Unavoidable Crash : Liquidity -> Insolvency
ใครที่ติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Silicon Valley Bank คงจะสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่
สาเหตุส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นกับ Silicon Valley Bank คือ เงินฝากส่วนใหญ่ของธนาคารเป็นเงินร้อนที่พร้อมที่จะโยกไปมาอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเงินของ VC และ Startup เสียเป็นส่วนใหญ่
ณ จุดสูงสุด ธนาคารเคยมีเงินฝากมากถึง 189 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 โตขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2017 แต่พอร์ตเงินกู้โตขึ้นจาก 23 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาเป็น 66 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น เงินที่เหลือนั้นส่วนใหญ่นำไปลงทุนในพันธบัตร และ Mortage backed security ซึ่ง SVB ก็สามารถกินส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยได้
แต่พอดอกเบี้ยสูงขึ้น ธนาคารที่ถือตราสารหนี้ระยะยาว กลับมีผลขาดทุนที่ยังไม่ได้รับรู้ (Unrealized loss) ในตราสารเหล่านั้น ซึ่งในภาวะปกติก็คงไม่มีปัญหา
แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ทำให้ผลตอบแทนในหลักทรัพย์อื่นสูงขึ้น ทำให้ผู้ฝากเงินฝากส่วนหนึ่งหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นแทน นอกจากนั้นตลาดหุ้นเทคโนโลยีที่ซบเซา ทำให้ VC ชะลอการลงทุนลง มีส่วนทำให้เม็ดเงินใหม่ที่เข้ามาในธนาคารยิ่งลดลงไปอีก
พอเงินฝากค่อย ๆ ลดลง ตอนแรกธนาคารก็สามารถที่จะขายสินทรัพย์อายุสั้นๆ เพื่อคืนเงินให้กับผู้ฝากได้ แต่พอการถอนเงินมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด ธนาคารก็ต้องเริ่มที่จะขายตราสารหนี้ระยะยาวมากขึ้น และต้องรับรู้ผลขาดทุน 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
และประกาศเพิ่มทุน 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อที่จะเติมเงินกองทุน ส่งผลทำให้ตลาดตื่นตระหนก จนผู้ฝากแห่กันถอนเงินออกมา
ฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ Peter Theil ผู้ก่อตั้ง Founders Fund ประกาศถอนเงินทั้งหมดออกจาก SVB และแนะนำให้นักลงทุนถอนเงินออกจาก SVB จนทำให้ตลาดยิ่งตื่นตระหนกเข้าไปอีก
ในที่สุด จากปัญหาสภาพคล่อง ถูกเปลี่ยนไปเป็นปัญหาการล้มละลายไปเฉย เพียงเมื่อความเชื่อมั่นหายไป แม้ธนาคารที่แข็งแกร่งก็พร้อมที่จะล้มได้
เราคงต้องติดตามดูกันว่า Fed จะมีนโยบายใดออกมา เพื่อหยุดความตื่นตระหนกของตลาด เพื่อไม่ให้ปัญหาลามไปยังธนาคารอื่น ๆ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
