9 มี.ค. 2023 เวลา 15:42 • อาหาร

รู้ก่อน อร่อยก่อน!!! เรื่อง(ไม่)ลับของ KOMBUCHA เครื่องดื่มแห่งทศวรรษ

หากจะให้พูดถึงเครื่องดื่มที่มนุษย์เรานิยมดื่มกันมากที่สุด คำตอบก็คงจะเป็น ชา (Tea) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทั่วทุกมุมโลก จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน
ชาสามารถแบ่งได้ 5 ประเภท ได้แก่ ชาขาว ชาเขียว ชาดำ ชาอู่หลง และชาสมุนไพร แต่เมื่อชาได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนต่างก็เริ่มนิยมบริโภคชาชนิดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ ชาหมัก หรือที่รู้จักในชื่อ คอมบูชา (Kombucha)
คอมบูชาในโหลหมัก (ที่มา: Wellness Hub)
ชาหมักหรือว่า คอมบุชา (kombucha) เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการนำชาไปหมักไว้กับน้ำตาลและหัวเชื้อในการหมักที่ชื่อว่า SCOBY (Symbiotic Culture of Bacteria and Yeasts) ซึ่งจะทำให้ชามีรสหวานและเปรี้ยวมากขึ้น
คอมบูชา (ที่มา: Aimecha)
ต้นกำเนิดของคอมบูชานั้นมาจากประเทศจีนเมื่อ 2,200 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากเป็นยาอายุวัฒนะที่ถวายให้กับ " จิ๋นซี ฮ่องเต้ " จักรพรรดิของจีนในเวลานั้น ต่อมาคอมบูชาก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่น เนื่องจากมีคุณหมอชื่อ "Kon Mu" ได้นำคอมบูชามาใช้รักษาโรคให้จักรพรรดิญี่ปุ่นจนหายดี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายๆ คนเรียกชาชนิดนี้ว่า "Kon Mu Cha" จนกลายมาเป็นชื่อ "Kombucha" ในปัจจุบัน
จิ๋นซีฮ่องเต้ (Chin Xi Huang)
เมื่อเวลาผ่านไปคอมบูชาก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง จนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1990s คอมบูชาได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในประเทศโซนยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย โดยเริ่มจากการเป็นเครื่องดื่มแบบโฮมเมด/เพื่อสุขภาพ และค่อยๆ เริ่มมีบทบาทในตลาดการค้าของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีมูลค่าตลาดมากเป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2019 คอมบูชามีมูลค่าตลาดสูงถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และคาดว่ามีมูลค่าสูงถึง 2,123.8 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 ซึ่งนับว่าเป็นอีก 1 เทรนด์นวัตกรรมอาหารที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
เนื่องจากคอมบูชาเป็นเครื่องดื่มที่ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ชนิดดี สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีกหลากหลายชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น คอมบูชาจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น
  • มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการลำไส้แปรปรวน
  • ช่วยในการย่อยอาหาร เผาผลาญไขมัน
  • ช่วยในการลดน้ำหนัก แก้ท้องผูก
  • ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เป็นปัญหาออกจากร่างกาย
  • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดไข้หวัดและการติดเชื้อต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การดื่มคอมบูชาไม่ควรดื่มในขณะที่ท้องว่าง และควรจะดื่มในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณวันละ 100 ซี.ซี.) รวมทั้งควรเลือกดื่มคอมบูชาที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้คุณประโยชน์และรสชาติที่ดีที่สุดในการรับประทาน
แม้ว่าปัจจุบันคอมบูชาอาจจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับชาทั่วไป แต่ก็เป็น 1 ในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งในอนาคต คอมบูชาอาจจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเลยก็ว่าได้ :)
แล้วคุณล่ะ เคยได้ลองชิมคอมบูชามาบ้างแล้วรึยัง ถ้าใครเคยแล้วอย่าลืมคอมเมนต์แชร์คอมบูชาเจ้าประจำของตัวเองกันด้วยนะ ส่วนใครที่ไม่เคยชิม หรือไม่รู้จะดื่มคอมบูชายี่ห้อไหนดี ทางเราก็มียี่ห้ออร่อยมาแนะนำ นั่นก็คือ "Aimecha" ของพวกเรานี่เองงง
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ Aimecha ได้ที่: https://instagram.com/aimecha_brand?igshid=OGQ5ZDc2ODk2ZA==
เขียน: AI Aimecha
โฆษณา