23 มี.ค. 2023 เวลา 06:43 • ความคิดเห็น
เรื่องของความกล้าหาญ เราชอบดูรอยขององค์พระสิทธัตถะ เกิดมาจุติลงมาจากชั้นดุสิต นิ้วหนึ่งชี้ขึ้นฟ้าสู่ดืนฟ้าอากาศ อีกนิ้วหนึ่งชี้ลงสู่แม้พระธรณี เหมือนประกาศก้องทั่วสามโลกจักรวาลว่า จุติจากชั้นดุสิตมาอาศัยกายมนุษย์ ชำระสะสางสิ่งยึดถือกาย เป็นพระชาติสุดท้าย
เมื่อมีกายก็มีทุกข์ มีอารมณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความโลภโกรธหลง มีทรัพย์สมบัติมากมายก่ายกอง ยศฐานบรรดาศักดิ์ จะตัดขาดไม่เอามาใช้อีกเลย แม้เกิดในเวียงวังมีประสามสามฤดู บำรุงบำเรอ ด้วยข้าทาสบริวาร ที่เค้าว่าเป็นของดีของโลก ที่มนุษย์มุ่งมั่นเสาะแสวงหายึดถือ ก็มิอาจเหนี่ยวรั้งปัญญาธรรมของท่านได้
ท่านจะบอกกล่าวใคร ก็มีแต่ผู้ที่คัดค้าน ท่าเห็นกายแก่กายเจ็บกายตาย เกิดมาแล้วต้องตาย ไปแต่จิตดวงเดียวไปคนเดียว ไม่มีใครไปด้วย แล้วเกิดมาทำไม เกิดแล้วตาย อะไรทำให้เกิดมามีกาย เมื่อมีกาย เกิดมาตาย ไปคนเดียว
..มีอย่างทางเดียว ไปคนเดียว ไปหาความจริงที่ทำให้เกิด หนีญาติสนิทมิตรสหาย หนีพ่อหนีลูกหนีเมียไป
ท่านไปด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว เดินเข้าป่า กลายเป็นคนจน จนไม่มีจะกิน ไปนั่งคนเดียว จับเรือนกายมานั่งนิ่ง บังคับให้นิ่ง ด้วยความขันติของจิต ไม่หวั่นไหวในเวทนาที่เกิดขึ้น กินนอนไม่เป็นห่วง บังคับกายให้นิ่ง เพื่อให้จิตศึกษา..เรื่องของความทุกข์ ทุกข์เพราะอะไร ทำไมจิตจึงยึดทุกข์ ยึดอารมณ์ อารมณ์เป็นอย่างไร มีตัวตนอย่างไร ทำไมจิตจึงยึดอารมณ์ ทำไมจิตจึงยึดความร้อนความหนาวที่เกิดขึ้น ท่านกระทำบังคับกาย ..ให้เกิดทุกข์ ตัดขาดจากอารมณ์ ตัดขาดความทุกข์ออกไปจากจิตของท่าน
ท่านไปอยู่กลางป่านั่งนิ่งๆ เดินนิ่งๆ ยืนนิ่ง นอนก็นิ่งๆ อาศัยแค่ใบไม้แห้งๆปูนอน ฝนตกแดดออก ท่านก็นั่งนิ่งอยู่กลางป่า ..ฝนตกฝนฟ้คะนองผ่าลงมา ก็ไม่หวั่นไหว นั่งๆนิ่งๆนานจึงจะเดินไปหาลูกไม้ในป่าเสวย กินเพื่อประทังสังขาร นานๆถึงจะออกไปหาลูกไม้มาเสวย โดยดูจากสัตว์ที่เค้ากินใบไม้ผลไม้ แล้วไม่เป็นพิษ ไปอยู่ป่าคนเดียว ไม่ได้มีข้าวปลาอาหารที่ใครจะมาวางตอนหน้าให้หยิบเสวย ท่านต้องบำเพ็ญจิต บำเพียร ..ด้วยพระขันติบารมี ผจญทุกข์ที่แสดงออกมาจากกาย จากธาตุทั้งสี่ที่ประกอบเป็นเรือนกาย
..(มีพระที่เรานับถือ ท่านเล่าว่า ได้นิมิตรเห็นเจ้าชายสิทธัตถะ เดินหาผลไม้ในป่า มาประทังสังขาร ท่านเห็นแล้ว น้ำตาจะไหล..นี่เรามาบวชอาศัยครองผ้าเหลืองมาอยู่ในศาสนาของท่าน เราอยู่สุขสบาย แวดล้อมด้วยข้าวปลาอาหารที่ญาติโยมอยากได้บุญนำมาถวาย ..นี่เราก็เป็นหนี้ชาวบ้านเค้าเหมือนกัน เค้านำมาถวายพระพุทธเจ้าด้วยเราครองผ้ากาสาวพัสตร์ เมื่อฉันของเค้ามาประทังสังขาร เราก็ต้องมีการประพฤติปฏิบัติธรรม ให้กายนี้มีบุญบารมี ส่งคืนบุญกุศลให้กับผู้อนุโมทนาข้าวปลาอาหารใส่บาตรหรือนำมาถวายในศาสนาของพระพุทธเจ้า)
จิตที่บังคับกายนิ่งนั่น พิจารณาใคร่ครวญในเรื่องราวต่าง เรื่องอารมณ์โลภโกรธหลง ตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา วิญญาณตาหูจมูลิ้นกายใจที่ลุกขึ้นมาเป็นไฟ ด้วยเหตุอันใด ท่านกระทำไปจนถึงคำว่า ธาตุทั้งสี่ ขัดธาตุทั้งสี่ด้วยจิตของท่าน ด้วยขันติเป็นบารมีที่จิตของท่าน จนกายท่านเป็นแก้ว วิญญาณทั้งหกก็เป็นแก้ว มิใช้แก้วธรรมดา แต่เป็นแก้วเป็นเพชรที่เจียระไนดีแล้ว ส่องประกายเจิดจ้า ด้วยพระฉัพพรรณรังสี ถึงแล้วว่า จิตหลุดพ้น..
โฆษณา