21 มี.ค. 2023 เวลา 04:58 • ความคิดเห็น
จริงๆ คนไทยก็มีทั้งดีและไม่ดีครับ แต่ในเมื่อถามเรื่องแย่ งั้นขอตอบเรื่องแย่ในมุมมองของผมแล้วกัน
1.มารยาท คนไทยจำนวนมาก (ผมใช้คำว่าจำนวนมากนะ ไม่ใช่ “ทุกคน”) มักจะไม่ค่อยมีมารยาทครับ มารยาทในที่นี้คือความเกรงใจคนอื่น และตรรกะบ้งๆ ก็คือ สนิทกันไม่ต้องเกรงใจ แต่ผมกลับคิดว่ายิ่งสนิท ยิ่งควรเกรงใจนะ เพราะเราสนิทกัน เราต้องอยากให้เขามีความรู้สึกที่ดีกับเรา สนิทกับเรา ดังนั้นความเกรงใจเป็นสิ่งที่ต้องมี
ตัวผมเองนั้นหากเป็นวันหยุดหรือหลังเลิกงาน ต่อให้มีเรื่องกังวลเรื่องงาน หรือมีปัญหาอะไร จะไม่ติดต่อหาเพื่อนที่ทำงานเด็ดขาด ไม่แม้แต่ไลน์ เพราะคิดว่ามันนอกเวลางาน เขาก็ต้องมีชีวิตส่วนตัว มีการพักผ่อน การไปรบกวนเขานอกเวลาทำงาน เป็นอะไรที่แย่และไร้มารยาทมาก หากจำเป็นต้องติดต่อเขานอกเวลางานจริงๆ เรื่องนั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก และต้องขอโทษเขาอย่างมาก
1
2.คนไทยจำนวนมากมักจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่า “สิทธิส่วนบุคคล” มักจะยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
2
อันนี้ก็จะไปผูกกับข้อแรก คือเรื่องของมารยาท เท่าที่ผมสังเกต คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยเคารพสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่น มักจะยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่น
จริงๆ คนไทยเป็นคนใจดีนะ มีน้ำใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่บางทีน้ำใจ ความใจดีนั้นมันก็กลายเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นไปโดยที่อาจจะไม่รู้ตัว
และที่ผมเบื่อที่สุด คือการอ้างว่า “หวังดี” หรือ “เจตนาดี” ในการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นนี่แหละ ซึ่งผมว่าคนไทยจำนวนมากแยกไม่ออกระหว่าง “หวังดี” กับ “จุ้นจ้าน”
เคยมีคนพูดกับผมว่า
“การที่เราหวังดี เจตนาดีกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากความหวังดีนั้น เจตนาดีนั้น มันทำให้ผู้รับเขารู้สึกอึดอัด รู้สึกลำบากใจ รู้สึกรำคาญ ความหวังดีนั้นคือการจุ้นจ้าน ยุ่งไม่เข้าเรื่องทันที”
“คนเราควร “หวังดี” ต่อผู้อื่น แต่ไม่ควร “วุ่นวาย” เรื่องของคนอื่น”
ตัวผมเองนั้น หากเป็นเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือใครก็ตามที่ผมรัก หากมีเรื่องที่ผมหวังดีต่อเขา อยากให้เขาทำอะไรด้วยเจตนาดีของผม ผมจะเตือนหรือแนะนำแค่ 2 ครั้ง ไม่เกินนี้ หากผมแนะนำหรือเตือนแล้ว 2 ครั้ง ยังมีครั้งที่ 3 หรือครั้งที่ 3 เขายังไม่ทำตามคำแนะนำของผม ผมจะหยุดทันที เพราะถือว่านั่นคือชีวิตของเขา เขามีสิทธิที่จะไม่เชื่อเรา และกำหนดชีวิตตัวเอง
และเราจะไปโกรธ ไปน้อยใจเขาก็ไม่ได้นะ เพราะบางทีไอ้คำแนะนำของเรา การเตือนของเรา มันก็อาจจะไม่ถูกก็ได้ ให้เขาตัดสินชีวิตของเขาเอง หากเรายังไปเซ้าซี้ พูดครั้งที่ 3 อีก นั่นมันคือการวุ่นวาย คือไปละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะเจตนาดีก็ตาม
สรุปคือ “หวังดี” เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ “จุ้นจ้าน” ไม่ควรทำ ซึ่ง “หวังดี” กับ “จุ้นจ้าน” “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” มันต่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น และคนไทยจำนวนมากมักจะแยกแยะไม่ค่อยออก
โฆษณา