Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
arti.s(in the room)
•
ติดตาม
16 มี.ค. 2023 เวลา 11:45 • นิยาย เรื่องสั้น
อาจเป็นเพราะฉันกอดแมว ตอนที่ 1 (นิยายยูริ)
ข้าวหอม มนุษย์ผู้รักความโดดเดี่ยวที่กำลังผันตัวเข้าสู่วงการคนเลี้ยงแมว เพื่อปกป้องชีวิตแมวเด็ก คนไร้ประสบการณ์อย่างเธอจำต้องพึ่งพาแหล่งความรู้ และเคล็ดลับสำหรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้ ตัวช่วยที่ดีลำดับแรกคงหนีไม่พ้นกูเกิ้ล เธอเสิร์จเรื่องที่อยากรู้ลงไป จนได้มาเจอกับกลุ่มทาสแมวในเฟสบุ๊ค จำนวนสมาชิกกว่าแสนคน เธอกดขอเข้ากลุ่มอย่างไม่ลังเล ข้าวหอมมั่นใจว่ากลุ่มนี้จะต้องช่วยให้เธอเลี้ยงเจ้าแมวน้อยเติบโตได้อย่างมีคุณภาพแน่นอน
“โอ๊ยยจิ๋ว! อย่ากัด! นั่นนิ้วพี่” ข้าวหอมเผลอร้องออกมาดังลั่น เมื่อแมวน้อยดูดนมในขวดเพลินจนลามมาขบนิ้วชี้ที่กำลังประครองขวดนมให้ แต่ก็นะ เจ้าจิ๋วก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี ตัวเธอเองนั่นแหละที่ต้องปรับท่าให้น้องแมวใหม่
“ทำไมซกมกอย่างนี้ละเนี้ย นมย้อยเต็มคางหมดแล้ว” เธอบ่นไปอย่างนั้น หาได้จริงจังไม่ ข้าวหอมหยิบทิชชู่บนโต๊ะขึ้นมาซับหยาดนมที่เปรอะตามขนออกไป “แต่กินเก่งแบบนี้ พี่ค่อยสบายใจหน่อย เก่งมากเจ้าจิ๋ว~” เธอลูบหัวแมวเด็กอย่างเบามือ
นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง นี่ก็ผ่านมาตั้ง 4 วันเล้ว ตอนแรกข้าวหอมคิดว่าต้องเลี้ยงแมวตัวนี้ไม่ได้เรื่องแน่เลย เพราะหลังกลับมาจากโรงพยาบาลสัตว์ เจ้าจิ๋ว ก็เอาแต่เปร่งเสียงแหบแห้งร้องหาแม่ เดินรอบห้องทั้งคืน นมไม่ยอมแตะ อาหารเหลวไม่ยอมกิน เล่นเอาข้าวหอมคิดหนัก เธอจึงอุ้มเจ้าจิ๋วไว้ในอ้อมกอด เผื่อว่าความอบอุ่นจากกายมนุษย์จะพอบรรเทาให้แมวน้อยหายคิดถึงแม่ได้บ้าง ในช่วงเวลาที่เจ้าจิ๋วเคลิ้ม เธอลองหยิบขวดนมขึ้นป้อน จึงพบว่าใช้วิธีนี้แล้วได้ผล
“อยู่คนเดียวไปก่อนนะ เลิกงานแล้วพี่จะรีบกลับมา จิ๋วเก่งอยู่แล้วเนอะ”
มิ้ว~ มิ้ว~ เจ้าจิ๋วมองหน้าทำตาแป๋ว คล้ายจะไม่เข้าใจที่มนุษย์กำลังพูด ข้าวหอมอุ้มขึ้นมากอดทาบอกและลูบหัวอีกครั้ง กระซิบข้างหูย้ำว่าจะรีบกลับมา เวลาที่ต้องไปทำงาน ภายในใจของเธอนึกเป็นห่วงเจ้าจิ๋วอยู่เสมอ แมวเด็กแบบนี้ กำลังต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะต้องกินอาหารบ่อยถึงวันละ 6-8 มื้อ แต่โชคดีที่เจ้าจิ๋วเริ่มกินอาหารเหลวและอาหารเม็ดได้บ้างแล้ว จะมีก็แต่เรื่องฉี่กับอึไม่เป็นที่นี่แหละที่ยังกังวลมาก
“ห้ามฉี่บนพรมเข้าใจมั๊ยคะ อันนี้คือแผ่นรองฉี่ของจิ๋ว จิ๋วต้องใช้อันนี้นะ” ข้าวหอมพาเจ้าจิ๋วไปดูหน้าตาของแผ่นรองฉี่ พูดอย่างกับแมวตาแป๋วจะเข้าใจอย่างนั้นแหละ พนันได้เลยว่ากลับมาจะต้องเจอหย่อมฉี่บนพรมอย่างแน่นอน เธอเดินไปเปิดพัดลมทิ้งไว้ระบายอากาศ มองแมวเด็กที่กำลังขดตัวนอนอีกรอบ ก่อนจะดึงประตูปิดล็อคและมุ่งหน้าสู่ที่ทำงาน
**********
i - event company
เสียงคุย เสียงหัวเราะดังโหวกเหวกออกมาจากทางห้องครัว ข้าวหอมพึ่งมาถึงได้ไม่ถึงนาที วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะทำงานตัวเอง แล้วเดินตามหาต้นตอของเสียงจอแจยามเช้า ภายในครัวของออฟฟิศมีพนักงานหลายคนกำลังจับกลุ่มปาร์ตี้น้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋และพูดคุยอย่างออกรส
“อะข้าว น้ำเต้าหู้หวานน้อยไม่ใส่เครื่อง” พี่แอน ตำแหน่ง AE โบกมือเรียกให้ข้าวหอมเข้าไปร่วมเอ็นจอยน้ำเต้าหู้ด้วยกัน
“วันนี้ฉันไม่ได้สั่งนี่พี่”
“ถ้ายังไม่ได้กินไรมา ก็ช่วยรับน้ำเต้าหูฟรีจากคนสวยใจดีไปหน่อยได้มั้ยล่ะ เดี๋ยวสมองตันคิดงานไม่ออกหรอก” ขณะนี้เวลา 8 : 50 นาที เหลือเวลาอีก 10 นาทีในการเริ่มงาน ข้าวหอมจึงตัดสินใจรับน้ำใจนี้มาจัดการ
“ขอบคุณนะพี่แอน ไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงบ้าง”
“นี่ข้าว แกรู้ยังวันนี้มีน้องใหม่มาฝึกงานนะเว้ยย” บอม ตำแหน่งกราฟฟิก เอ่ยขึ้นมาด้วยหน้าตาระรื่น
“แล้วไง? ” ข้าวหอมเลิกคิ้วถามอย่างไม่ใส่ใจ
“โห่ ตื่นเต้นหน่อยดิพี่ บอสบอกว่าน้องคนนี้สวย เรียนดี กิจกรรมเด่น อดีตดาวคณะ ออฟฟิศเราจะไม่แห้งเหี่ยวอีกแล้วไงพี่ข้าว” ฮู๊ด รุ่นน้องดีไซเนอร์ในทีมเสริมขึ้นต่อ ใบหน้าของสองหนุ่มดูแฮปปี้กับการมาทำงานวันนี้เสียเหลือเกิน
“ให้พวกมันได้ระริกระรี้บ้างเถอะข้าว ออฟฟิศเราไม่ได้มีเด็กฝึกงานมานานละ ไอ้พวกนี้คงเฉาเต็มทน”
“ใช่ปะพี่แอน ผมนี่วันๆ คลุกคลีแต่กับช่าง ไม่มีของสวยๆ งามๆ มองให้ใจชื้นเล้ย” ฮู๊ดกัดปลาท่องโก๋แล้วบ่นความในใจออกมา หน้าที่ของดีไซเนอร์ที่นี่คือ ออกแบบโครงสร้างของบูธ เวที พร๊อพประกอบงานต่างๆ ให้ออกมาได้ถูกสเปคตามที่ลูกค้าต้องการ พอก่อนวันงานก็ต้องเข้าไปเช็คแบบและวัสดุที่โรงงานป้องกันความผิดพลาด
ปาร์ตี้น้ำเต้าหู้จบลงเมื่อถึงเวลาเริ่มงาน ทุกคนต่างกลับไปที่โต๊ะนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ พี่แอน AE สุดเจ๋งของออฟฟิศ ยังไม่ทันจะหย่อนก้นลงเก้าอี้ ก็มีสายเรียกเข้ามาขัดไว้ ค่าคุณจุ๋ม แอนเช็คให้แล้วค่า ลูกค้ามักตรงต่อเวลาเสมอ 9 : 00 เริ่มงานปุ๊บ โทรเข้าปั๊บ ส่วนข้าวหอมก็คล้ายกัน ต่างกันตรงที่เธอเป็นฝ่ายโทรไปจิกซัพพลายเออร์ให้เร่งงานปัจจุบันให้ทันอาทิตย์หน้า หลังจากที่ไล่โทรเช็คความคืบหน้าเสร็จ ข้าวหอมก็มานั่งเช็คลิสต์ดวงไฟที่จะนำไปติดบนเวทีคอนเสิร์ตอีกงานหนึ่งของบ่ายวันนี้
“ฮัลโหลค่ะบอส ได้ค่ะ โอเคค่ะ” คนจัดงานอีเว้นท์มันก็ยุ่งแบบนี้แหละ สกิลหนึ่งที่จำเป็นเลยคือ ต้องวิ่งเก่ง นั่งอยู่ออฟฟิศดีๆ เดี๋ยวต้องวิ่งไปงานนู้น งานนี้ เช็คความเรียบร้อยหน้างานจนมั่นใจแล้ววิ่งไปงานอื่นต่อ เคยมีมากสุดวิ่งถลาตั้ง 3 งานในวันเดียว เรียกได้ว่าอาทิตย์นั้นแทบจะไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้ คงต้องโทษบอสที่รับงานมาไม่ดูจำนวนพนักงานในบริษัทเลย
โชคดีที่สายเรียกเข้าเมื่อครู่นี้ไม่ได้ทำให้ข้าวหอมวิ่งไปไหน แต่เป็นเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองแทน “บอสเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่าคะ? ” ชินพัฒน์ ชายหนุ่มรูปร่างดีแต่มีภรรยาแล้ว หมุนเก้าอี้หันมาหา
“คุณรู้ข่าวเรื่องน้องฝึกงานแล้วใช่เปล่า? ”
“ค่ะ ได้ยินคนในทีมพูดกัน”
“ผมคิดว่าช่วงนี้คุณทำงานดร็อปลงไปเยอะเลยนะ ไอเดียมันไม่ค่อยเฟรชแบบเมื่อก่อน” บอสพูดด้วยใบหน้านิ่ง เดิมทีเขาไม่ใช่คนใจดี แต่ก็ไม่ได้ใจร้าย แต่ความนิ่งและสายตากระด้างมักทำให้พนักงานใจไม่สู้ดี “ผมแอสไซน์ให้คุณเป็นพี่เลี้ยงก็แล้วกัน เผื่อน้องฝึกงานคนนี้จะช่วยเหลือคุณได้บ้าง ”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
เสียงประตูบานเลื่อนดังขัดความเงียบ เรียกความสนใจให้คนในห้องหันไปทางเดียวกัน ทันใดนั้นแววตาของข้าวหอมก็เบิกกว้างอย่างแปลกใจ เด็กผู้หญิงรูปร่างดีในชุดนักศึกษา กำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มอันสดใสกับดวงตาที่ยิ้มได้ ยกมือไหว้บอสและข้าวหอมอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน พิชชาพร เป็นเด็กฝึกงานใหม่ของที่นี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เสียงหวานคุ้นหูเอ่ยแนะนำตัวอย่างน่ารัก เธอหันไปมองข้าวหอมที่นั่งนิ่งไม่ยอมหันมองด้านข้าง
“โอ๊ะคุณ! ” พิชชาพรร้องทัก
“รู้จักกันหรอครับ? ” บอสเลิกคิ้วเอ่ยถาม
“เคยเจอกันครั้งหนึ่งค่ะ” พิชชาพรยิ้มตอบบอสไป
“งั้นดีเลยครับ จะได้ทำงานด้วยกันง่าย ผมให้คุณไปรวมอยู่ในทีมของข้าวหอม แล้วคุณชื่อเล่นว่าอะไรนะ? ”
“อ้อ เรียกฉันว่าพายได้เลยค่ะ”
“ยินดีต้อนรับสู่ i event นะครับ ออฟฟิศเล็กหน่อย แต่หวังว่าคุณจะได้ประสบการณ์ตามที่แพลนไว้นะครับ ข้าวหอม พาน้องไปแนะนำกับทีมได้เลย ผมไม่มีอะไรแล้ว” บอสยิ้มให้กับทั้งสองสาว และหันหน้าไปโฟกัสกับจอคอมพิวเตอร์
ใครจะไปคิดว่า ข้าวหอมจะได้คนที่ขับรถเกือบชนตัวเองวันนั้น มาดูแลเป็นน้องฝึกงานเฉยเลย โลกใบนี้มันกลมไปหรือเปล่า ข้าวหอมทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อได้เจอกับเด็กใจดียิ้มเก่งอีกรอบ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเกินคาดไปหน่อย
“อ เอ่อ ทุกคน นี่น้องฝึกงานมาใหม่ ชื่อพายนะ”
ข้าวหอมผายมือแนะนำสมาชิกใหม่ของทีม เสียงปรบมือ เคาะโต๊ะ ร้องเพลงต้อนรับเหมือนงานรับน้องในมหาวิทาลัยเกรียวกราว อย่างกับทุกคนในออฟฟิศเตี้ยมกันไว้ก่อนหน้านี้ เด็กสาวในคราบชุดนักศึกษายืนทัดผมอายม้วน ข้าวหอมเห็นอาการเขินอายน่ารักนั่น ก็หลุดยิ้มบางเบาออกมา ตั้งแต่เจอพิชชาพร ข้าวหอมเผลอยิ้มออกมาอย่างอัตโนมัติ บ่อยครั้งจนผิดวิสัย
กลับสู่สถานการณ์ปกติ
“ไม่สบายหรอคะ? ทำไมดูคุณไม่ค่อยพูด” พายเอนตัวเข้าไปถามคนที่สนใจตัวหนังสือในอีเมล แค่ขยับตัวนิดเดียว กลิ่นหอมก็พร้อมกระจายไปทั่วพื้นที่ เล่นเอาข้าวหอมแอบสูดตักตวงเข้าปอดไปอย่างเนียนๆ
“เปล่าค่ะ แค่แบบตกใจที่จู่ๆ เราก็ได้เจอกันอีก”
“แต่รอบนี้ไม่ได้ขับรถพุ่งใส่นะคะ ไม่เห็นต้องตกใจเลยนี่... อื้อ จิ๋วเป็นไงบ้างคะ โตเป็นสาวหรือยัง? ”
ถ้าพวกคุณสงสัยว่าเจ้าจิ๋วได้ชื่อมาจากไหน จะบอกให้ว่ามาจากเด็กอารมณ์ดีคนนี้นี่แหละ วันนั้น ก่อนหมอคิดเงิน มันต้องระบุชื่อเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ข้าวหอมดันคิดไม่ออก พายเลยอาสาตั้งให้แทน วัดจากขนาดตัว ที่มาจึงไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก
“เวอร์ไปแล้วคุณ น้องพึ่งมาอยู่กับเราไม่กี่วัน” ข้าวหอมตอบกลับด้วยแววตาค่อนขอด แต่ติดยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
“555 แหย่เล่นค่ะ ฮ ฮัดชิ่วว! ”
“แป๊บนะคุณ สงสัยขนน้องติดตามเสื้ออะ” ข้าวหอมหยิบแปรงขนแมวในกระเป๋าออกมา แล้วเดินไปกำจัดขนบนเสื้ออีกมุมหนึ่งของห้อง ป้องกันไม่ให้คนขี้แพ้ได้ระคายเคืองจมูกอีกรอบ เช็คดูจนแน่ใจแล้วถึงกลับไปนั่งที่เดิม
“จิ๋วต้องฝากความคิดถึงมาให้พายแน่ๆ ” พิชชาพรกล่าวอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้รู้สึกรำคาญที่ต้องมานั่งเช็ดน้ำมูกแบบนี้
“คงงั้นมั้งคะ”
“มีงานอะไรให้พายช่วยไหมคะ? ”
“อืมม ตอนนี้ยังไม่มีนะ แต่เดี๋ยวบ่ายจะพาไปดูงาน set up เวทีที่ห้าง นั่งชิลไปก่อนละกัน หรือจะหยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่านเล่นก็ได้” ข้าวหอมชี้ไปที่หนังสือการจัดงานอีเว้นท์เบื้องต้น พายพยักหน้า แล้วหยิบขึ้นมาอ่านอย่างว่าง่าย
2 ชม. ผ่านไป...
“โหย หลับปุ๋ยเลย พายว่าพุงขนาดนี้ไม่น่าเรียกจิ๋วแล้ว” พิชชาพรเดินกลับมาจากเข้าห้องน้ำ บังเอิญเห็นบนจอมือถือในมือข้าวหอมกำลังฉายภาพแมวเด็กสีขาวนอนหลับบนพื้นพรมผ่านแอพฯ กล้องวงจรปิด
“อื้อ กินเก่ง นอนหลับทั้งวันเลยคุณ ฉันค่อยเบาใจหน่อย ต้องมานั่งทำงานทั้งวัน มันอดห่วงไม่ได้” ยิ้มน้อยๆ ติดอยู่บนริมฝีปาก ยามจ้องมองแมวเด็กหลับ
“เจอพี่สาวใจดีรับเลี้ยง แถมยังติดกล้องไว้ส่องแมวอีก มีข้าวกินอิ่ม มีคนคอยเป็นห่วง จิ๋วนี่โชคดีจังเลยน้าา ” ที่พิชชาพรพูดเธอหมายความแบบนั้นจริงๆ มันมีแมวบนถนนไม่กี่ตัวหรอก ที่โชคดีแบบเจ้าจิ๋ว
“เลี้ยงเค้าแล้วก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุดค่ะ”
สายตาของข้าวหอมจดจ่อกับแมวเด็ก จนไม่รู้ว่ามีคนอายุน้อยกว่าด้านข้างกำลังลอบมองด้วยแววตาประทับใจ องค์ประกอบบนใบหน้าเรียกร้องให้พิชชาพรไล่สายตาเชยชม ดวงตากลม ขนตางามงอน จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากชุ่มลิปมัน พิชชาพรตั้งความสงสัยไว้ในใจ เหตุใดข้าวหอมถึงเผยยิ้มแบบครึ่งๆ กลางๆ ให้แก่ผู้คนโดยรอบ มุมปากทั้งสองฉีกยิ้ม แต่ดวงตาเหี่ยวเฉา มันเหมือนกับว่ารอยยิ้มนั้นถูกตั้งค่าขึ้นมาเพื่อยิ้มเป็นมารยาท หากไม่สังเกตุคงไม่มีใครดูออก
พิชชาพรคิดว่า ถ้าข้าวหอมได้ลองยิ้มออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง มันคงจะยิ่งหน้ามองและไม่อาจละสายตาได้ง่ายๆ เอาเป็นว่ามีเวลา 3 เดือนในการฝึกงานที่นี่ เธอจะลองทำความรู้จักกับข้าวหอมให้มากกว่านี้ เผื่อวันไหนเกิดได้รับความไว้วางใจ คนอายุมากกว่าอาจเผยความรู้สึกที่ซ่อนไว้ แม้จะไม่กล้าบอกคนรอบตัว แต่อย่างน้อยขอให้ข้าวหอมได้มองเห็นความใจกว้างของเด็กคนนี้ ที่เต็มใจ ให้เธอแวะพักพิง โดยไม่คิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น…
**********
TBC.
นิยายยูริ_yuri_lgbtq
lgbtq
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย