24 มี.ค. 2023 เวลา 12:57 • กีฬา

ทำทีมลุ้น 3 แชมป์โดนไล่ออกเฉย ชะตาชีวิตเล่นตลก ยูเลียน นาเกลส์มันน์

ไม่มีใครคาดคิด ว่าเฮดโค้ชที่พาทีมชนะ 100% ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตบทั้งอินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และ เปแอสเช แบบเหย้า-เยือน แถมยังลุ้นคว้า 3 แชมป์ จะโดนไล่ออกอย่างเลือดเย็นขนาดนี้
1
แม้จะยังไม่คอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กระแสจากทุกสำนักข่าวในโลก รายงานตรงกันว่า ยูเลียน นาเกลส์มันน์ จะโดนปลดจากตำแหน่งเฮดโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค โดยคนที่เข้ามาแทนคือ โทมัส ทูเคิล
ก่อนอื่นเลย เราปฏิเสธไม่ได้ว่า นาเกลส์มันน์ เป็นหนึ่งในโค้ชอัจฉริยะของวงการ คิดดูว่า จะมีสักกี่คน ที่ก้าวไปคุมทีมในระดับบุนเดสลีกาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี
1
จากนั้นพอฮันซี่ ฟลิค แยกทางจากบาเยิร์น เพื่อไปคุมทีมชาติเยอรมัน ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์ที่ทีมเสือใต้ จะจ้างนาเกลส์มันน์มาเสียบงานต่อทันที ด้วยสัญญาระยะยาวถึง 5 ปีเต็ม พวกเขายอมจ่ายค่าฉีกสัญญาให้ไลป์ซิกด้วยราคาสูงถึง 25 ล้านยูโร
ในปีแรกของนาเกลส์มันน์ ผลงานยังไม่น่าพอใจนัก จริงอยู่ว่าในซีซั่น 2021-22 เขาได้แชมป์บุนเดสลีกา แต่ถ้าคุณมีนักเตะระดับโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้อยู่ในทีม การไม่ได้แชมป์สิแปลก คือช่องว่างระหว่างบาเยิร์นกับคู่แข่งร่วมลีก มันต่างกันเยอะเกินไป คือแชมป์บุนเดสลีกาน่ะมันการันตีอยู่แล้ว
แต่ถ้าไปดูรายละเอียดลึกลงไปจริงๆ การได้แชมป์ลีกของนาเกลส์มันน์ เขาทำได้ด้วยสถิติแต้มน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี นั่นคือ 77 คะแนน ก่อนหน้านี้ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, คาร์โล อันเชล็อตติ, นิโก้ โควัช และ ฮันซี่ ฟลิค ไม่เคยมีใครได้แต้ม ใน 34 นัด ต่ำขนาดนี้มาก่อน
คือนาเกลส์มันน์ทำทีมได้แชมป์ แต่ไม่ได้แชมป์แบบ Outclass ว่างั้นเถอะ
1
ไม่เพียงแค่นั้น บาเยิร์นยังร่วงตกรอบ 2 ในเดเอฟเบ โพคาล ด้วยการแพ้กลัดบัค 5-0 ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือบียาร์เรอัล จบซีซั่นได้แชมป์บุนเดสลีกาแค่โทรฟี่เดียวเท่านั้น
2
ถ้าเป็นทีมอื่นๆ การได้แชมป์บุนเดสลีกาถ้วยเดียว ก็คงดีใจแทบตายแล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับทีมอย่างบาเยิร์นที่มีมาตรฐานสูงลิ่ว
ต้นเดือนกันยายน 2022 ช่วงเปิดซีซั่นใหม่ๆ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬาของบาเยิร์นให้สัมภาษณ์ว่า "นาเกลส์มันน์กำลังเรียนรู้" เขาต้องใช้เวลาปรับจูนในการคุมหนึ่งในทีมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างบาเยิร์นสักระยะ
1
แต่คำถามก็คือ ทีมอย่างบาเยิร์นจะให้เวลาเขาในการเรียนรู้ไปอีกนานแค่ไหน? และจำเป็นหรือไม่ที่ต้องให้เวลานาเกลส์มันน์ สู้ไปจ้างคนที่พร้อมกว่า เก่งกว่า ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ทีมอย่างบาเยิร์นใครๆ ก็อยากมาคุมทั้งนั้น
3
นาเกลส์มันน์ มีปัญหาสั่งสมกับบาเยิร์น มิวนิคมาเรื่อยๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็มีมาตลอด
1
แดร์ สปีเกล สื่อเยอรมัน อธิบายว่า ปัญหาหลักของนาเกลส์มันน์ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของแท็กติก แต่อยู่ที่เรื่อง "การแสดงออกที่เป็นผู้ใหญ่น้อยเกินไป" และ "การได้รับการเคารพนับถือในห้องแต่งตัว"
2
ข้อแรกเรื่องการแสดงออก เช่น ในเกมที่บาเยิร์น แพ้ มึนเช่นกลัดบัค 3-2 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 หลังเกมนาเกลส์มันน์ ระเบิดอารมณ์บุกไปหาผู้ตัดสิน โทเบียส เวลซ์ แล้วด่าทั้งทีมงานผู้ตัดสินว่า "ไอ้พวกกระจอก"
3
จริงอยู่นาเกลส์มันน์ มาขอโทษภายหลังแล้ว โดยบอกว่าทำไปเพราะอารมณ์ แต่นี่ไม่ใช่คาแรคเตอร์ของเฮดโค้ชบาเยิร์น มิวนิค ที่ผู้บริหารของทีมคาดหวังเอาไว้ คุณต้องสงบกว่านี้ เยือกเย็นกว่านี้สิ
1
ไม่ใช่แค่มีเคสนี้ จริงๆ มีอีกหลายเคส เช่น เกมเจอกลัดบัค ในนัดก่อนหน้านั้น เดือนสิงหาคม 2022 หลังเกมจบเสมอกัน 1-1 นาเกลส์มันน์ก็ไปด่าผู้ตัดสินแดเนียน ชลาเกอร์ รวมถึงผู้ตัดสินที่ 4 อีกด้วย
หรือย้อนกลับไปไกลกว่านั้นอีกหน่อย ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล นาเกลส์มันน์สัมภาษณ์ พาดพิงนโยบายการเงินของบาร์เซโลน่า โดยกล่าวว่า "บาร์เซโลน่าเป็นสโมสรเดียวในโลกที่ไม่มีเงิน แต่กลับซื้อนักเตะได้ทุกตัวที่ต้องการ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาทำได้อย่างไร มันแปลกพิลึก ดูบ้าดี"
1
ผู้บริหารบาเยิร์นไม่ชอบเลย ที่นาเกลส์มันน์ออกมาพูดแบบนี้ เพราะบาเยิร์นกับบาร์เซโลน่าก็จะต้องทำมาค้าขายกันในอนาคต คนเป็นเฮดโค้ชจะมาพูดอะไรให้ผิดใจกันทำไม นี่เป็นนิสัยที่ไม่เป็นผู้ใหญ่นัก ลองนึกภาพ จุ๊ปป์ ไฮย์เกสสิ คงจะไม่กล่าวแซะทีมอื่นๆ ในลักษณะนี้แน่
1
นั่นคือข้อแรก ส่วนเหตุผลข้อสองนั้น นาเกลส์มันน์ ไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มนักเตะซีเนียร์ในทีม เขามีความเด็ดเดี่ยว ซึ่งก็เป็นเรื่องดี แต่กับทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิคนั้นถูกพิสูจน์แล้วว่า ถ้าหากโค้ชขัดใจกับนักเตะเมื่อไหร่ ผู้บริหารจะเลือกนักเตะเสมอ
ปลายฤดูกาลที่แล้ว นาเกลส์มันน์ เคยขอให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ขยับไปเล่นริมเส้นมากขึ้น แทนที่จะยืนปักหลักในเขตโทษอย่างเดียวเพื่อเกมที่หลากหลาย แต่เลวานดอฟสกี้ ไม่ยอมทำ แล้วบอกนาเกลส์มันน์ว่า เขาคือคนที่ยิงได้ 40 ลูกในฤดูกาลเดียว เขารู้ว่าตัวเองควรยืนตรงไหน และรู้ดีกว่าโค้ช ความขัดแย้งตรงจุดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เลวานดอฟสกี้ย้ายไปบาร์เซโลน่าในเวลาต่อมาด้วย
2
นาเกลส์มันน์ เคยมีปัญหากับโทมัส มุลเลอร์ ในเกมที่ปะทะกลัดบัคในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 นัดนั้น ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ โดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 8 ปรากฏว่า นาเกลส์มันน์ไปถอดเอามุลเลอร์ออก แล้วส่งชูเอา กานเซโล่ลงไปแทน ซึ่งมุลเลอร์ก็ผิดหวังมาก เพราะเขาคือผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุด รู้ว่าต้องทำอย่างไร ทีมจะเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เหลือ 10 คน
1
แล้วสุดท้ายเกมนั้นบาเยิร์นแพ้ 3-2 จึงมีข่าวว่านักเตะบางราย ไม่เชื่อถือแท็กติกของนาเกลส์มันน์อีก ว่าวางแผนไม่ดีพอ ที่จะทำให้บาเยิร์นเหนือกว่าทีมอื่นๆ ได้
1
ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์กับนักเตะที่ไม่ค่อยจะดีเท่านั้น แต่ นาเกลส์มันน์ยังรวมใจกลุ่มสตาฟฟ์ให้เป็นหนึ่งไม่ได้ ตัวอย่างเช่นกรณีของโทนี่ ทาปาโลวิช โค้ชผู้รักษาประตูที่ทำงานในสโมสรมาถึง 12 ปี แอบลักลอบเอาแชท ที่กลุ่มสตาฟฟ์โค้ชคุยกัน เอาไปบอกมานูเอล นอยเออร์ ก่อนที่นอยเออร์จะเอาไปบอกกลุ่มนักเตะที่เหลือ
ด้วยเหตุนี้ทำให้บาเยิร์นไล่ทาปาโลวิชออกจากตำแหน่ง คือมันก็ไม่ใช่ความผิดของนาเกลส์มันน์ แต่ลองคิดดูว่า ผู้จัดการทีมอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เคยมีหนอนบ่อนไส้ในกลุ่มสตาฟฟ์ด้วยกัน แล้วทำไมนาเกลส์มันน์ ถึงไม่สามารถป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ เขาได้รับความเชื่อใจจากสตาฟฟ์ด้วยกันแค่ไหน?
ไม่ใช่แค่เคสของทาปาโลวิช เหตุการณ์หลังจากนั้น มีเรื่องน่าตกใจที่หนังสือพิมพ์บิลด์ ของเยอรมัน วิเคราะห์ 11 ตัวจริง และแผนการเล่นทุกอย่างของทีมได้ตรงเป๊ะ 100% คือถ้าไม่มีคนในคาบข่าวไปบอก คงไม่มีวันรู้ได้ ทำให้เกิดคำถามว่า นาเกลส์มันน์จะไม่มีวันกำจัดหนอนบ่อนไส้ให้หมดไปได้จริงๆ หรือ
นี่เป็น 2 ปมหลักๆ ที่ผู้บริหารของบาเยิร์น มิวนิค รู้สึกขัดใจนาเกลส์มันน์อยู่ และเริ่มพิจารณาว่าจะดีหรือไม่ ถ้าคิดจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่เป็นผู้ใหญ่กว่า มีประสบการณ์มากกว่า และคอนโทรลห้องแต่งตัวได้ดีกว่า
1
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 3 เหตุการณ์ที่เหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่ก็เชื่อมโยงกัน
เรื่องแรก บาเยิร์น มิวนิค แพ้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 ร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 ในตารางคะแนน ตามหลังดอร์ทมุนด์ 1 แต้ม จากที่ว่าจะได้แชมป์แบเบอร์แบบนอนมา อาจจะไม่ง่ายซะแล้ว
เรื่องที่สอง อันโตนิโอ คอนเต้ ออกมาด่ากราดใส่นักเตะสเปอร์สทั้งทีม ว่าเล่นแบบเห็นแก่ตัว ในนัดเสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 ทำให้เชื่อว่าคอนเต้จะโดนเด้งในระยะเวลาอันใกล้นี้
เรื่องที่สาม คือคาร์โล อันเชล็อตติ เฮดโค้ชทีมเรอัล มาดริด ตกเป็นข่าวว่า เตรียมไปรับงานคุมทีมชาติบราซิล โดยโรดริโก้ ผู้เล่นบราซิลของเรอัล มาดริด กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่มันคงเป็นเกียรติมาก ถ้าคาร์โลเลือกมาคุมทีมชาติบราซิล"
1
ความเชื่อมโยงของ 3 เรื่องนี้ คือ สเปอร์ส กับ เรอัล มาดริด ที่อาจจะต้องเปลี่ยนโค้ช พวกเขาจึงมองหาว่าเหลือใครบ้าง ที่เป็นสุดยอดโค้ชในตลาดผู้จัดการทีม โอเค อาจจะมีซีเนอดีน ซีดาน ที่ยังว่างงานอยู่ แต่ซีดานก็คงไม่มาคุมทั้งสองทีมนี้ ดังนั้นคนที่มีคุณสมบัติมากพอ และพร้อมคุมทีมได้ทันที คือโทมัส ทูเคิล
2
ทูเคิลเป็นผู้จัดการทีมที่มีฝีมือของจริง การพาทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน ถ้าคุณไม่แน่จริง ทำไม่ได้แน่ นอกจากนั้นยังเคยคอนโทรลนักเตะระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งเนย์มาร์, เอ็มบัปเป้, ก็องเต้ และ ติอาโก้ ซิลวา ดังนั้นมีทักษะบริหารทีมใหญ่ได้แน่นอน
1
ทูเคิลจึงกลายเป็นชอยส์ที่บาเยิร์นสนใจเช่นกัน ถ้าหากจะเอานาเกลส์มันน์ออก ใช้งานทูเคิลนี่แหละ เหมาะสุด เป็นโค้ชประสบการณ์สูง นักเตะยอมรับ มีวัยวุฒิมากพอ ในวัย 49 ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะวางตัวไม่เป็นเหมือนนาเกลส์มันน์แน่ๆ
แต่ประเด็นคือ ถ้าบาเยิร์น มิวนิคจะเอา ก็ต้องเอาตอนนี้ เอาทันที ตอนที่สปอร์ส กับ เรอัล มาดริด ยังไหวตัวไม่ทัน ซึ่งมันก็วนกลับมาคำถามแรกใหม่ นั่นคือ นาเกลส์มันน์ตอนนี้แย่ขนาดที่จะต้องโดนไล่ออกเลยหรือ?
1 แต้มที่ตามหลังดอร์ทมุนด์ ไม่ยากเกินกว่าจะไล่ทัน , เดเอฟเบ โพคาล ก็เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คว้าชัยชนะ 8 นัดรวดในซีซั่นนี้ ทั้งๆ ที่ 4 คู่แข่งของบาเยิร์นนั้น มีอินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, วิคตอเรีย พิลเซ่น และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
1
นาเกลส์มันน์ยังสามารถทำให้ทีมคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ ในฤดูกาลนี้ ด้วยความสัตย์จริง อะไรๆ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
แต่แล้วในที่สุดบาเยิร์น ก็ตัดสินใจได้ว่า นาเกลส์มันน์ ไม่ใช่โค้ชที่ตอบโจทย์ที่สุด คนที่ใช่ที่สุดคือทูเคิลต่างหาก
1
ดังนั้นต่อให้ในซีซั่นปัจจุบัน นาเกลส์มันน์จะมีผลงานดีแค่ไหน แต่เมื่อโค้ชที่ใช่ Available ว่างงานอยู่ ก็พร้อมจะหันหน้าไปเลือกโดยทันที
ในเคสคล้ายๆ กัน ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2012-13 บาเยิร์น มิวนิค ของจุ๊ปป์ ไฮย์เกส มีลุ้น 3 แชมป์ แต่จู่ๆ สโมสรก็ประกาศว่า ในซีซั่นหน้า ไฮย์เกสจะไม่ได้ไปต่อแล้ว เพราะเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะเข้ามาแทนที่ แต่ในเคสของไฮย์เกส เขายังได้คุมบาเยิร์นจนครบฤดูกาล (และได้ 3 แชมป์จริงๆ) แต่ในเคสของนาเกลส์มันน์ เขาโดนเด้งเลยทันที ตอนนี้เลย
จริงๆ ถามว่าสัญญาณอันตรายมีไหมสำหรับนาเกลส์มันน์ คำตอบคือ "ไม่มีเลย"
หลังจากแพ้เลเวอร์คูเซ่น ประธานสโมสรเฮอร์เบิร์ต ไฮเนอร์ กล่าวว่า "เราเซ็นสัญญาเขา 5 ปี เพราะเราต้องการสร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาพร้อมๆ กับเขา และในช่วง 1 ปีครึ่งมานี้ ยูเลียนทำได้ดี มีพัฒนาการแล้ว เสียงวิจารณ์ใดๆ ว่าเราจะเปลี่ยนโค้ชมาจากคนนอกล้วนๆ"
โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของทีมบอกว่า "ยูเลียนเป็นผู้ชายที่พร้อมจะต่อสู้กับความยากลำบากทุกสถานการณ์ ดังนั้นเราอย่าตัดสินเขาจากผลงานแค่เกมเดียว"
ขณะที่ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช กล่าวว่า "เราอยากให้เขาไปพักร้อนอยากสงบสุข ยูเลียนคือโปรเจ็กต์ระยะยาวของเรา!"
ผู้บริหารทุกคน ดูเหมือนจะเชื่อมั่นในตัวนาเกลส์มันน์ แต่ทันที ที่ทูเคิลตกเป็นข่าวว่าจะกลายเป็นของคนอื่น พวกเขาพลิกเกมทันที และสั่งฟันนาเกลส์มันน์อย่างไม่ทันตั้งตัว
รายงานจาก หนังสือพิมพ์ Sport1 ระบุว่า นาเกลส์มันน์ เดินทางไปออสเตรีย เพื่อเล่นสกีในช่วงพักเบรกทีมชาติ พักผ่อนจิตใจให้พร้อมก่อนกลับมาเล่นเกมบิ๊กแมตช์กับดอร์ทมุนด์ วันที่ 1 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม เขามารู้ข่าวว่าตัวเองโดนเด้งที่ออสเตรียนี่เอง
ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังระบุว่า ทูเคิลจะได้สัญญา 2 ปีครึ่งกับบาเยิร์น มิวนิค และจะเริ่มงานทันทีเลย ส่วนนาเกลส์มันน์ ที่คาดไม่ถึงว่าจะโดนเด้ง ก็จะได้รับเงินค่าชดเชย และต้องหาทีมอื่นต่อไป
บทสรุปจากเรื่องนี้ เราจะเห็นความเด็ดขาดของบาเยิร์น มิวนิค ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าพวกเขาจะกล้าปลดโค้ชที่กำลังพาทีมลุ้น 3 แชมป์อยู่ คำโบราณบอกว่า "เปลี่ยนม้ากลางศึก" ไม่ใช่เรื่องดี แต่นั่นก็จะเป็นหน้าที่ของทูเคิลที่จะพิสูจน์ว่าคำโบราณมันไม่จริง
การเป็นเฮดโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค เป็นหนึ่งในงานที่กดดันที่สุดในโลกฟุตบอล ถ้าเป็นสโมสรอื่นๆ ทั่วไป การคว้าแชมป์ลีกได้สักครั้ง โค้ชก็แทบจะถูกบูชาดุจเทพเจ้า แต่ที่บาเยิร์น การคว้าแชมป์ลีกถือเป็นเรื่องเสมอตัว ที่บาเยิร์นมองไปไกลกว่านั้น ได้แชมป์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องได้แชมป์อย่างมีสไตล์ด้วย
1
นอกจากนั้น เฮดโค้ชยังต้องแบกรับแรงกดดันจากผู้บริหาร แรงกดดันจากนักเตะ แรงกดดันจากกลุ่มสตาฟฟ์ คนที่จะยืนหยัดอยู่ได้นานหลายปี นอกจากจะต้องเก่งในสนามแล้ว ต้องมีศิลปะในการบริหารเรื่องนอกสนามอีกต่างหาก
เราต้องติดตามกันต่อไป ว่าบาเยิร์น มิวนิค ยุคใหม่ของทูเคิล เขาจะทำให้ทีมยกระดับไปมากกว่าเดิมหรือไม่ และจะทำให้ทุกๆ คน พอใจได้หรือเปล่า ซึ่งถ้าทำไม่ได้ ชะตากรรมของทูเคิล ก็อาจไม่ต่างอะไรกับนาเกลส์มันน์ในวันนี้
1
#GOODBYEnagelsmann
โฆษณา