14 มี.ค. 2023 เวลา 05:54 • ประวัติศาสตร์

พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง"จากอโยธยาถึงรัตนโกสินทร์"

อย่างที่ทราบกันดีว่าบรรดาเครื่องศาสตราวุธอันเป็นเกียรติยศในราชวงศ์สมัยกรุงศรีอยุธยานั้นได้สูญหายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้เสียกรุงให้แก่พม่า ไม่เว้นแม้กระทั้งพระแสงปืนอันล้ำค่าที่ได้มีการจารึกมาแต่กรุงเก่าและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งของไทยและพม่าเอง พระแสงปืนนั้นคือ"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"
โดยมีที่มาดังนี้ ณ แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางพม่าได้ไล่ยิงปืนใหญ่ข้ามแม่น้ำมาหวังเด็จชีพพระนเรศวร สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่ริมแม่น้ำใช้พระแสงปืนยาว ๙ คืบ(แล้วทรงอธิฐานถ้าการ กู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก) ทรงยิงไปถูกสุรกรรมา(แม่ทัพพม่า)ตายอยู่บนคอช้าง
พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างในครั้งนั้นได้นามปรากฎต่อมาว่า"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็น พระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้เมื่อสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์แล้วรัชกาลที่1ทรงพระราชดำริให้จำลองสร้างพระแสงปืนต้นนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นพระเกียรติยศและเฉลิมพระเกียรติถึงวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวร
พระแสงปืนนี้จึงเป็นจัดเข้าเป็นเครื่องประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตั้งแต่รัชกาลที่2จนถึงรัชกาลปัจจุบัน
จากภาพด้านบน ภาพพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่1
จากภาพด้านซ้าย ภาพจากฉากที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนยิงสุรกรรมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำสะโตง(ปืนที่ใช้ในฉากนั้น เป็นปืนที่ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงจัดสร้างขึ้นมาใหม่สำหรับใช้ในภาพยนตร์)
จากภาพด้านขวา ภาพพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง จากพระที่อนันตสมาคมในพระราชพิธีขึ้นพระอู่และสมโภชเดือนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์
โฆษณา