Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
10 มี.ค. 2023 เวลา 02:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เนเธอร์แลนด์ ประเทศที่เกษตรกร เป็นคนรวย
“ทำเกษตรกรรม ไม่มีวันรวย” คำพูดแบบนี้ เราคงได้ยินอยู่บ่อยครั้ง เพราะการทำเกษตรกรรม ต้องเจอกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสูง
3
ตรงข้ามกับ เนเธอร์แลนด์ ที่มีคนมีทรัพย์สินมากกว่า 34 ล้านบาท ส่วนใหญ่กว่า 20% ของประเทศ มาจากภาคเกษตรกรรม
2
ทั้งที่มีพื้นที่กว่า 1 ใน 3 อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และมีพื้นที่ใหญ่กว่านครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่สุดของไทยแค่ 2 เท่า
1
ที่น่าตกใจกว่าคือ ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้ เนเธอร์แลนด์เคยอดอยาก และไม่มีอะไรจะกินในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว..
1
แล้วเพราะอะไรกัน คนดัตช์ ถึงสร้างความมั่งคั่งจากเกษตรกรรมได้ ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในช่วงแรก การทำเกษตรกรรมของเนเธอร์แลนด์ ยังเป็นฟาร์มที่ทำทุกอย่างในที่เดียว
1
ตั้งแต่เลี้ยงสัตว์ไปจนถึงปลูกพืชต่าง ๆ ซึ่งเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศเท่านั้น
1
อีกทั้งยังเป็นฟาร์มขนาดเล็ก ที่กระจัดกระจายกันทั่วประเทศ ทำให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการทำเกษตรกรรมยังไม่คุ้มค่าในการลงทุน
1
เวลาผ่านไป จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง..
เนเธอร์แลนด์เสียหายอย่างหนัก จากการเป็นสมรภูมิรบในช่วงสงคราม
ผลกระทบหนักที่สุดก็คือ การขาดแคลนอาหาร จนมีคนเสียชีวิตมากถึง 20,000 กว่าคน
3
เรื่องนี้ เลยทำให้เนเธอร์แลนด์ให้ความสำคัญกับปัญหานี้มากขึ้น ซึ่งผู้นำในการปฏิวัติวงการอาหาร ก็คือชายที่มีชื่อว่า Sicco Mansholt
4
Sicco เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของเนเธอร์แลนด์ ในช่วงปี 1946 ซึ่งเขาได้ทำหลายอย่าง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เนเธอร์แลนด์จะไม่เจอกับปัญหาความอดอยากอีกต่อไป
2
ตัวอย่างนโยบาย ก็เช่น “การเพิ่มขนาดพื้นที่ในการทำเกษตรกรรม”
1
Sicco รู้ดีว่า ปัญหาพื้นที่เกษตรกรรมที่เล็ก ทำให้แต่ละฟาร์มไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก และการลงทุนผลิตแต่ละครั้ง ก็ใช้ต้นทุนที่สูงมากเกินไป
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จึงออกนโยบายปรับปรุงการใช้ที่ดิน เช่น การรวมพื้นที่สำหรับทำการเกษตรที่กระจัดกระจาย ให้อยู่ในโซนเดียวกัน
2
อีกนโยบายหนึ่ง คือ “กระตุ้นให้เกษตรกรคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ”
2
ในปี 1951 มีการออกกองทุนรับประกันเงินกู้เกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรุ่นใหม่กล้าลงทุน เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น
1
เงินทุนที่ว่านี้ จะมาจากธนาคารที่เข้าร่วมในโครงการ จากนั้นกองทุนจะนำเงินมาให้เกษตรกรอีกทอดหนึ่ง ซึ่งก็จะมีการคัดเลือก และติดตามผลงานของเกษตรกรเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
1
จากทั้งสองนโยบายนี้ ทำให้เกษตรกรในประเทศสามารถลงทุนและต่อยอดผลผลิตของตัวเองได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงที่จะขาดทุน
แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกสามเรื่อง ที่ทำให้เกษตรกรในเนเธอร์แลนด์ สามารถสร้างความมั่งคั่งของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง
เรื่องแรกเลย คือ “การรวมกลุ่มของเกษตรกรในประเทศ”
1
ต้องบอกอย่างนี้ว่า เกษตรกรของเนเธอร์แลนด์มีการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์มานานแล้ว เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับตัวเองเวลาขายผลผลิต
1
พอเป็นแบบนี้ เลยทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมาตรฐานเดียวกันในทุกสินค้า และหากมีปัญหา ก็มีอำนาจต่อรองกับภาครัฐที่สูงอีกด้วย
2
นอกจากนี้ ยังสามารถคิดค้นระบบเครดิตให้กู้ยืมสำหรับทำการเกษตร จนเกิดมาเป็น Rabobank ซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นแหล่งเงินสำคัญของเกษตรกรในประเทศ
2
เรื่องต่อมา คือ “มีท่าเรือที่ใหญ่สุดของยุโรป”
เนเธอร์แลนด์ มีท่าเรือรอตเตอร์ดัม ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญของยุโรป เพราะเป็นแหล่งระบายทั้งสินค้าส่งออกและนำเข้า อันดับ 1 ของยุโรป
2
เรื่องนี้เอง ทำให้เกษตรกรของเนเธอร์แลนด์ สามารถส่งผลผลิตออกสู่ตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรปได้อีกด้วย
1
และเรื่องสุดท้าย คือ “การมีนิคมอุตสาหกรรมอาหาร”
รู้ไหมว่า เนเธอร์แลนด์มีการก่อตั้ง Food Valley หรือนิคมอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีทั้งโรงงาน บริษัท และศูนย์วิจัยด้านวิทยาศาสตร์อยู่ในที่เดียวกัน
3
โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย Wageningen ที่โดดเด่นด้านการวิจัยเกษตรกรรม อันดับ 1 ของโลก
1
ยิ่งทำให้นวัตกรรมด้านการเกษตรของเนเธอร์แลนด์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีความได้เปรียบเหนือประเทศอื่น
พูดให้เห็นภาพ เช่น เพื่อให้ได้มะเขือเทศ 1 กิโลกรัม เกษตรกรของเนเธอร์แลนด์ ใช้น้ำเพียง 4 ลิตร แต่เกษตรกรทั่วโลก ใช้น้ำมากถึง 214 ลิตร
9
เรียกได้ว่า เนเธอร์แลนด์ทำน้อย แต่ได้มาก
เพราะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า
1
อ่านมาถึงตรงนี้ คงไม่แปลกใจว่า ทำไมคนรวยที่มีทรัพย์สินมากกว่า 34 ล้านบาท ส่วนใหญ่กว่า 20% ของประเทศ มาจากภาคเกษตรกรรม
ซึ่งก็มาจากการส่งเสริมของภาครัฐ เกษตรกรมีอำนาจต่อรองสูง และการต่อยอดด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาเทคนิคให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
5
ซึ่งจุดตั้งต้นของเรื่องนี้ ก็เพื่อผลิตอาหารให้พอเลี้ยงคนในประเทศเท่านั้น
แต่ปัจจุบัน เนเธอร์แลนด์ ได้กลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตร มูลค่ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
1
จนสามารถสร้างคนให้ร่ำรวยได้ จากการขายผลผลิตทางการเกษตร..
1
"พิเศษ คนที่เปิดบัญชี Dime! ผ่านลิงก์ของลงทุนแมน ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 มีนาคม 2566 จะได้รับ “ฟรี” ค่าคอมมิชชัน การซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ตลอดเดือนเมษายน 2566 พิเศษสำหรับแฟนเพจลงทุนแมนเท่านั้น สมัครเลยที่
https://link.dime.co.th/Longtunman
ผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียด และ เงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่
https://dime.co.th/en/articles/dime-x-ltman
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน"
References
-
https://medium.com/the-global-millennial/how-the-netherlands-is-the-worlds-second-largest-food-exporter
-
https://qrius.com/agriculture-boom-netherland
-
https://www.washingtonpost.com/business/interactive/2022/netherlands-agriculture-technolog
-
https://www.nationalgeographic.com/magazine/article/holland-agriculture-sustainable-farming
-
https://www.britannica.com/place/Netherlands/Dutch-civilization-in-the-Golden-Age
-
https://www.youtube.com/watch
-
https://www.statista.com/statistics/761722/distribution-of-millionaires-in-the-netherlands
-
https://edepot.wur.nl/400417
-
https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_the_Netherlands
-
https://www.cbs.nl/en-gb/figures/detail/7425eng?dl=6C56E
เศรษฐกิจ
เนเธอร์แลนด์
85 บันทึก
150
8
168
85
150
8
168
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย