Drive My Car - เมื่อคุณเปิดใจและยอมรับ เมื่อนั้นคุณจะพบทางออกที่แท้จริง
เมื่อคุณเปิดใจและยอมรับ เมื่อนั้นคุณจะพบทางออกที่แท้จริง
DRIVE MY CAR เป็นหนังสไตล์ที่เราชอบมาก เป็นหนังที่เดินเรื่องด้วย dialog ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้เข้าใจยากขนาดน้องตามจับทุกตัวอักษร ปล่อยไหลไดั หนังมีความหมายให้ทุกระดับ ดูเผินๆ ไม่ตั้งใจมากก็เข้าใจได้ แต่ถ้าตั้งใจจับสัญญะของทุกประโยคก็จะพาไปได้ไกลมากๆ เลย
หนังพูดถึงผู้กำกับละครเวทีคนหนึ่งที่มีโอกาสได้มากำกับละครฯ ที่ต่างจังหวัด แต่สถานที่มีกฎห้าม ผกก ขับรถเอง ต้องมีคนขับรถให้ ประกอบกับเรื่องราวในอดีตที่ตามมาหลอกหลอนไม่จบสิ้น บวกกับอุบัติเหตุด้านการทำงานครั้งใหญ่ที่ทำให้ต้องตัดสินใจในสถานการณ์บีบคั้น นำไปสู่เส้นทางใหม่ของชีวิตที่เขาไม่เคยไปถึงมาก่อน
ประเด็นของหนังดีมากทั้งในเรื่องของเส้นเรื่องหลักและเส้นเรื่องย่อย ปัญหาส่วนตัวของเขาเอง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และเนื้อเรื่องของตัวละครสมทบรอบๆ ตัวเขาก็เด่นไม่แพ้กัน น้ำหนักมันพอดี ใส่มาอย่างถูกจุด สมดุลระหว่างความเครียดและความสุขดีมาก ดีจนดูจบแล้วนั่งนิ่งๆ ต่อได้อีก 5 นาที
ตัวละครก็มีมิติชัดเจนและหนักแน่น ตัวละครแต่ละตัวมีนิสัยที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้ชัดจนทำให้รู้สึกแปลก คือไม่แบนจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจนรู้สึกเหมือนละครหรือหนัง มันให้ความรู้สึกจริงมาก คนเราใช้ชีวิตมาตามเส้นทางของตัวเอง ย่อมมีสิ่งที่ตนยึดมั่นถือมั่นเป็นธรรมดา และหนังเรื่องนี้เลือกแต่ละมุมมาถ่ายทอดได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา และน้ำหนักกำลังดี
ถึงหน้าหนังจะดูเหมือนแนว road trip movie แต่ที่จริงไม่ใช่ ไม่เหมือน green book ที่หนังจะดำเนินเรื่องผ่านการเดินทาง รถพาเราไปเจอสถานการณ์ต่างๆ ผ่านพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป แต่หนังเรื่องนี้ใช้เรื่องราวในรถพื้นที่สำคัญในการดำเนินเรื่อง แต่ส่วนสำคัญไม่ใช่สถานที่ที่ล้อมันพาเราไป แต่มันพาข้างในเราไปในที่ที่ลึกลับที่สุดในตัวของเรา
สำหรับเรา “รถ” ในหนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนภายในจิตใจของคนคนหนึ่ง ที่ปกติแล้วคนอยู่หลังพวงมาลัยจะเป็นเรา อาจมีผู้ร่วมทางบ้างบางครั้ง แวะไปส่งใกล้ๆ ก็มี นั่งด้วยกันเป็นวันๆ ก็ได้ หรืออาจอยู่ในรถด้วยกันหลายปีก็มีเหมือนกัน นั่งโดยสารว่าพิเศษแล้ว แต่การอนุญาตให้คนอื่นมานั่งหลังพวงมาลัยรถเรายิ่งพิเศษเข้าไปใหญ่ แล้วหนังเรื่องนี้พาเราไปดู “รถ” หลายคันมาก ซึ่งแต่ละคันนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แสนพิเศษ และสำหรับเจ้าของรถแล้ว คนที่มีโอกาสได้เห็นก็ต้องพิเศษไม่แพ้กัน
อีกประเด็นที่เราชอบของหนังเรื่องนี้ก็คือการดีลกับปัญหา ตัวละครแต่ละตัวมีวิธีรับมือกับปัญหาที่ต่างกัน ซึ่งมันก็นำไปสู่เส้นทางชีวิตที่ต่างกัน แต่ถ้าวันนึงวิธีที่เคยใช้มาตลอดมันกลับพาไปถึงทางตันแล้วล่ะ ต้องแก้ยังไงล่ะทีนี้ บางทีการปล่อยให้คนอื่นเข้ามาควบคุมพวงมาลัยให้ชั่วคราวอาจเป็นทางออกที่ดี ที่จะช่วยให้เราเห็นวิธีขับแบบใหม่ๆ วิธีดีลปัญหาแบบใหม่ๆ และได้พักใจพักกายได้สักระยะหนึ่งก็คงจะดี
หนังค่อนข้างนานนะ เกือบ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าชอบหนังบทแน่นๆ เราอยากให้ลอง คุณอาจจะชอบทริปพิเศษกับรถคันพิเศษนี้ก็ได้ ;))
10/10 ไปเลย
#drivemycar
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
