16 มี.ค. 2023 เวลา 01:42 • ธุรกิจ

ประยุกต์ 5 เทรนด์การทำงาน 2023 กับองค์กรภาครัฐ

เริ่มต้นปีใหม่ 2023 หลายคนคงมีแผนสำหรับพัฒนาตัวเองกันบ้างแล้ว องค์กรขนาดต่าง ๆ ก็มีการจัดวางแผนการเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายไม่ต่างกัน
หลายองค์กรเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน ให้เป็นรูปแบบใหม่ เพื่อไล่ตามให้ทันเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และเทรนด์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ องค์กรภาครัฐเองก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เข้ากับเทรนด์การทำงานปี 2023 นี้ได้เช่นกัน
ว่าแต่เทรนด์การทำงานของปีนี้เป็นอย่างไร เราเตรียมเทรนด์ให้คุณแล้วในบทความนี้
เทรนด์การทำงานปี 2023 ที่องค์กรภาครัฐสามารถปรับตัวได้
1. การทำงานผสมผสาน สร้างประสิทธิภาพ
จะไม่เอ่ยถึงเทรนด์การทำงานรูปแบบนี้เลยคงไม่ได้ โดยการทำงานรูปแบบออนไลน์ ที่คุณสามารถทำงานได้ทุกที่ ที่บ้านก็ได้ ที่ไหนก็สามารถทำงานได้
สามารถประชุมแบบออนไลน์ มอบหมายงานแบบออนไลน์ และสามารถทำงานออกมาได้สำเร็จลุล่วง โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงออฟฟิศ ลดค่าใช้จ่ายของพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายขององค์กรด้วย
แถมเทรนด์การทำงานแบบ ผสมผสานหรือHybrid ที่มีความยืนหยุ่นในการทำงาน หรือ Flexibility ยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่พนักงาน
โดยมีตัวเลขจาก LinkedIn กล่าวว่าการทำงานระยะไกลคิดเป็นสัดส่วน 20% ของตำแหน่งงานว่างในปัจจุบัน กลับได้รับความสนใจจากผู้สมัครงานมากถึง 50%
LinkedIn
นั้นหมายความว่า องค์กรที่ทำงานแบบ Hybrid มีความยืดหยุ่นในการทำงานได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นส่วนดึงดูดพนักงานให้เข้ามาสมัครมากยิ่งขึ้น
เพราะเป็นรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างผ่อนคลาย ลดความเครียด และยังเป็นโอกาสที่ทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นเทรนด์การทำงาน 2023 ที่ได้รับความนิยมคือ การทำงานแบบผสมผสาน ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันก็ได้ เน้นการพูดคุยสื่อสาร และแจกแจงงาน เพื่อให้งานลุล่วงออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ
2. Reskilling และ Upskilling
หนึ่งในเทรนด์การทำงานที่รับความนิยมอย่างมากนั้นก็คือ Reskilling และ Upskilling หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า การพัฒนาทักษะของตัวเองที่มีอยู่แต่เดิม (Reskilling) และ การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ (Upskilling)
ถ้าองค์กรไหนมีสวัสดิการเรื่องนี้ จะเป็นที่ต้องการของพนักงานอย่างมาก ทั้งนี้การพัฒนาทักษะที่องค์กรสามารถมอบให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น ทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะภาษาที่ 3 ทักษะการใช้โปรแกรมในการทำงาน หรือการอบรมคอร์สต่าง ๆ กิจกรรมประจำปีก็เป็นแรงจูงใจในการทำงานในองค์กรได้เช่นกัน
3. เทคโนโลยีช่วยให้การทำงานคล่องตัว
องค์กรภาครัฐเองมีนโยบายปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ทำให้องค์กรภาครัฐต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและง่ายกว่าเดิม
สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการทำงานของพนักงาน เช่น การใช้โปรแกรมระบบจัดการเอกสารออนไลน์ เข้าถึงเอกสารได้ง่าย ลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่มความคล่องตัวในการ Work From Anywhere
4. Generation Z ที่จะเข้าสู่โลกการทำงานเพิ่มขึ้น
ถึงแม้กลุ่ม Generation Z หรือที่เรียกสั้นๆว่า Gen Z จะเข้ามาร่วมงานมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ในปี 2023 นี้ กลุ่ม Gen Z ที่อายุมากที่สุดจะอายุที่ 26 ปี และอ่อนที่สุด 13 ปี แต่ถ้าเวลาผ่านไป 1 ปี จะทำให้ Gen Z มีจำนวนเพิ่มขึ้น
นั่นหมายความว่าองค์กร หรือหน่วยงานทั้งเอกชน และราชการ จะต้องปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มพนักงาน Gen Z ให้มากขึ้น และต้องยอมรับวิธีการทำงานของคนกลุ่ม Gen Z และทางกลุ่ม Gen Z เองก็ต้องยอมรับ กลุ่มคน Minllenials, Gen X และ Baby Boomer ด้วยเช่นกัน
5. ลดความสัมพันธ์พนักงานในออฟฟิศ แต่เพิ่มความสัมพันธ์นอกสถานที่ทำงานแทน
เนื่องจากเทรนด์การทำงาน 2023 ที่เน้นการทำงานแบบ Hybrid มีความ Flexibility มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นอัตราการเข้าทำงานในออฟฟิศของหนักงานจะน้อยลงมาก
ผู้บริหารสามารถลดความสำคัญพนักงานในออฟฟิศได้ แล้วไปลงทุนกับการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ให้แก่พนักงานเช่น จัดกิจกรรมสังสรรค์ในแต่ละเดือน ให้ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม เครื่องดื่มต่าง ๆ หรือ สามารถนัดประชุมที่นอกออฟฟิศได้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือเทรนด์การทำงานที่ได้รับความนิยมในปี 2023 ซึ่งรูปแบบการทำงานนี้ ทางภาครัฐเองก็สามารถเลือกมาปรับมาใช้ได้ เนื่องจากมีการประกาศ พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
ทำให้หลายหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาคอื่น ๆ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยเฉพาะการติดต่อราชการทางด้านเอกสาร จากแต่เดิมที่ต้องติดต่อด้วยเอกสารแบบกระดาษ ต้องเปลี่ยนมาเป็นเอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเจ้าหน้าที่พนักงานหน่วยงานรัฐเองก็ต้องปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยียิ่งขึ้นเช่นกัน
ทำให้หลายหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาคอื่น ๆ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยเฉพาะการติดต่อราชการทางด้านเอกสาร จากแต่เดิมที่ต้องติดต่อด้วยเอกสารแบบกระดาษ ต้องเปลี่ยนมาเป็นเอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเจ้าหน้าที่พนักงานหน่วยงานรัฐเองก็ต้องปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยียิ่งขึ้นเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
marketingoops.com, scb.co.th
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎02 517 5555
📱 063 204 0321
✅ Line Official:
#Ditto #DittoTH #DittoThailand #DittoDMS #DittoECM #DocumentManagementSolution #DMS #eDMS #ระบบจัดเก็บเอกสาร #ECM #Amagno #Laserfiche #OCR #Digitization #Digitalization #DigitalTransformation
โฆษณา