มุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา
“มุลาอิ” ขุนเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตปกครองปกครองตนเองของกะเหรี่ยง DKBA ในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 40 กิโลเมตร ยอดมุลาอิเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Dawna Hills ที่มีความสูงที่สุดอยู่ที่ 2,070 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่เรียกได้ว่าเป็นที่นับถือและศรัทธาของชาวเมียนมาอีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักแสวงบุญและนักเดินทางจากทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย
มุลาอิขุนเขาแห่งศรัทธา
การเดินทางมายังขุนเขาแห่งนี้จำเป็นต้องข้ามด่านชายแดนไทยที่ด่านบ้านวาเลย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก การเดินทางในครั้งนี้เราได้เดินมากับกรุ๊ปทัวร์เพื่อความสะดวกในการข้ามด่านด้วยรถกระบะและการติดต่อหาคนนำทางจากชายแดนไทยไปยังจุดจอดที่วัดมุลาอิใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงโดยสภาพระหว่างทางจะเป็นดินแดงลูกรัง ที่ค่อนข้างจะลำบากและฝุ่นที่เยอะมาก
จุดข้ามแดนชายแดนไทย-เมียนมา
รถกระบะที่พานักท่องเที่ยวข้ามแดน
บรรยากาศระหว่างทาง
เมื่อเรามาถึงบริเวณวัดซึ่งจะเป็นจุดที่เราต้องลงเดินเพื่อขึ้นไปยังยอดเขามุลาอิ ระยะทางประมาณ 800 เมตร บรรยากาศระหว่างการเดินขึ้นไปยังยอดมุลาอิจะประกอบไปด้วยวิวเทือกเขาเรียงซ้อนสลับกันทั้งทางซ้ายและทางขวา ด้านบนจะมีลมค่อนข้างแรงอีกทั้งมีหมอกที่พร้อมจะมาปกคลุมทั้งเทือกเขาอยู่เป็นระยะๆ ระหว่างทางเดินขึ้นเราสามารถมองเห็นจุดกางเต้นท์ของเราที่อยู่ไกลๆ จากจุดกางเต้นท์กับยอดมุลาอิอยู่คนละยอดเขากัน ทางเดินขึ้นค่อนข้างดี แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยแหละ
บรรยากาศระหว่างทางเดินขึ้น
องค์พระที่เจอระหว่างเดินขึ้นไปสักการะพระธาตุ
วิวระหว่างเดินขึ้นไปสักการะเจดีย์บนยอดมุลาอิ
ยอดเขามุลาอิด้านบนจะประกอบไปด้วยเจดีย์ 2 องค์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าโดยเจดีย์ทั้งสองอยู่ห่างกันประมาณ 40 เมตร การขึ้นไปสักการะที่นี่มีกฏที่เคร่งครัดโดยผู้หญิงสามารถสักการะได้เพียงเจดีย์องค์แรกที่จะประดิษฐานอยู่ต่ำกว่าเจดีย์ที่อยู่บนยอด การแต่งกายผู้ชายสวมชุดสุภาพกางเกงขายาว และผู้หญิงนุ่งผ้าถุงหรือผ้าซิ่น สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมมาตรงบริเวณทางขึ้นก็มีให้เช่า และที่สำคัญผู้หญิงท่านใดที่อยู่ในช่วงเป็นประจำเดือนก็จะไม่สามารถขึ้นไปยังข้างบนเจดีย์ได้
เจดีย์ด้านล่าง
เจดีย์บนยอดมุลาอิ (2,070 เมตร)
ในส่วนของจุดกางเต้นจะอยู่ห่างจากจุดลงรถบริเวณวัดประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30-60 นาทีเส้นทางถือว่าเดินไม่ยาก มีชันเป็นบางช่วงระหว่างทางเราจะเจอเจดีย์ที่เป็นคนละองค์กับที่อยู่บนยอดเป็นจุดสังเกตุว่าเราเดินมาถูกทาง 555 และเดินต่อมาตามสันเขาอีกไม่ไกลก็จะถึงจุดกางเต้นท์ โดยในจุดที่เป็นสันเขานี้สำหรับคนที่กลัวความสูงก็คงมีหวาดเสียวกันบ้าง เพราะเมื่อมองลงมาถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
เจดีย์ระหว่างทางมาจุดกางเต้นท์
จุดกางเต้นท์
บรรยากาศโดยรอบที่พัก
บริเวณจุดกลางเต้นท์จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งค่อนข้างกว้างเราสามารถหามุมเหมาะๆ ในบริเวณที่ชอบเป็นจุดกางเต้นท์กันได้ตามสะดวกเลยวิวข้างบนเต็มไปด้วยภูเขาและทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งสภาพอากาศข้างบนเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วเดี๋ยวก็มีแดดเดี๋ยวก็มีหมอกมาปกคลุมถือว่าคาดเดาค่อนข้างยากเลย อุณหภูมิตอนกลางคืนอยู่ที่ประมาณ 5-15 องศา ถ้าโชคดีในวันที่ฟ้าเปิดท้องฟ้าในยามค่ำคืนจะเต็มไปด้วยหมู่ดาว
วิวช่วงอาทิตย์ตก
บรรยากาศยามค่ำคืน
การไปเยื่อนมุลาอิมีกฏระเบียบค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นการห้ามรับประทานเนื้อสัตว์เพราะเป็นเขตอภัยทาน ดังนั้นทุกคนที่มาที่นี่จำเป็นต้องรับประทานเจตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ อีกทั้งชายหญิงห้ามนอนหรือสัมผัสตัวกันบนขุนเขาแห่งนี้ ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา ห้ามพูดคำหยาบ สำหรับนักเดินทางที่จะมาจำเป็นต้องตระหนักถึงกฏระเบียบที่มาจากความเชื่อของคนท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการเคารพและให้เกียรติสถานที่ ขุนเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงาม ความเชื่อและศรัทธา ด้วยศรัทธาที่แรงกล้าจะทำให้เราได้มาพบกันที่ขุนเขาแห่งนี้
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
