าใกล้ dens มากขึ้น ส่วน occipital condyle ข้างขวาก็จะขยับห่างจาก dens มากขึ้น แต่การเคลื่อนไหวนี้จะเกิดได้ไม่มากนัก เพราะจะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจากcapsular ligament ของatlanto-occipital joint และ alar ligament
โดยองศาการเคลื่อนไหวในการทำ lateral flexion ของ AO joint จะอยู่ที่ประมาณ 3 องศาเท่านั้น ส่วนถ้าเกิดการ lateral flexion to Rt. การเคลื่อนไหวก็จะเกิดตรงข้ามกันครับ
สำหรับการเกิด flexion ของatlanto-occipital joint จะเกิดการrollของ occipital condyle ไปบนlateral mass ทำให้ระยะห่างระหว่างoccipital condyle กับposterior arch of atlas เพิ่มมากขึ้น โดยที่การเกิด flexion จะถูกlimitจากcapsuleของ AO jt.,posterior atlanto-occipital membrane และ ligamentum nuchae
.
ส่วนการเกิด extension จะตรงกันข้ามกัน คือจะเกิดการrollของ occipital condyle ไปทางด้านหลังทำให้occipital boneเข้ามาชิดกับposterior arch of atlas มากขึ้น ทำให้ AA joint เกิดextension ตามมา โดยที่การเกิด extension นี้จะถูกlimitจากการเบียดกันของoccipital bone, atlas และ axis ดังนั้นถ้าเกิดการบาดเจ็บในท่าextensionอย่างรุนแรง ก็อาจจะทำให้เกิดfracture ของกระดูกคอบริเวณนี้ได้ครับ
.
ตามคอนเทปของconcave-convex rule การเกิด flexion, extension ของ AO joint เป็นการเคลื่อนไหวแบบconvex on concave ดังนั้นการrollของoccipital condyle จะเกิดร่วมกับการslide ไปทางด้านตรงข้ามนั่นคือ เมื่อเกิด flexion จะเกิดการrollของoccipital condyle ไปทางด้านหน้าร่วมกับการslideไปทางด้านหลังเล็กน้อย ในขณะที่เมื่อเกิด extension จะเกิดการrollของoccipital condyleไปทางด้านหลังร่วมกับการslideไปทางด้านหน้าเล็กน้อยครับ
.
สำหรับองศาการเกิดflexion, extension ทั้งหมดของ AO joint จะอยู่ที่ประมาณ 15 องศาครับ
ทั้งหมดนี้คือ anatomy และกลไกการเคลื่อนไหวทิศทางต่างๆของatlanto-occipital joint ลองค่อยๆทำความเข้าใจกันดูนะครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://physioupskill.com/บทความ/
หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่ https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/
ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2016). Kinesiology of the Musculoskeletal System: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Grant’s Atlas of Anatomy. (2016). LWW.
Schuenke, M., Schulte, E., Schumacher, U., & Johnson, N. (2020). General Anatomy and Musculoskeletal System (THIEME Atlas of Anatomy) (THIEME Atlas of Anatomy, 1) (3rd ed.). Thieme.
Netter, F. H. (2018). Atlas of Human Anatomy. Elsevier Gezondheidszorg.
White, A. A., & Panjabi, M. M. (1990). Clinical Biomechanics of the Spine. Lippincott.
Md, I. K. A. (2008). The Physiology of the Joints, volume III (6th ed.). Churchill Livingstone.
โฆษณา