14 มี.ค. 2023 เวลา 03:01 • การศึกษา
" อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะฝึกสอนจบเเล้ววว อนาคตไม่รู้จะไปต่อไหนดี "
คำเปรยตอนท้ายคำถามอันนี้ซิครับ เป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่ชอบตั้งคำถามกับตัวเอง
สมัยเรียนผมก็เป็นครับ มีความคิดการเรียนต่อ อยากเข้ามหาวิทยาลัย "มหา"เลยนะ
มันดูดีมากเลย ที่พ่อแม่บอกใครต่อใครว่าลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ถ้าถามท่านๆตอนนั้นท่านก็คงตอบไม่ได้ว่าลูกจะเดินทางในสายงานอะไร?แค่รู้สึกดีลูกมีที่เรียน
มันสำคัญมากครับกับการวางเป้าหมาย ความคาดหวัง หรือเค้าโครงเส้นทางอนาคตซึ่งตอนนั้น ใครมาถามอยากเป็นอะไร ? ทำไมเลือกเรียน? และทำไม?ๆๆ
ก็มึนตอบไม่ถูกหงุดหงิดเสียอีก ถามอยู่ได้...ไม่ได้คิดเท่าไหร่หรอก
ยังไม่รู้เลย "เรียนไปก็คงรู้เอง...แหละ!"
อยากบอกจากประสบการณ์ว่า คำนี้แหละที่ทำให้ชะล่าใจจนถึงใกล้จบ
โดยที่เรียนแบบล่องลอยเพลินๆ เดินๆเรียนๆหายใจ สนุกสนานกิจกรรมไม่ขาด
ใกล้จะจบแล้วก็มีอารมณ์ความคิด "ช๊อค ฉุกคิด"
ขึ้นมาเลยว่า จะจบแล้ว แล้วเราจะทำอะไรต่อดี ทำไงดี เอาไงดี ...
ก็เพราะผมลีมไปว่าแต่ละปี ปี 1 สถานะการเรียนการศึกษา ความรู้ ผลการเรียน เพื่อน กิจกรรม ความรัก มันสมดุลยภาพกันขนาดไหนไปเรื่อยๆชิวมันสดมันใสๆ
ปี 2 เข้ามาแล้ว เราจะแก้เกมส์ ปรับความคิด กำหนดทิศทางการเรียนความสนใจ
รับองค์ความรู้เป็นเด็กเรียนขึ้น หรือ สังคมกิจกรรมมากขึ้น ไม่ใช่เด็กเรียนแต่ก็รักษาระดับB B+ ก็แล้วแต่ความเหมาะสมไม่หลงทางยังไงดีนะ
ปี 3 เริ่มโหดเรียนเข้ม กิจกรรมเพื่อนประดัง ความรักคู่กายยากจะสลัดสลาย
ก็ต้องเตรียมบริหารตัวเองเวลาความตั้งใจ....ให้ดีมากทีเดียว เอาไงดีนะ
ปี 4 เกรดหลักอยูที่ปี 3 ขึ้นปี4 ทั้งต้องฝึกทำงาน ทบทวนองค์ความรู้
บางมหาวิทยาลัย ไม่ต้องปริญญาโทหรอก การบูรณาการองค์วิชาทั้ง 4 ปีมาเขียนในข้อสอบ ก็มึนตึบแล้ว เหมือนยก 4 ปี มาเขียนกรอบแนวคิด Paradigm
กระดาษ A 3 เพียงใบเดีบวแล้วบรรยาย3-4 เล่ม
ออกจากห้องสอบก็ตัวเบาเป็นนุ่นเลย ถูกรีดหมดไส้หมดพุง...แล้วไงต่อละ
นี่แหละภาพของหลานกับภาพของผมและภาพของใครๆที่ไม่ต่างกันมากในวัยนั้นๆ
ส่วนใหญ่นะครับ ส่วนกลุ่มที่เตรียมการมาดีมีกรอบมมีแผน มีวินัยการเรียนมีระบบเขาลอยตัวเลยครับ จบก็แตะแย่ๆก็ 3.5 - 3.75 อะไรแนวนั้น บางท่านGenious
ได้รับคำว่าได้"เกลียด" เอ๊ย เกียรติ เกียรตินิยม ซะงั้น โถที่สมัยผมเรียกเพื่อนพวกนี้ว่า "ปีศาจ" เก่งทุกวิชา แบบอาจารย์ขอหักความสกปรกข้อสอบหรือเขียนไปสวย
ซะ 1 คะแนนอ่ะ ให้100คะแนนเต็มมันจะดูเหลิงไปหน่อย
ชีวิตมันไม่ได้สวยงาม เส้นทางอาจมีความคดเคี๊ยวบางหรือตลอดเวลา..
การเข้ามหาวิทยาลัย เราตัดสินใจเลือกเองมากกว่า80-90% ที่เหลือเป็นการสนับสนุนตามความสามารและความสมควรของเม็ดเงินของพ่อแม่
วันนี้การใช้เวลา 4 ปี เราเป็นคนเรียนรู้พัฒนาความสามารถและพัฒนาตนเอง
เพียงคนเดียว วันนี้ถ้าจะถามแบบนี้ ต้องรีบทบทวนอย่างแรงๆเลยครับ
- ผลงาน เกรด จากมวลรวม 4 ปีเราอยู่ระดับใด
- ประสบการณ์ความเก่งกาจเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องใด สายวิชาอาชีพ ใด?
ฟังว่า กำลังจะจบการฝึกสอน ไม่เป็นครูบาอาจารย์ก็ต้องเป็น นัก...อะไรสักอย่าง
ทักษะการพูด การสอน การอธิบาย การถ่ายทอดความรู้ เราขั้นไหน ดี ดีเยี่ยม...
- งานอาชีพที่ใกล้เคียงกับสายการเรียนคืออะไรบ้าง? 1,2,3>>
- บุคลิกภาพความโดดเด่น Talent ที่ไม่เหมือนใคร ทักษะทุกทักษะเอาออกมาแบไต๋ เป็นรูปธรรมจับต้องประเมินความสามารถได้ ....มีอะไร?
- ทำProfile สรุปตัวตนพร้อมเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง
***เน้นนะครับ เจรียมการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องแบบนักเทคโนโลยีโดยใช้
พี่Goooooo ถามเขาทุกอย่างว่า วิธีการ...../ อะไร/ ทำอย่างไร.....ถามทุกอย่าง
ใช้เวลเจาะอ่านค้นหาแนวองค์ความรู้......มั่นใจแล้ว ไปต่อเลยครับ
****แต่นะ แต่นะครับ ถ้าchecklist ทบทวนแล้ว ยังไม่น่าไม่ถึงยังอ่อนแอทั้งองค์ความรู้ วิชาการประสบการณ์ จิตใจก็อ่อนแอด้วย อันนี้ ต้องถามตัวเองว่าจะไปต่อในการทำงานหรือ จะเรียนต่อยอดแล้วเอาบทเรียนปริญญาตรีแรกมาเตรียมตัว
ใหม่อีกครั้ง
ชื่นชมที่กล้าถามคำถามที่ควรเป็นคำตอบมาจากหลานเอง อยากคิดนะว่าไม่ใช่หลานถามแต่ตั้งคำถามแทนคนอื่น
 
"มั่นใจในตัวเอง ทำให้ตัวเองภูมิใจ และทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจครับ"
"ํYou can do anything but You can't do everything "
ครั้นสมองครั้นความสามรถครั้นประสบการณ์ครั้นความเชี่ยวชาญ ออกมา
เลือกทำในสิ่งที่ตนเองมั่นใจและทำดีที่สุด มีความสุขที่สุด
โชคดีนะครับ
ตัดสินใจได้แล้วเคาะมาบอกลุงป้าน้าอาบ้างก็ดีนะครับ
โฆษณา