1 เม.ย. 2023 เวลา 03:00 • การเมือง

เมื่อ 'การเมืองไทย' ไม่ส่งเสริมให้ 'แก้คอร์รัปชัน'

คอร์รัปชันเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศเรา เป็นปัญหาที่ฉุดรั้งประเทศไม่ให้เติบโต ไม่ให้เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
[บทความโดย ดร.บัณฑิต นิจถาวร | เศรษฐศาสตร์บัณฑิต]
ล่าสุดผลสํารวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทยในการเลือกตั้งปี 2566 โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และมูลนิธิเพื่อคนไทย
ก็ตอกย้ำประเด็นนี้ คือสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขเป็นอันดับแรกคือ การทุจริตคอร์รัปชัน และต้องการเห็นพรรคการเมืองกําหนดนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันเป็นนโยบายหลัก
รวมถึงมีแนวทางชัดเจนที่จะแก้ไขปัญหา นี่คือความต้องการของประชาชนในการเลือกตั้งคราวนี้
การแก้คอร์รัปชันกับนักการเมืองดูจะไม่ไปด้วยกัน มีพรรคการเมืองเพียง 3 พรรคที่มีนโยบายแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ที่เหลือเงียบหมด ไม่มีนโยบาย
1
สะท้อนถึงความไม่พร้อมของนักการเมืองส่วนใหญ่ที่จะพูดถึงหรือแก้ปัญหานี้
จึงเป็นโอกาสของพรรคการเมืองส่วนน้อยที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะผลักดันการแก้คอร์รัปชันให้เกิดขึ้นจริงจังผ่านการเลือกตั้งคราวนี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่รออยู่และต้องการสนับสนุน นี้คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้
1
การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นจุดหักเหสําคัญของประเทศในหลายมิติเพราะผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ในแง่การเมืองคือ การไปต่อของระบบประชาธิปไตย
เรื่องเศรษฐกิจคือการเริ่มแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างตรงจุดที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศเดินหน้า และด้านสังคมซึ่งปัญหาสำคัญสุดคือการทุจริตคอร์รัปชันที่ทำลายการแข่งขัน
ทําลายแรงจูงใจในระบบเศรษฐกิจ ทําลายโอกาสคนในสังคม และเป็นที่มาของความรุนแรงของปัญหาความเหลื่อมลํ้าที่ประเทศเรามี เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข
การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศเรารุนแรงขึ้นต่อเนื่องช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมา ไม่ว่าใครหรือพรรคการเมืองไหนมาเป็นรัฐบาล
สะท้อนความลึกของปัญหาที่ฝังอยู่ในพฤติกรรมของคนในสังคมและความไม่พยายามที่จะลดหรือแก้ไขปัญหาของฝ่ายการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทําให้ปัญหาไม่มีการแก้ไขและรุนแรงมากขึ้น
1
เท่าที่สังเกต มีสามปัจจัยที่ทําให้คอร์รัปชันในประเทศเราไม่ไปไหนและนับวันรุนแรงมากขึ้น
1
โฆษณา