ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ(1)
ได้ยินได้ฟังกันมานานแล้วว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ
เพลงเขาร้องไว้อย่างนั้นน่ะ
ฟังแล้วก็คล้อยตามแบบคนหัวอ่อน
ซาบซึ้งถึงวิญญาณกันเลยทีเดียว
กลับมาก่อนเว้ย!
ช่วงปลายเดือนก่อนต่อต้นเดือนงานไม่มากหรอก หนักไปทางดูลูกๆใกล้สอบไฟนอลมากกว่า
มันไม่ได้รุนแรงเลือดสาดแต่เด็กๆไม่อยากทบทวนก่อนลุยสอบ เลยต้องมีภาคบังคับกันอยู่ไม่น้อย
สอบเสร็จก็ผ่อนคลายกันทุกคน
ค่อยสบายใจหน่อย
แต่ครับ แต่...
มีอยู่วันหนึ่งตื่นขึ้นมาแบบงัวเงีย พอเปิดไฟก็เห็นอะไรแวบๆ
ไม่คิดมาก เดี๋ยวคงหายตามปกติ
แต่มันไม่หายไปนี่สิ
เช็คว่าข้างไหนก็พบว่าเป็นที่ตาข้างซ้าย
เอาน่า อาจชั่วคราว เว้นพักตาสักวันก็แล้วกัน
เช้าอีกวันมันก็ยังไม่หายไป มันทำให้ผมวิตกขึ้นมาว่ามันมีอะไรร้ายแรงเปล่าวะ
หมอตาคือสิ่งที่นึกออก แล้วก็ขับรถออกไปโรงพยาบาลทันที
ระหว่างรอต้องหยอดยาขยายม่านตาก่อน
ไม่เคยก็ต้องเคยครับ แล้วพบว่าแสงสว่างมันมากจนน่าตกใจเมื่อยาออกฤทธิ์
ก่อนพบคุณหมอต้องอ่านตัวเลขกับสแกนตาก่อนนะคะ พยาบาลบอก
แล้วก็พบคุณหมอ
คุณหมอถามคำถามอยู่หลายข้ออย่างโรคประจำตัว การใช้สเตียรอยด์ บุหรี่ เหล้า การพักผ่อน บลา บลา บลา แล้วดูผลสแกน
จอประสาทตาน่าจะเสื่อมนะคะ แต่หมอไม่แน่ใจ มันมีการบวมค่ะ บางคนอาจหายได้เองภายใน1-3เดือนค่ะ
ฟังแล้วโล่งอก
แต่นะคะ บางคนอาจจะต้องรับการรักษาขั้นต่อไปด้วยถ้ามันไม่หายไปเอง เดี๋ยวหมอนัดคุณหมออีกท่านที่ชำนาญเรื่องจอประสาทตาให้นะคะ
ฟังแล้วฟีบเลยครับ
รอแฟนมารับด้วยความวิตกกังวลใจ
ม่านตามันยังขยายตัวอยู่ ทำอะไรไม่ถนัด
กลับมาบ้านต้องเอาครอบแว่นสายตามาใช้
กว่าม่านตาจะกลับมาปกติก็กินเวลาราว4-6ชม.สำหรับผม
เอาน่าคุณ อย่าคิดมาก มีอะไรก็แก้ไขกันไป แฟนปลอบ
อือ ผมตอบสั้นๆ
เฮ้ออออออออ
กลัวจะเป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
