12 มี.ค. 2023 เวลา 13:53 • ปรัชญา
เขตบึงกุ่ม

🌿 ถึงยุคเป่าขลุ่ยเอนหนังบนหลังควายหรือยังนะ ชาวอโศก 💦

พ่อครูเดินทางจากปฐมอโศกไปสันติอโศกแต่เช้ามืดวันอาทิตย์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๖
วันนี้พ่อครูนั่งมากับรถคุณไผ่ นอนพักระหว่างอยู่บนรถได้ดี เดินทางถึงสันติอโศกแล้วมีแรงให้โอวาทชาวสันตินาคร...แต่พ่อครูก็เปรยก่อนเลยว่ารู้สึกเมื่อย ยังคิดอยู่ว่าการเดินทางไกลเช่นนี้ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า?
อาแชมดินรายงานว่า...ที่ดินของสันติอโศกขยายไม่ค่อยออกแล้ว คนของเราก็น้อยลงๆๆทุกวันไม่รู้จะชื้อที่ขยายไปทำไม ก็ชื้อเอาไว้ปลูกผัก
พ่อครูเลยแซวว่า...ก็ชื้อที่ไร่ละ ๑๐ ล้านเอาไว้ปลูกผักชี ปลูกผักสะระแหน่อะโรอย่างนี้ เอาไปแจก ก็พวกเรานี้เป็นพวกตลกนะ เขาไปช้ายเราไปขวา ไปตรงกันข้ามกับเขา แต่ทางที่เขาไปกับมีแต่ไปแย่งไปชิงกันนะ แต่พวกเรามาอย่างนี้สบายไม่แย่งกับใคร ซึ่งเขาไม่เข้าใจ
มันอยู่ที่จิตวิญญาณ การยึดถือ ใช้ภาษาหนึ่งว่ายึดถือ อีกภาษาหนึ่งว่าความเห็น ความเข้าใจ...เรามีความเห็นความเข้าใจว่าอย่างนี้สบาย เบาง่ายสะดวก แล้วก็ปรับจิตมายอมรับ ให้จิตมันเข้าใจ... พอมายอมรับมาเข้าใจแล้ว มันก็ลงตัว ลงตัวแล้วก็ชิน ชินแล้วก็สบาย
อ้อ...จริงๆแล้วมาจนมันดีกว่ามารวยอะไรอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมีมากมายอะไร และแม้จนก็ไม่ได้หมายความว่าอดอยาก ลำบากลำบนอะไร แต่กลับเบาง่าย ว่าง ดีกว่าหมาหอบแดด ลิ้นห้อย ซอกๆๆๆไม่รู้จักหยุดจักพัก พักไม่ได้ พัก...ตาย แต่นี่ของเราสบาย พักก็ได้ มีพักมีผ่อนมีเล่นได้
ยุคนี้นี่อโศกเราถือว่า " เป่าขลุ่ยเพลงหนัง บนหลังควาย ได้หรือยัง?"
อาแซมดินว่า ...อาหารของเราก็สะอาดบริสุทธิ์ ที่อยู่อาศัยเราก็ดีก็กว่า ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีกว่า
พ่อครูว่า... ก็เอาแต่แค่สันติอโศกกับข้างๆแค่นี้ บรรยากาศก็ต่างกันทุกอย่างแล้ว ความเป็นอยู่ก็ต่างกับ คนอยู่ติดกันเลยนะแต่มันไม่เหมือนกัน โอ้โหคนละฟากฟ้ากับเหวเลยนะ
อาแซมดินว่า...ที่สำคัญผู้ที่อยู่แวดล้อมพวกเราดีกว่าข้างนอกเยอะ
พ่อครูว่า ..มันมีรังสีออกไป แม้เขาไม่มาปฏิบัติทีเดียวแต่เขาก็ปรับตัวเข้าหาพวกเราบ้างเขาก็ฟังบ้าง
พอถึงช่วงสายๆหน่อยพ่อครูเดินดูรอบๆสันติอโศก และแวะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าของพ่อครูคือพันเอกบรรลือ ซึ่งอายุมากกว่าพ่อครู ๑ ปี ที่เคยเรียนโรงเรียนเพาะช่างรุ่นเดียวกันกับพ่อครูมา พันเอกบรรลือเรียนปั้นพ่อครูเรียนวิจิตรศิลป์
พันเอกบรรลือดีใจมากที่พ่อครูมาเยี่ยม เพราะตนเองก็ป่วยหนักไปหาพ่อครูไม่ได้ ทั้งที่ใจก็อยากไปเยี่ยม โดยพันเอกบรรลือและภรรยาอาศัยอยู่ที่ตึกนำโชค ที่ตนสร้างอยู่ติดรั้วสันติอโศกอยู่ ภรรยาของพันเอกบรรลือบอกว่า เป็นเพราะได้บารมีพ่อครูและสันติอโศกกิจการให้เช่าที่พักและห้องอาหารของตึกนำโชค จึงเป็นไปด้วยดี มีญาติธรรมคอยมาอุดหนุนมากอยู่
พ่อครูมาเยือนสันติอโศกครั้งนี้ไม่ได้มีกำหนดหมายไว้ก่อน นับเป็นความโชคดีของชาวสันตินาครและญาติธรรมทั้งจากใกล้ไกล จากกลุ่มอุโบสถศีล ก็มารอต้อนรับพ่อครูกันล้นหลาม ไม่มีอะไรจะเป็นมงคลเริ่มต้นแก่ชีวิตไปมากกว่าการได้พบกับสัตตบุรุษอีกแล้ว และเมื่อพบเจอสัตบุรุษ ได้ฟังสัทธรรม นำไปปฏิบัติจนเกิดมรรคเกิดผลแก่ชีวิต จะช้าอยู่ใย รีบมาอยู่ร่วมกันกับหมู่กลุ่มที่สัปปายะ ยุคนี้ อโศกจะไปสู่สภาพ “เป่าขลุ่ยเอนหนัง บนหลังควาย”กันแล้ว อย่ามัวแต่วิ่งหาอบายคือหัวหน้านรกกันอยู่เลย....
โฆษณา