15 มี.ค. 2023 เวลา 07:27 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แรงโน้มถ่วง คือ กลศาสตร์แบบนิวตัน มันสามารถอธิบายกฎการเคลื่อนที่ทุกอย่างที่เกิดบนโลกได้อย่างดีเยี่ยม รวมไปถึงการทำนาย การเคลื่อนที่ของดวงดาวต่างๆ เช่น สามารถคำนวนได้ว่า ดาวหางฮัลเล่จะโคจรผ่านมาให้สังเกตุเห็นได้ทุกๆกี่ปี ได้อย่างแม่นยำ แต่มีเพียงการโคจรของดาวพุทธที่ไม่สามารถอธิบายเนื่องจาก วงโคจรของดาวพุธ มีลักษณะเป็นวงรีอย่างมากและจะขยับเล็กน้อยจากจุดเดิมไปเรื่อยๆ คลัายรูปกลีบดอกไม้. กลศาสตร์แบบนิวตันจึงใช้ได้ดีกับสิ่งที่มีมวลไม่มากถ้าจะใช้ในเสกลของเอกภพ ต้องใช้ทฤษฎีอื่น
ต่อมา ไอสไตน์ คิดทฤษฎีสัมพัทภาพขึ้น และเรียกแรงนี้ว่า “คลื่นความโน้มถ่วง” และ “เวลาคือสิ่งสัมพัทไม่ใช่สัมบูรณ์”
แปลง่ายๆคือ เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับผู้สังเกตุ ซึ่งมันขัดต่อสามัญสำนึกของคนทั่วไป และการพิสูจน์นั้นยากมากในเวลานั้น กฎบอกว่า เมื่อมวลมีขนาดใหญ่จะทำให้เกิดคลื่นความโน้มถ่วงแปรผันตรงกับมวล ดังนั้นเมื่อแสงเดินทางผ่าน คลื่นความโน้มถ่วงที่มวลมหาศาล จะทำให้แสงโค้งงอได้ ในการพิสูจน์ต่องรอให้เกิดสุริยุปราคา จึงจะสามารถสังเกตุแสงได้ และผลคือแสงงอจริง
ทำให้ แรงโน้มถ่วงไม่มีจริง สิ่งที่ยึดหรือ ดึงดูดเรานั้นคือ คลื่นความโน้มถ่วง ที่เกิดจากสเกลระดับเอกภพ
โฆษณา