10 มี.ค. 2023 เวลา 03:05 • ไลฟ์สไตล์
การที่เราเกิดมามีกาย จิตที่อาศัยกับกาย มีอารมณ์ปรุงแต่งอยู่ กายนั่นก็มีมายา อารมณ์นั้นก็มีมายา มีอารมณ์โลภโกรธหลง ทะเยอทะยาน ชอบไม่ชอบ ถูกใจไม่พอใจ เราก็ใช้กายวาจาใจไปตามอารมณ์ เป็นลักษณะที่เรียกว่าคล้องกรรม ยึดเข้ามา ภายในกายภายในจิต มีกายเก็บสะสมเข้ามา มีอารมณ์นึกคิด พัวพันอยู่กับวิญญาณทั้งหก คลุมไปทั้งกายทั้งจิต
มันจึงเป็นอารมณ์ทุกข์สุขที่อารมณ์เค้าปรุงแต่งให้ ให้จิตหลงยึดอารมณ์นำพากายไปทำตามอารมณ์ มีกิริยาของกายวาจาใจด้วยอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตนเอง อารมณ์ที่วูบวาบวิบวับเหมือนหิ่งห้อย โดยไม่รู้จักอารมณ์ที่เกิดขึ้นที่ตัวเองว่ามีลักษณะอย่างไร
เหมือนเรื่องน้ำที่อยูุในแก้ว กายก็เหมือนแก้วน้ำ น้ำก็เหมือนจิต สิ่งที่ทำให้น้ำขุ่นสกปรกก็คืออารมณ์ เมื่อน้ำมันขุ่น มันก็ปรุงแต่งไปแต่งน้ำขุ่น แล้วเราจะรู้จักน้ำที่ใส จิตที่ไม่มีสิ่งสกปรกนั้นได้อย่างไร เพราะมันมองเข้าไปข้างในกายมันมองไม่เห็น เรื่องราวของจิต กับอารมณ์ ภายในกาย
คราวนี้ เมื่อต้องการสุขที่เกิดขึ้นภายในจิต ก็ต้องหาวิธีแก้ไข ให้เกิดความสุขภายในจิต โดยหาวิธีผลักไสสิ่งสกปรกนั้นออกไป เพื่อช่วยเหลือจิตของตนเอง โดยสร้างบุญกุศลบ้าง ปฏิบัติธรรมบ้าง สวดมนต์บ้าง เพื่อเหนี่ยวรั้งจิตมาอยู่กับพระ ปล่อยวางอารมณ์ชั่วขณะหนึ่ง ให้กายนั้นเบาจิตเบาเกิดขึ้น จิตก็จะค่อยมีกำลัง ขจัดสิ่งที่ทำให้น้ำขุ่นนั้นออกไป
โฆษณา