Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right SaRa by Bom+
•
ติดตาม
11 มี.ค. 2023 เวลา 01:57 • การเมือง
จับตามอง “สมัย 3 สี จิ้นผิง” ความสัมพันธ์ระหว่าง “รัสเซีย” “อเมริกา”
10 มีนาคม พ.ศ. 2566: “เป็นไปตามคาดหมาย” สี จิ้นผิง ได้รับเลือกดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 เป็นที่เรียบร้อย หลังสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) [รัฐสภาของจีน] ทั้งหมด 2,952 คน ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้เขาได้ไปต่อ ทำให้ “สี จิ้นผิง” จะดำรงตำแหน่งผู้นำของจีนต่อไปอีก 5 ปี และอาจนานกว่านั้นหากในอนาคตไม่มีคู่แข่งปรากฏตัว
ทำให้ “สี จิ้นผิง” กลายเป็นประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ หลังจากมีการเปลี่ยนบทบัญญัติการปกครองจีนเมื่อห้าปีก่อน เพื่อยกเลิกข้อจำกัดที่ว่าประธานาธิบดีจีนสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 สมัยเท่านั้น
อ้างอิง:
https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3212973/xi-jinping-faces-stormy-sea-he-starts-third-term-chinas-president
เครดิตภาพ: Xinhua
★
ท่าทีของ “รัสเซีย”
เครดิตภาพ: Illustration: Craig Stephens/SCMP
■
10 มีนาคม พ.ศ. 2566 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลัง “สี จิ้นผิง” ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจีนสมัย 3 ตามคาด ประธานาธิบดีรัสเซีย “วลาดิเมียร์ ปูติน” ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีกับ สี จิ้นผิง ในการนี้ พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างสองประเทศ โดยออกเป็นคำถ้อยแถลงอย่างทางการ เผยแพร่โดยเครมลิน ใจความดังนี้
...
เรียน สหายที่รัก
โปรดรับการแสดงความยินดีอย่างจริงใจในโอกาสที่คุณได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่ง [ประธานาธิบดีของจีน] อีกครั้ง
“รัสเซียให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมส่วนตัวของคุณในการเสริมสร้างความสัมพันธ์… และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างประเทศของเรา”
“ผมมั่นใจว่าการทำงานร่วมกันระหว่างเรา จะรับประกันการพัฒนาความร่วมมือ รัสเซีย-จีน ซึ่งประสบผลสำเร็จในด้านต่างๆ ทุกด้าน เราจะยังคงประสานงานการทำงานร่วมกันในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด”
อ้างอิงคำถ้อยแถลงของ “ปูติน” ถึง “สี จิ้นผิง” เผยแพร่โดยเครมลิน ตามลิงก์ด้านล่าง
http://kremlin.ru/events/president/letters/70658
“จีน” ได้กลายเป็นพันธมิตรทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญของ “รัสเซีย” หลังจากเริ่มสงครามในยูเครน ทำให้รัสเซียถูกคว่ำบาตรและโดดเดี่ยวจากชาติตะวันตก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ปูติน” และ ”สี จิ้นผิง” ได้กล่าวถึงความเป็นหุ้นส่วนแบบ “ไร้ขีดจำกัด” ระหว่างประเทศของตน จุดประสงค์เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจเหนือโลกของสหรัฐฯ ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวของความสัมพันธ์นี้ผ่านทางรายการพอดแคสต์ The Take ของ Al Jazeera ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
เยี่ยมชม
aljazeera.com
How far can China and Russia’s ‘no limits’ partnership go?
Beijing has continued to stand by Russia even after the invasion of Ukraine, but it’s paying the price for this support.
ในขณะเดียวกัน จีนกำลังกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ผ่านขั้วอำนาจใหม่หรือกลุ่มประเทศที่เรียกว่า BRICS และ Global South
1
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 “วลาดิเมียร์ ปูติน” ยกย่องเรื่อง “พรมแดนใหม่” ในความสัมพันธ์กับปักกิ่ง ระหว่างการเยือนกรุงมอสโกของนักการทูตระดับสูงของจีน “หวัง อี้” และส่งสัญญาณว่าเขาคาดว่า “สี จิ้นผิง” จะมาเยือนรัสเซียเร็วๆ นี้ ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีรัสเซียกระตุ้นให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่พอใจในสิ่งที่เรียกว่าแนวร่วมที่มากขึ้นระหว่างจีนและรัสเซีย
อ้างอิง:
https://sputniknews.com/20230222/how-russo-chinese-strategic-cooperation-may-bring-us-forever-wars-to-end-1107713826.html
★
ท่าทีของ “อเมริกา”
เครดิตภาพ: Illustration: Craig Stephens/SCMP
แม้จะยังคงมีความสัมพันธ์กันทางเศรษฐกิจกันอยู่ แต่ “อเมริกา” และ “จีน” ก็มีความขัดแย้งกันในหลายๆ ประเด็น โดยวอชิงตันยั่วยุปักกิ่งอย่างเปิดเผยด้วยการยกระดับความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวันและแทรกแซงกิจการภายในอื่นๆ ของจีน ไม่ว่าเป็น “ฮ่องกง” “ซินเซียง” และ “ทะเลจีนใต้”
หรือล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว “อเมริกา” (บลิงเคน) เตือน “จีน” ว่าอย่าส่งอาวุธไปช่วย “รัสเซีย” ในสงครามยูเครนเป็นอันขาด อ้างอิง:
https://apnews.com/article/russia-ukraine-putin-politics-antony-blinken-xi-jinping-4501b49359d73b6efbac87b2af54f189
เมื่อปีก่อน “ไบเดน” ยังได้เพิ่มแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมไฮเทคของจีน เช่น การแบน TikTok บนอุปกรณ์ที่มอบให้เจ้าหน้าที่รัฐของอเมริกา หรือความพยายามที่จะแยกจีนออกจากเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย
อุตสาหกรรมของจีนและอเมริกา มีความเกี่ยวพันกันมานานแล้ว โดยจีนได้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานทางเทคโนโลยีอย่างมหาศาล เนื่องจากมีปริมาณแร่ Rare earth จำนวนมาก
✓
“จีน” ไม่เพียงแต่มีแหล่งแร่สำรองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งผลิตแร่ Rare earth ประมาณ 85% ของโลกอีกด้วย จากการสำรวจทางธรณีวิทยาของอเมริกาในปี 2022 โดยข้อมูลที่บันทึกระหว่างปี 2017 ถึง 2020 อเมริกานำเข้า rare earth จากจีนมากถึง 78% ตามมาด้วยเอสโตเนีย (6%) มาเลเซีย (5%) และญี่ปุ่น (4%) นอกจากนี้แผงวงจรราคาถูกที่ผลิตในจีนยังถูกใช้ในอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆของอเมริกา
2
ซึ่งหาก “อเมริกา” ต้องการทำจริงเพื่อหวังกีดกันจีน เพื่อลดการพึ่งพิงห่วงโซ่อุปทานสำหรับอุปกรณ์ไฮเทคของอเมริกาเอง ก็เท่ากับว่า “ทำร้ายตัวเอง” แม้แต่บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน TSMC ก็มีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในโรงงานหล่อโลหะในรัฐแอริโซนา เพราะการลงทุนส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่
1
อ้างอิง:
https://pubs.usgs.gov/periodicals/mcs2022/mcs2022-rare-earths.pdf
https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3185968/how-chinas-rare-earth-dominance-spurs-us-and-its-allies
https://fortune.com/2022/06/20/yellen-urges-less-dependence-on-other-nations-for-key-supplies-urges-friendly-shoring
https://sputniknews.com/20221215/washingtons-tiktok-ban--broader-hi-tech-war-on-china-may-backfire---author-1105499966.html
ล่าสุดเมื่อ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา “ไบเดน” ได้เสนอให้มีการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมของปี 2024 เพิ่มขึ้นจากปี 2023 มากกว่า 3% [จาก 7.73 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2023 เป็น 8.42 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2024] เพื่อรับมือการความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจาก “จีน” “รัสเซีย”
อ้างอิง:
https://thehill.com/policy/defense/3892532-bidens-defense-budget-concentrates-on-rising-threats-from-china-russia
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่เชื่อว่า อเมริกากำลังจะใช้กำลังทหารกดดันจีน
Thomas W. Pauken II ผู้เขียนหนังสือชื่อ US vs China: From Trade War to Reciprocal Deal ที่ปรึกษาด้านกิจการเอเชีย-แปซิฟิก และนักวิจารณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ กล่าวกับ Sputnik ว่า
●
“อาจเป็นแรงกดดันอย่างท่วมท้นทางการเมืองมากกว่า แต่ผมไม่คิดว่ากองทัพจะเข้ากดดันจีน ผมไม่เห็นว่า “ไบเดน” เป็นประธานาธิบดีที่แข็งแกร่ง เขาจะเสริมกำลังทางทหารมากกว่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่ผมไม่คิดว่าเขากำลังพยายามยุยงให้เกิดสงครามกับจีน”
●
“ดังนั้นการกีดกันจีนส่วนใหญ่จะเป็นไปในเชิงเศรษฐกิจ การทูต และการเมือง แต่ในขณะเดียวกัน นี่อาจเป็นปีที่เลวร้ายยิ่งกว่าสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ เพราะดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะหยุดดูท่าทีอยู่ในขณะนี้ และไม่แสดงความรู้สึกของการประนีประนอมหรือเต็มใจที่จะแสดงการผ่อนปรนใดๆ”
2
●
ผู้เชี่ยวชาญของปักกิ่งกล่าวว่า ชาวจีนยังไม่กังวลเกี่ยวกับความมุ่งมั่นทางทหารของไบเดนในจีน แม้ว่าพวกเขาจะต่อต้านการขยายกำลังทางทหารของวอชิงตันในเอเชียแปซิฟิกอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม ถึงกระนั้นเมื่อพิจารณาจากการจัดการวิกฤตยูเครนของอเมริกาแล้ว วอชิงตันยังไม่พร้อมสำหรับความขัดแย้งทั่วไปในวงกว้าง
●
“ถ้าคุณมองอย่างใกล้ชิด เช่น คลังอาวุธและกระสุนที่เพนตากอนเข้าถึงได้ และความสามารถของบริษัทอาวุธของอเมริกา ในการผลิตอาวุธและกระสุนจำนวนมากขึ้น นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำในตอนนี้ พวกเขาได้ส่งอาวุธและคลังเหล่านี้จำนวนมากส่งไปยังยูเครน และจากที่ผมได้ยินมา คลังอาวุธเหล่านี้ในอเมริกาเองเริ่มจะหมดลง เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเร่งผลิตให้ทันตามความต้องการ”
●
“ลองดูสงครามตัวแทนในยูเครนและวิธีที่พวกเขาส่งเงินกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ไปให้ยูเครน พวกเขาจะไม่แม้แต่จะตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เข้าไปที่นั่น เพราะกลัวคนจะรู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหน ขณะเดียวกันอาวุธจำนวนมากก็ถูกส่งไปยังยูเครน ดังนั้นสิ่งที่ผมยกประเด็นก็คือ อเมริกาและตะวันตกนั้นดุดันมาก แต่พวกเขาไม่ได้ดุดันอย่างฉลาด”
2
●
ดังนั้น “จีน” ไม่ต้องทำอะไรในสถานการณ์ดังกล่าว ดั่งมีคำกล่าวโบราณที่ผมเคยได้ยินจากคนจีนที่กล่าวว่า “เมื่อศัตรูของคุณทำตัวโง่เขลา อย่าพูดอะไรเพื่อหยุดเขา” เมื่อพิจารณาเช่นนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่ปักกิ่งจะใช้การตอบโต้ทางทหารต่อการยั่วยุของวอชิงตันในเร็วๆนี้
4
อ้างอิง:
https://sputniknews.com/20230310/xis-third-term-ushers-in-an-era-of-closer-relations-with-russia-smart-competition-with-us-1108271332.html
เรียบเรียงโดย Right SaRa
11th Mar 2023
■
เครดิตภาพปก:
บน - Sputnik / Sergey Guneev
กลาง - Saul Loeb/AFP via Getty Images; Mikhail Svetlov/Getty Images; Rebecca Zisser/Insider
ล่าง - Paul J Richards/AFP/Getty Images
จีน
สหรัฐอเมริกา
2 บันทึก
43
9
8
2
43
9
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย