เที่ยวเกาะสีชัง จ.ชลบุรี
เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดเล็ก และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นสถานที่เสร็จประพาสและที่ประทับของกษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์ 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5, รัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นที่บริหารกรณียกิจสำคัญ
โดยสมัยรัชกาลที่ 5 เกาะสีชังยังเป็นที่พักอาศัยและประชุม และดำเนินกิจการของหมู่อำมาตย์ข้าราชบริพารระดับผู้ใหญ่ชั้นพระบรมวงศานุวงศ์ ดังนั้นยังเป็นที่ประสูติของพระราชโอรสในรัชกาลที่ 6 ด้วย ดังนั้น เกาะนี้จงเป็นเกาะเดียวในประเทศไทย
ที่มีพระราชวัง หรือ เขตพระราชฐานอยู่ที่เกาะแห่งนี้
นั่งเรือไปเกาะสีชังกันแล้ว พักผ่อนเก็บกระเป๋าที่พักกันแล้ว เย็นๆ ก็ออกมาเที่ยวรอบเกาะ ซึ่งเราเลือกท่องเที่ยวรอบเกาะด้วยรถ Sky Lab (รถ 3 ล้อ) ซึ่งเป็น package ครึ่งวัน ไปทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, พระจุฑารุชราชฐาน (พระราชวัง), หาดถ้ำพัง, ช่องเขาขาด แต่ถ้าขอเพิ่ม ต้องจ่ายเพิ่ม โดยจุดที่เพิ่มมาจาก package คือ รอยพระพุทธบาท (อยู่บนยอดเขาคยาศิระ)
จุดแรก คือ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ตั้งอยู่บนเขาทางทิศเหนือของเกาะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพ โดยเฉพาะเรื่องค้าขาย ตามตำนานเล่าว่า การค้าขายย่านเกาะสีชังคึกคักมาตั้งแต่อดีตเพราะใกล้ฝั่งและใกล้ปากแม่น้ำ แถมยังใช้เกาะหลบลมหลบพายุ
จุดเด่นอีกอย่างของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ คือ วิว ด้วยความที่เป็นภูเขาที่อยู่ใกล้ๆชุมชนทำให้เห็นวิวชุมชนใหญ่ของเกาะสีชังแบบไม่ไกลจนเกินไป จากบนนี้จะเห็นจุดสำคัญๆของเกาะสีชังได้เกือบหมดเช่น ท่าเรือ ประภาคารเกาะสีชัง จนถึงสะพานอัษฎางค์
พ่อค้าจีนได้ออกสำรวจและพบหินรูปเจ้าพ่อเขาใหญ่ในกิริยานั่ง อยู่ในถ้ำกลางทะเลและหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จึงเกิดความศรัทธา ภาวนาขอให้กิจการรุ่งเรือง หลังจากที่กิจการของพ่อค้าจีนคนนี้เจริญรุ่งเรือง จึงมาสร้างศาลไว้ ณ ที่นี้
นอกจากเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว ที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆให้สักการะเช่น พระสังกัจจาย เจ้าพ่อเห้งเจีย เป็นต้น
"สะพานอัษฎางค์และพระราชวังจุฑาธุชราชฐาน" รื่องราวพระจุฑธุชราชฐานนี้เป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยที่อยู่บนเกาะ ในอดีตเป็นพระราชวังฤดูร้อนของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชวังแห่งนี้เกิดขึ้นเพราะ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ช่วงมีพระชนมายุ 3 พรรษา ทรงพระประชวร แพทย์หลวงประจำพระองค์เห็นว่าควรให้ เสด็จประทับในที่ที่ได้รับลมทะเล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธเสด็จมาประทับที่เกาะสีชัง แต่การเสด็จคราวนี้มาประทับที่เรือนของหลวง
อย่างพื้นที่ในภาพคือฐานของพระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ซึ่งเป็นพระที่นั่งเรือนไม้สักทอง 3 ชั้นถูกรื้อเนื่องจากเกิดวกฤติการณ์ รศ.112 และนำชิ้นส่วนไปก่อสร้างพระที่นั่งในพระนคร พระราชทานนามใหม่ว่า “พระที่นั่งวิมานเมฆ”
จุดเด่นที่สุดของที่นี่และเป็นสัญลัษณ์หนึ่งของเกาะสีชังคือ สะพานอัษฎางค์ แต่ก่อนรัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่าเกาะสีชังนี้ เวลาน้ำลงหรือน้ำแห้ง เรือจะไม่สามารถจอดที่ชายหาดได้ ชาวเกาะสีชังต้องเดินลุยน้ำขึ้น-ลง ซึ่งก็จะลำบากและบาดเจ็บได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานนี้ที่บริเวณชายทะเลด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง
"ช่องอิศริยาภรณ์ หรือ ช่องเขาขาด" จุดนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะสวยงามมากๆ จุดนี้เหมาะแก่การมาชมพระอาทิตย์ตก เพราะบริเวณนี้อยู่ทิศตะวันตก ความโค้งของภูเขาทำให้เกิดภาพที่สวยงามมาก
ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ “อัษฎางคะวัน” ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่สร้างขึ้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ผู้คนได้มีที่พักผ่อน
จุดสุดท้ายของวันนี้ คือ "รอยพระพุทธบาท" จุดนี้ไม่ได้อยู่ใน Package ต้องเสียเงินเพิ่ม
รอยพระพุทธบาทนี้อยู่บนเขาคยาศิระเช่นเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แต่รอยพระพุทธบาทนี้จะอยู่สูงกว่าซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มาได้ระยะทางประมาณ 300 เมตร แต่เป็นบันไดตลอดทาง หรือ อีกวิธีคือใช้จักรยานยนต์หรือ Skylab ขึ้นอีกทางที่อยู่ด้านหลัง
ตามประวัติระบุว่า พ.ศ. 2345 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพทรงได้รอยพระพุทธบาทมาจากพุทธคยา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาประดิษฐานไว้ที่นี่เพื่อเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาของเกาะสีชัง
หาดถ้ำพัง อันเป็นหาดที่เล่นน้ำได้เพียงแห่งเดียวของเกาะ ตัวชายหาดขนาดไม่กว้างมากนักเดินจากซ้ายไปขวานับได้ไม่ถึง 200 เมตร ช่วงกลางวันจะมีเตียงชายหาดให้บริการ แต่ตอนนี้มืด ทุกอย่างเงียบสงัด ถ้าเป็นตอนกลางวันก็จะคึกคักพอสมควร
** ถ้าชอบการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม แค้มปิ้ง มาเจอเราได้ที่
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
