20 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • ธุรกิจ

ย้อนรอยประวัติ UBS ผู้เข้ามาอุ้มซื้อ Credit Suisse

วันนี้เป็นวันที่หน้าประวัติศาสตร์การเงินของสวิตเซอร์แลนด์ต้องบันทึกไว้ เมื่อทาง UBS ได้รับอนุญาตให้เข้าซื้อธนาคารคู่แข่งคนสำคัญที่ขับเคี่ยวกันมายาวนานอย่าง Credit Suisse…
การเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก “สัปดาห์แห่งความตื่นตระหนกของภาคการเงินโลก” ที่ 2 ธนาคารในสหรัฐฯ อย่าง SVB และ Signature Bank ประกาศล้มละลายออกมา
และมันก็มากระทบกับ Credit Suisse ผู้อยู่ในช่วงที่ยังระส่ำระส่ายมาจากการขาดทุนในการลงทุนของตนเอง
แต่ในบทความนี้ เราพาทุกท่านไปส่องดูอีกด้านหนึ่งของดีลครั้งประวัติศาสตร์นี้ ผ่านประวัติศาสตร์ของ UBS ที่กลายมาเป็นอันดับ 1 ของธนาคารสวิสแต่เพียงผู้เดียวอย่างชัดเจนแล้ว
โดยจุดเริ่มต้นของ UBS เกิดขึ้น ในปี 1862 เมื่อ “The Bank in Winterthur” ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาที่เมือง Winterthur มีทุนตอนต้น 5 ล้านสวิสฟรังก์
ซึ่งธนาคารนี้เอง อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “บรรพบุรุษต้นตระกูลของ UBS” ก็ว่าได้
หลังจากผ่านทางทั้งช่วงเวลาแห่งการเติบโต และอุปสรรคครั้งใหญ่ในปี 1887 ทาง Bank in Winterthur ก็ก้าวไปอีกขั้น
ในปี 1912 พวกเขาได้ควบรวมกิจการกับ Toggenburger Bank และเปลี่ยนชื่อในภาษาอังกฤษเป็น “The Swiss Banking Association”
แต่ก็ได้เปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษใหม่อีกครั้งให้มีความหมายเหมือนกับชื่อในภาษาฝรั่งเศสที่ใช้ชื่อว่า “Union de Banques Suisses”
โดยชื่อภาษาอังกฤษที่ตั้งใหม่ คือ “The Union Bank of Switzerland” ซึ่งจะกลายเป็นที่มาของชื่อ UBS ต่อมา จากการนำตัวย่อของชื่อเต็มมาใช้นั่นเอง
ในปี 1917 พวกเขาได้ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่ Bahnhofstrasse เมืองซูริค บริเวณตรงนี้ถูกตั้งสมญานามว่าเป็น “The Wall Street of Switzerland”
สะท้อนถึงการเป็นย่านการเงินที่สำคัญของประเทศอันเป็นหนึ่งในมหาอำนาจด้านการเงินอย่างสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากนั้น ทางธนาคารก็เข้าสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านทั้งอุปสรรคจากสงครามโลกและวิกฤติเศรษฐกิจโลกต่างๆ
นอกจากนี้พวกเขาก็ยังมีการเข้าไปซื้อกิจการธนาคารอื่นเพื่อขยายธุรกิจออกไป เช่น การเข้าซื้อ Eidgenössische Bank หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และ การเข้าซื้อ Interhandel ในปี 1962
พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นธนาคารสวิสที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
แต่แล้วในปี 1993 พวกเขาก็ถูกแซงโดย “Credit Suisse” ตกจากการเป็นธนาคารสวิสที่ใหญ่ที่สุด
โดยเหตุผลสำคัญที่มีการพูดถึงตอนนั้น คือ แนวทางในการลงทุนของ The Union Bank of Swizerland ที่เน้นการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมเน้นความปลอดภัยมากกว่า Credit Suisse
และในปี 1997 ทางธนาคารก็ต้องมาเจอกับข่าวอื้อฉาวผ่านการทำลายเอกสารที่พวกเขาได้ทำธุรกิจในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา ทำให้ทาง Union Bank of Switzerland ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ซึ่งมันก็เกิดขึ้นในปี 1998 เมื่อพวกเขาได้เข้าควบรวมกับอีกหนึ่งธนาคารยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์อย่าง The Swiss Bank Corporation
และก็เปลี่ยนชื่อกลายเป็น UBS แบบที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นชื่อย่ออีกต่อไป และทำให้พวกเขากลายเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของโลกในตอนนั้นเป็นรองเพียงแค่ the Bank of Tokyo-Mitsubishi
ในปี 2008 ในช่วงวิกฤติการเงินโลก ทาง UBS ก็เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาหลักทรัพย์ที่มีปัญหาที่พวกเขาเข้าไปลงทุน จนต้องทำการระดุมเงินเพิ่มเติมและปลดคนงานนับหมื่นคน
จนถึงขั้นที่ Oswald Grübel ผู้เป็น CEO ในขณะนั้นต้องออกมาประกาศว่า “พวกเราจะสร้าง UBS รูปแบบใหม่ขึ้นมา”
และในปี 2023 ในช่วงคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย ก็มีข่าวใหญ่ของวงการการเงินออกมา เมื่อทาง UBS ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อ Credit Suisse เป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งถือเป็นข่าวใหญ่อย่างยิ่ง เพราะ ทั้งสองบริษัทเป็นคู่แข่งที่ทำการขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญการเข้าซื้อครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นโดยมีธนาคารกลางสวิสเป็นตัวกลางในการเจรจาด้วย
📌 FYI
ทั้ง UBS และ Credit Suisse ต่างถูกจัดอยู่ใน “Bulge Bucket” อันเป็นกลุ่มของวาณิชยกิจระดับโลก และยังมี Bank of America Merrill Lynch, Goldman Sachs, Barclays Capital, Deutsche Bank, JPMorgan Chase, Citigroup และ Morgan Stanley
เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา