15 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การส่งออกไทยเดือน ม.ค. 66 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง แต่มีระดับที่ลดลงที่ -4.5% (YoY)

โดยยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ลดลง โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนยังหดตัวที่ -11.4% (YoY) ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การส่งออกไทยในระยะข้างหน้ายังคงจะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกต่อเนื่อง
แต่การชะลอตัวดังกล่าวอาจไม่รุนแรงเท่ากับที่เคยได้มีการคาดการณ์ โดยมีแรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนที่แม้ชะลอตัวแต่ยังคงแสดงความแข็งแกร่ง
การชะลอตัวลงของเศรฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ได้ส่งแรงกดดันต่อเนื่องมายังต้นปี 2566 โดยเดือนมกราคม 2566 การส่งออกไทยหดตัวที่ -4.5 (YoY) หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
โดยปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกไทยในเดือนมกราคม 2566 ได้แก่ การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นยูโรโซนยังคงหดตัวโดยเฉพาะการส่งออกไปยังจีนที่หดตัว -11.4%(YoY) โดยการส่งออกสินค้าคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติกไปยังจีนยังหดตัวต่อเนื่องตามอุปสงค์ที่ลดลง
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2566 อาจยังไม่เห็นภาพอานิสงส์จากการเปิดประเทศจีนอย่างชัดเจน แต่ในระยะต่อไปคาดว่าการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นสะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ปรับตัวดีกว่าคาดที่ระดับ 52.6
สำหรับมุมมองการส่งออกไทยในปีนี้ การส่งออกไทยในระยะข้างหน้ายังมีแนวโน้มที่จะโดนกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้าและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจโลกอาจไม่ชะลอตัวลงแรงอย่างที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศของจีนที่คงส่งผลให้เศรษฐกิจกิจจีนขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนแม้ว่าจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงแต่ตัวเลขหลายตัวที่ออกมาล่าสุดยังคงสะท้อนภาพค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนจะหดตัวในปีนี้นั้นมีลดลง ซึ่งคงส่งผลบวกต่อไปยังภาคการค้าและเศรษฐกิจโลกโดยรวม ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงมองว่าการส่งออกไทยในปี 2566 จะติดลบเล็กน้อยที่ -0.5%
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock.com
โฆษณา