Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
m_hell
•
ติดตาม
24 มี.ค. 2023 เวลา 04:06 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าสยองขวัญเรื่องที่ 7 เพื่อนที่คิดถึง
ในช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ฉันชอบที่สุดเพราะฉันจะสามารถเล่นเกมส์ที่ค้างคาได้อย่างเต็มที่ ในตอนเช้าฉันตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรตามปกติก่อนจะมามานั่งเล่นเกมส์ที่โต๊ะคอมฯ อันที่จริงตามปกติแม่ฉันจะเป็นคนทำงานบ้านแต่วันนี้พ่อกับแม่ไปทำธุระที่ต่างจังหวัดส่วนน้องสาวของฉันก็ไปเที่ยวกับเพื่อนกว่าจะกลับก็คงพรุ่งนี้
ในขณะที่ฉันกำลังเล่นเกมส์อยู่นั้นจู่ๆก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังแทรกเข้ามา ฉันละสายตาจากหน้าจอคอมฯหันไปมองหน้าจอมือถือที่วางพบว่าคนที่โทรมาเป็นเพื่อนสนิทชื่อซันที่เรียนอยู่ต่างมหาวิทยาลัย เรารู้จักกันผ่านเกมส์ตั้งแต่ช่วงที่เรียนอยู่ม.6 ช่วงนั้นเราเล่นเกมส์ด้วยกันบ่อยมากบางทีก็มีนัดกันไปงานเกมส์บ้างก็ตามประสาเด็กติดเกมส์นั่นแหละ
ฉันละมือจากเม้าส์คีย์บอร์ดก่อนจะจัดการถอดหูฟังหันไปหยิบมือถือขึ้นมารับพร้อมกับเอ่ยทักปลายสายเหมือนทุกครั้ง
“ว่าไงมึง”
[เรน มึงว่างป่ะ]
“ว่าง มีไรอ่ะ”
[ไปบ้านเพื่อนเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ]
“เพื่อนไหนวะ” ฉันถามซันออกไปด้วยความสงสัย
[เพื่อนสมัยมอต้นอ่ะ มันชวนไปบ้าน]
พอได้ยินดังนั้นฉันถึงกับขมวดคิ้วทันที ปกติการที่เราจะบ้านเพื่อนเราจะต้องชวนเพื่อนคนอื่นไปด้วยหรอ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้จักเพื่อนเก่าของเขาด้วย
“แล้วมีเพื่อนคนอื่นไปด้วยมั้ย”
ฉันถามคนปลายสาย เผื่อว่าจะมีคนไปด้วยเพราะถ้าฉันไปคนเดียวน่าจะเกร็งแย่
[ไม่อ่ะ สรุปมึงไปนะ]
ฉันคิ้วขมวดเล็กน้อยฟังจากน้ำเสียงของซันมันดูอยากจะให้ฉันไปด้วยจริงๆนั่นแหละ สุดท้ายฉันก็ตอบตกลงไป ฉันไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะอีกอย่างวันนี้ฉันก็ว่างด้วยคิดซะว่าออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ฉันจัดการปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะเปลี่ยนชุดให้เพื่อรอมันมารับ ใช้เวลาไม่นานก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์มาหยุดที่หน้าบ้าน ฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงของรถซัน จัดการล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมที่จะเช็ค
เสร็จสรรพเดินตรงไปที่รถพร้อมกับรับหมวกกันน็อคเอามาใส่ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถ
“เสร็จยัง”
ซันหันมาถามฉันเพื่อเช็คความเรียบร้อยฉันตอบกลับไปก่อนที่มันจะค่อยๆเคลื่อนรถออกไป
จากบ้านใช้กว่ายี่สิบนาทีในการเดินทาง บ้านของเพื่อนซันตั้งอยู่ในชุมชนหนึ่งแถบชานเมืองไม่มียามรักษาความปลอดภัยแถมถนนในซอยก็ดูแคบทำให้รถยนต์สัญจรได้แค่ทางเดียวเท่านั้น
รถมอเตอร์ไซค์ของเรามาหยุดจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ท้ายซอย ฉันลงจากรถพร้อมกับมองเข้าไปในบ้าน เราขออธิบายลักษณะของบ้านก่อน บ้านของเพื่อนซันนั้นเป็นบ้านสองชั้นบริเวณหน้าบ้านมีพวกวัชพืชขึ้นและเศษใบไม้ร่วงเต็มไปหมดราวกับว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่มานาน
ขณะที่ซันกำลังจะกดกริ่งนั้นฉันก็รีบเอื้อมมือไปจับแขนของมันทันทีก่อนจะหันไปถามเพื่อความแน่ใจ
“ไอ้ซัน เพื่อนมึงอยู่ที่นี่แน่นะ”
ซันหันมามองหันพร้อมกับทำเลิกคิ้วราวกับสงสัยในคำถาม
“ใช่ดิ ทำไมวะ”
“แน่ใจนะ สภาพบ้านเพื่อนมึงเหมือนไม่มีคนอยู่มานานเลย”
เพราะทันทีที่ที่ก้าวลงจากรถฉันก็สัมผัสได้ทันทีที่ว่าที่มันมีอะไรที่ไม่ดีอยู่แน่ๆ ไอ้ที่ไม่ดีที่ฉันหมายถึงถ้สพูดตรงๆก็ผีนั่นแหละแต่ก็ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์สักเท่าไหร่ จริงๆฉันเป็นคนที่มีเซ้นส์ที่ค่อนข้างจะแรง ตั้งแต่เด็กฉันเห็นอะไรพวกนี้บ่อยมากบางครั้งก็หนักถึงขั้นเจอทุกวันเลยก็มี
“แน่ใจดิ ก็ตอนก่อนที่กูจะออกมากูยังคุยกับมันอยู่เลย”
ซันว่าพร้อมกับยกมือถือที่มีหน้าต่างแชทที่เขาคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่มีชื่อบอลให้ฉันดูเป็นหลักฐาน
“ใช่หรอวะ”
ในขณะที่ฉันกับซันกำลังเถียงกันนั้นจู่ๆประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมกับใครบางคนที่ค่อยๆยื่นหน้าออกมา มันดูเหมือนจะปกติแต่ก็ไม่ โดยปกติคนเราเวลาโผล่ออกมาดูคนแขกที่เราก็ต้องยื่นหน้าออกมาเต็มๆพร้อมกับลำตัวส่วนหนึ่งถูกมั้ย แต่นี่มันไม่ใช่น่ะสิ เพราะบอลยื่นหน้ามาแค่ครึ่งเดียวพร้อมกับทำตาโตจ้องมองมาทางเรา แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะคอของที่ยื่นออกมามันหักเป็นตัวแอลเลย
“มาแล้วหรอ”
น้ำเสียงยานและสีหน้าของเขามันสยองเอามากๆ นี่มาหลอกตอนกลางวันแสกๆเลยงั้นรึ ฉันและซันต่างหันไปมองก่อนที่ซันจะเอ่ยทักบอลไป
“เออ กูเข้าไป…”
“เดี๋ยวไอ้ซัน!!”
ฉันท้วงพร้อมกับดึงไหล่ของซันทันทีพร้อมกับส่งสายตาพยายามบอกมันว่าให้กลับ
“ไอ้ซันกลับเดี๋ยวนี้”
ฉันพูดกับซันด้วยเสียงเข้มเป็นเชิงบอกให้มันกลับ
“ห๊ะ?”
ซันทำหน้างงไม่เข้าใจที่ฉันจะสื่อพร้อมกับคิ้วขมวดมองฉันด้วยความสงสัย
“เออน่า บอกให้กลับก็กลับ”
“อะไรของมึงเนี่ย”
ซันหันมาพูดพร้อมกับทำท่าจะเปิดประตูรั้วเข้าไป ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบรั้งมันเอาไว้จนซันหันมาถอนหายใจใส่พร้อมกับพูดกับฉันด้วยสีหน้าที่เริ่มจะหงุดหงิด
“มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ยไอ้เรน ถ้ามึงอยากกลับก็กลับไปก่อนก็ได้นะ”
มันพูดจบก็เปิดประตูรั้วเดินเข้าบ้านของบอลไปในทันที ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตามเข้าไป ฉันสารภาพเลยว่าฉันไม่สามารถพูดได้ว่าเพื่อนของเขาดูผิดปกติแม้เซ้นส์ของฉันมันบอกชัดเจนว่าบอลไม่ใช่คนแน่ๆแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถพูดออกไปตรงๆได้ อาจจะเพราะที่นี่มันเหมือนจะมีพลังงานบางอย่างถ้าพูดไปก้กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็นเพื่อนของซันด้วยฉันไม่อยากทำให้มันเครียดจนเกินไป
ทันทีที่เข้ามาในตัวบ้านกลิ่นอะไรบางอย่างก็ลอยมาตีจมูกของฉันทันที ฉันคิ้วขมวดเบ้หน้าสุด กลิ่นนั้นมันไม่ใช่กลิ่นของขยะหรือปฏิกูลแต่อย่างใดแต่กลิ่นมันเหมือนกับศพของสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่างที่ตายมานานมากแล้ว
ฉันพยายามอดทนกับกลิ่นนั้นพลางใช้สายตากวาดมองรอบๆสิ่งของที่อยู่ภายในบ้านกระจัดกระจายเละหยักไย่เต็มไปหมดเหมือนไม่มีคนอยู่มานานหลายวัน
ซันนั่งลงที่โซฟาหน้าทีวีพร้อมกับบอลที่นั่งฝั่งตรงข้ามสภาพของบอลตอนนี้ผิวของเขาดูซีดตาลอย ฉันเหลือบมองซันที่นั่งอยู่ข้างๆดูเหมือนซันจะไม่เห็นเหมือนที่ฉันเห็นนะ ตอนนี้ฉันทำได้แต่ต้องพยายามหาจังหวะบอกซันและพามันออกไปจากที่นี่
ขณะที่ซันกำลังพูดคุยกับบอลอยู่นั้นฉันสังเกตได้ว่าหน้าของบอลเริ่มเปลี่ยนไปจากตอนแรกสีหน้านิ่งตอนนี้เขากลับฉีกยิ้มจนปากเกือบจะถึงหูอยู่แล้ว นี่ซันมันไม่รู้เรื่องจริงๆหรอเนี่ย
เวลาผ่านไปกว่าสิบนาทีขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันจู่ๆบอลก็ลุกออกไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สภาพตอนเดินของเขาหลังค่อมเดินเอื่อยราวกับคนไม่มีแรง เมื่อเห็นว่าบอลพ้นสายตาไปแล้วฉันก็จัดการถอดสร้อยพระที่ห้อยคอออกส่งให้คนข้างๆทันที ซันหันมามองพร้อมกับทำสีหน้าขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น
“อะไรวะ”
“ใส่เอาไว้”
ฉันพูดพร้อมกับยัดใส่มือมันเอาไว้ ซันรับสร้อยเอามาไว้ในมือก่อนจะสวมใส่ไปอย่างงงๆ
ในขณะเดียวกันจู่ๆพวกเราก้ได้ยินเสียงร้องมาจากทางด้านบนชั้นสอง ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นซันก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที ฉันที่เห็นดังนั้นเลยวิ่งตามไปด้วย
ทันที่เรามาถึงชั้นสองที่หน้าห้องหนึ่งพวกเราก็ถึงกับชะงักเพราะกลิ่นเน่ามันเล็ดลอดออกมาจนข้างนอกเลย และที่สำคัญมันเป็นกลิ่นเดียวกันกับกลิ่นตอนเข้ามาในบ้านเลย ฉันว่ากลิ่นนี่มาจากห้องนี้แน่นอน
เมื่อซันเปิดปประตูจู่ๆสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ฉันเอื้อมมือไปเขย่าแขนเขาแต่ทันใดนั้นเองสายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในห้อง สภาพศพศรีษะถูกฉีกออกจากลำตัว บริเวณด้านบนหน้าอกของศพเละจนน่าขยักแขยงราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างแทะกินอย่างไงอย่างงั้นเลย และที่ช็อคกว่านั่นก็คือภาพของบอลที่กำลังกินศพนั่นอย่างเอร็ดอร่อย
“อะ-ไอ้บอล นี่มึง…”
ซันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับบอลที่ค่อยๆหันมาอย่างช้า ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือดและมือที่กำลังถือเศษเนื้อที่ควักออกมาจากร่างศพนั่น ภาพนั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมาในทันทีเลย
ผีที่อยู่ในร่างบอลส่งเสียงคำรามก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็วทำให้พวกเรากระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง
“โอ๊ย”
ฉันยกมือขึ้นจับไหล่ที่เจ็บแปลบขึ้นมาพร้อมกับกับสอดสายตาตรงหน้าพบว่าซันกำลังถูกผี่นั่นลากตัวไป
“ปล่อย!!”
ซันดิ้นสุดขีดแต่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สามารถสลัดมันได้เลยแม้แต่น้อย ฉันรีบพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นและรีบนำสร้อยตระกรุดอีกเส้นเอาไปใส่ที่คอของบอลทันที ทำให้บอลกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับสะบัดตัวฉันจนทำให้ร่างของฉันกระแทกลงกับพื้นอีกครั้งพร้อมกับตะโกนบอกให้ซันรีบออกจากบ้านไปในทันที
“ไอ้ซันออกไปข้างนอกแล้วโทรบอกให้พี่กูพายายมาที่นี่”
ฉันพูดพร้อมกับกดตัวของบอลเอาไว้กับพื้น ซันค่อยลุกๆขึ้นพร้อมกับมองฉันด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจก่อนจะถามกลับมา
“จะบ้าหรอ!จะให้กูทิ้งมึงเนี่ยนะ กูไม่เอาด้วยหรอก”
“ไม่ได้! มึงต้องออกไปเดี๋ยวนี้”
“แต่…”
“ไปสิวะ!!!”
ซันมองฉันอย่างชั่งใจก่อนที่จะวิ่งออกไปในทันที ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะที่บอลเริ่มหลุดออกจากการจับกุมก่อนที่เขาจะผลักฉันกระแทกเข้ากับระเบียงทำให้สร้อยตะกรุดกระเด็นออกไปไกลก่อนที่เขาจะพุ่งตัวเข้ามาบีบคอฉันในทันที
“อั้ก!”
ฉันพยายามทั้งทุบทั้งผลักแต่ไม่ว่าจะออกแรงมากเท่าไหร่มันก็ไม่มีทางที่จะออกไปได้เลย แรงของฉันเริ่มหมดลงลมหายใจของฉันเริ่มเบาหวิว ไม่นานเสียงเปิดประตูก็เข้ามาพร้อมกับซันที่มาพร้อมกับยาย ลุงและพี่ชายของฉัน พวกเขาพากันขึ้นมายังตรงระเบียงที่ฉันอยู่ ยายของฉันหยิบมีดหมอขึ้นมาพร้อมกับนาบไปที่ศีรษะทำให้บอลกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เขาจะค่อยๆอ่อนแรงลงและในที่สุดเขาก็สงบลง เมื่อเห็นว่าบอลสงบลงแล้วแกก็นำสายศิลป์พันที่ศรีษะเพื่อไม่ให้ผีร้ายเข้าสิงเขาได้อีก
ขณะเดียวกันซันกับพี่ชายก็เข้ามาช่วยพยุงฉันขึ้นก่อนที่พี่ชายจะจัดการโทรเรียกตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาจัดการกับศพของบอลและหญิงปริศนาในห้อง
ไม่นานรถกู้ภัยและตำรวจก็เข้ามาพร้อมกับหลวงพ่อที่ทางพี่ชายได้ขอให้ทางตำรวจนิมนต์มาด้วย หลวงพ่อเริ่มทำพิธีไล่ผีร้ายโดยมียายทำพิธีร่วมด้วยส่วนพวกฉันก็ออกมารอที่ข้างนอก
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงศพทั้งสองศพก็ถูกนำออกมาจากบ้าน ผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันออกมามุงดู หลังจากนั้นไม่นานญาติของบอลก็เดินทางมาถึงทันทีที่พวกเขาเห็นศพทั้งสองนั้นพวกเขาต่างก็ปล่อยโฮออกมาทันที หนึ่งในญาติที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของบอลเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับขอโทษที่ทำให้ต้องมาเจอกับเรื่องลำบากแบบนี้และเล่าบางอย่างให้พวกเราฟัง
ต้นเหตุจริงๆที่พวกเขาสันนิษฐานก็น่าจะเกิดจากของเขมรที่แม่บอลเป็นคนเอาเข้ามาเพราะอยากที่จะให้มันทำเงินให้ แต่สุดท้ายแม่ของบอลก็ไม่ได้ดูแลมันจึงส่งผลให้ทั้งแม่และบอลต้องมาโดนวิญญาณร้ายเอาชีวิตไปนั่นเอง
หลังจากที่พวกเราได้ฟังพวกเราสงสารบอลมากเพราะทั้งที่ตัวเองกำลังมีชีวิตที่ดีในรั้วมหาวิทยาลัยได้ทำตามความฝันที่กำลังจะเป็นหมอในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้วแท้ๆแต่ต้องมาจบชีวิตเพราะความโลภที่อยากได้เงินจากไสยศาสตร์ของคนเป็นแม่ ฉันว่าในใจของเขาคงผิดหวังและเสียใจไม่น้อย
จบเหตุการณ์นั้นซันและฉันก็ได้ไปงานศพของบอลและแม่ของบอลด้วย ช่วงนั้นซันจิตตกมากจนน่าเป็นห่วงเลยล่ะ ทั้งฉันและคนอื่นๆพยายามคอยอยู่ดูแลเขาเพื่อไม่ให้อาการหนักพอผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงเขาก็เริ่มกลับมาดีขึ้นจนหายเป็นปกติ
นิยายตื่นเต้นระทึกขวัญ
นิยายลึกลับสยองขวัญ
เรื่องเล่า
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Horror Story
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย