รถไฟเหาะบนเส้นทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
เส้นทางที่ตลาดคาดการณ์ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับเปลี่ยนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว จนเหมือนเป็นรถไฟเหาะที่จะพาให้ทุกคนหัวใจวายกันหมด
โดยการประชุมครั้งต่อไปของเฟดที่จะมีการตัดสินใจดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้มุมมองของตลาดต่อทิศทางนโยบายการเงินเปลี่ยนกลับไปกลับมาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่นานมานี้
โดยอ้างอิงข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนก่อน ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งในการประชุมก่อนหน้านั้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% และสัญญาณอัตราเงินเฟ้อเริ่มทรงตัว
ทำให้ตลาดคาดว่า ในการประชุมครั้งต่อไป
โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต่อไปมีอยู่มากถึง 87.8%
และโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% มีอยู่ 12.2%
แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เริ่มจากการที่มีการออกรายงานสรุปประชุม (minute) นโยบายการเงินออกมาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่มีข้อความแสดงให้เห็นว่า “ทางคณะกรรมการเฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินไปกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้”
ไม่จบแค่นั้น หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ในวันที่ 7-8 มีนาคม ถึงเวลาที่คุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐต้องออกมาแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการการเงินของคองเกรสพอดิบพอดี
ซึ่งคุณพาวเวลก็ยืนยันมุมมองที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงกว่าที่คาด และกล่าวว่าเฟดพร้อมจะขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อจัดการเงินเฟ้อให้ได้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงร้อนแรงเกินไปอยู่อย่างนั้น
ทำให้การคาดการณ์ของตลาดปรับทันที ณ วันที่ 8 มีนาคม ตลาดมองว่าในการประชุมครั้งต่อไป
โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตกไปอยู่ที่ 21.4% (จาก 87.8% ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์)
และโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ขึ้นมาอยู่ที่ 78.6% (จาก 12.2%)
ตอนนั้นหลายคนคิดว่าสถานการณ์เริ่มจะนิ่งขึ้น เฟดมีโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% มากที่สุด แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีก นั่นคือ “การประกาศล้มละลายของ Silicon Valley Bank (SVB)” ซึ่งก็ส่งผลให้มีธนาคารอื่นประกาศล้มละลาย และอีกหลายธนาคารที่ต้องเจอสถานการณ์ยากลำบาก
ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องตัดสินใจออกโปรแกรมรับประกันเงินฝากมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐออกมา
และเหตุการณ์นี้ก็ยังส่งผลต่อเนื่องมายังการคาดการณ์ดอกเบี้ยจากตลาดด้วย โดยอ้างอิงวันที่ 15 มีนาคม (อ้างอิงเวลา 11.59.20 CT) ตลาดคาดว่า
โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 65.7% (จาก 21.4% ในวันที่ 8 มีนาคม)
โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% อยู่ที่ 0% (จาก 78.6%)
และที่สำคัญไปกว่านั้นตลาดมองว่า โอกาสที่เฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลย มากถึง 34.3%
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะเข้าไปซ้ำเติมปัญหาในภาคการเงินได้ ตลาดก็เลยมองว่าเฟดจะมือเบาลง ใช้ดอกเบี้ยแบบไม่แรงจนเกินไป แต่เฟดก็ยังต้องคำนึงถึงปัญหาเงินเฟ้อที่ถ้าไม่จัดการให้เด็ดขาด ก็จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังกับทุกคนได้
และล่าสุดขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ ก็มีข่าวธนาคารอันดับ 2 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Credit Suisse ต้องขอรับความช่วยเหลือจากธนาคารกลางของประเทศด้วย ซึ่งด้วยขนาดและเครือข่ายของ Credit Suisse แล้ว ถ้ามีปัญหาขึ้นจริงจะส่งผลกระเพื่อมต่ออุตสาหกรรมการเงินมากกว่าอย่างแน่นอน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องจะจบตรงไหน
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าปีนี้จะเป็นปีที่ผันผวนและไม่ง่ายกับทุกคน จำเป็นต้องหูตาไวและต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดี เพื่อที่จะพร้อมคว้าโอกาสที่จะกลับมาหลังจากปัญหาเริ่มคลี่คลายลงไปหลังจากนี้…
เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
- ●
- ●
- ●
- ●
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
