Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คนธรรมดา ordinary_man
•
ติดตาม
9 มี.ค. 2023 เวลา 14:51 • ปรัชญา
"คุณมีเหตุผลของคุณ...ผมมีหัวใจของผมก็พอแล้ว"
"คุณมีเหตุผลของคุณ...ผมมีหัวใจของผมก็พอแล้ว" ประโยคเด็ดจากหนังเรื่อง...คู่กรรม (2013) และเพราะประโยคนี้ รวมถึงเพลงประกอบหนังที่เพราะมาก ทำให้ผมต้องซื้อดีวีดีแผ่นแท้มาดูเลยทีเดียว เรื่องของหนังเมื่อดูจบมันก็ผ่านไป แต่ที่ติดใจคือประโยคดังกล่าวที่ประทับใจในการสื่อความหมายของมัน
“คุณมีเหตุผลของคุณ” คือการใช้สมองในการคิด หรือ Thinking ในการคิด และตัดสินใจบนพื้นฐานของการคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผลตามตรรกะ
“ผมมีหัวใจของผม” คือการใช้ความรู้สึกหรือ Feeling ในการคิด และตัดสินใจด้วยการใช้อารมณ์ ความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งหลายคนมักพูดให้ดูดี เช่น‘Listen to your heart’ หรือให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ซึ่งการเดินตามเสียงหัวใจไปแล้วนั้นจะไม่ทำให้ผิดหวัง แต่หลายๆครั้งที่เราลองทำตาม มักกลับพบว่ามันลงเอยด้วยน้ำตาทุกที
ในการตัดสินใจด้วยความรู้สึกมากกว่าเหตุผลมักจะได้ผลดีในช่วงแรก ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ การคบเพื่อน บางครั้งการที่เราตัดสินใจคบกับคน ๆ หนึ่ง เพียงเพราะเขาทำให้เรารู้สึกมีความสุขมาก ทำให้โลกทั้งใบของเราเป็นสีชมพู เราจึงตัดสินใจคบกับเขา แต่หลังจากนั้นเมื่อต้องคบหากันเป็นคู่รักอย่างจริงจัง เรากลับพบว่าหลาย ๆ ครั้งเราใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก เช่น เมื่อแฟนไม่ตอบไลน์หรือตอบช้า เมื่อต้องซื้อของขวัญให้ เมื่อต้องพาไปเที่ยว หรือเมื่อต้องการวางแผนอนาคตอันใกล้ และไกลไปด้วยกัน
พระไพศาล วิสาโล ท่านได้บอกเอาไว้ในเรื่องการใช้เหตุผลหรือความรู้สึกในการใช้ชีวิตได้อย่างน่าสนใจว่า ‘คำตอบคือใช้ทั้งสมองและหัวใจ’
หากเราใช้แต่หัวใจ หรือใช้ความรู้สึกมากกว่า เรามักจะตัดสินใจโดยฉับพลันหรือหาเหตุผลต่างๆนานมาบอกตัวเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เรามักจะกินขนมขาไก่ หรือชาไข่มุก หรือขนมต่างๆ แม้จะรู้ว่าตัวเองกำลังลดน้ำหนัก หรือว่าซื้อของที่อยากได้เมื่อลดราคาทันที หรือจ่ายเงินซื้อของที่ไม่จำเป็น แม้จะรู้ว่าต้องเอาเงินในอนาคตมาใช้
ปกติเมื่อไม่มีอะไรมายั่วต่อหน้า คนเราถึงจะใช้เหตุผลเป็นเกณฑ์ในการตัดสินมากกว่าความรู้สึก และบางครั้งก็คิดเยอะใช้สมองเกินไป แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็มักใช้เหตุผลเอนเอียงบ่ายเบี่ยงไปทางไปทางความรู้สึกรู้สึกอยู่ดี เช่นต้องการเพิ่มทักษะภาษา หรืออยากเรียนเก่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ควรอ่านหนังสือหรือทบทวนทักษะก็บ่ายเบี่ยง ผัดวันประกันพรุ่งไป สุดท้ายเมื่อถึงเวลาสอบ หรือเวลาที่ต้องใช้ทักษะก็ทำได้ไม่ดี ไม่ได้ตามต้องการ
ดังนั้นในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ เราก็ควรค่อย ๆ คิดใช้เหตุผลตัดสินใจและใช้ความรู้สึกกำกับร่วมด้วย บวกกับใช้สติเข้ามาช่วยอีกแรง หากใช้รวมกันทั้งหมดแล้วถึงน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด
เพ้อเจ้อรอบดึก
อ้ายเคน (Ordinary man) 9 มี.ค. 2566
อ้างอิง :
http://www.plookfriends.com/blog/content/detail/89082
ปล. สุดท้าย สำหรับเรื่องคู่กรรม ไม่ว่าจะมีการตีความใหม่กี่ครั้ง หรือจะมีการสร้างเป็นหนังหรือละครอีกกี่เวอร์ชั่น สุดท้ายแล้วในตอนจบ ‘โกโบริ’ `ก็เป็นผู้ที่ต้องตายจากไปทุกครั้ง
ชีวิต
ความรัก
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
3
3
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย