26 มี.ค. 2023 เวลา 01:32 • ปรัชญา
เป็นเพราะคนเรามีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงร้อยปี นี่แหละ จิตที่มาอาศัยเมื่อ กายมันเจ็บมันไม่เที่ยง เมื่อตอนเป็นเด็ก เห็นยาย ต้องเอายาลม ยาหม่อง มาดมมาถู ก็ถามว่ายายทำไมต้อง เดี๋ยวดม เดี๋ยวถู ยาหม่อง ยายก็ว่า ..มันบอกมันเมื่อย เราก็ว่ายาย ..ปวดเมื่อยอะไรหนักนานี่ ..เมื่อเวลาผ่านไป ยายก็ตายจากไป ไปเยี่ยมคนนั้นคนนี้ นอนป่วย ..รักษาที่โรงพยาบาลรักษานอนรอความตายก็มี
แล้วก็ไปงานศพคนนั้น คนนี้ จนถึงพ่อก็ตายจากไป แม่ก็ตายจากไป ไปงานศพบาง บางงานบางสถานที่ ก็เจอะเจอเรื่องราวแปลก บางงานคนตายก็มีฐานดี ผู้คนมากมาย เวลาพระสวดก็ เห็นคนตาย เดินทักคนนั้นนี้ แต่ไม่มีใครพูดด้วย ..ยิ่งตอนพระสวดก็ไม่เห็นฟังพระสวดเดินไปมาไม่สนใจ อ้อ..ก็ค่อยๆถามพระท่าน ..ท่านบอกว่า ก็ตอนเป็นคนเห็นพระสวดมนต์ ตอนเค้าทำบุญทำทานก็ไม่สนใจ เวลาตายไปมันก็เหมือนตอนเป็นคนนี่แหละ
ไปงานศพบางงาน ..นั่งๆฟังพระสวดอยู่ ข้างหลังเป็นเป็นเมรุ ก็มีผู้หญิง ตัวสูงๆ ก้มมา พนมมือไหว้ กระซิบ..บอกว่า กำลังเผาอยู่ๆ พร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหลัง ก็เลยต้องไปตรวจสอบเสียหน่อยว่า ที่เค้ากำลังเผากันอยู่เป็นผู้หญิงผู้ชาย ..ก็ได้ไปเป็นเห็นรูป เป็นผหญิงสวมใส่เสื้อผ้าสีเดียวกันเลย
ไปงานศพอีกงานหนึ่ง ..พอจอรถกลิ่นเหมือนหนตายซาก ฟุ้งแรงมาเลย ก็นึกว่ากลิ่นถังขยะ เอ๊ะ.กลิ่นนี้ลอยตามไปจนถึงศาลาสวดศพเลย ยิ่งตอนพระให้พร ก็ยิ่งกลิ่นแรงเป็นทวีคูณ ก็ไปถามพระท่าน ท่านบอกว่า ตายไปก็เป็นเปรตเลย ชีวิตก่อนตายก็ชอบดื่มเหล้า สนุกสนานตามภาษาคนเมา เมาแล้วนอน..
ไปที่งานศพแถวอยุธยา ฟังพระสวดๆไป ก็มีภาพหลอน เห็นทหารไทยโบราณมานั่งข้างหน้าพนมมือ กันเต็มศาลา เอาดาบวางข้างตัว มองไปข้างนอก ก็เห็นทหารย่อถือหอกกันอยู่ แต่ไปบางวัด ก็มีคนตัวดำๆ มายืนเรียงเป็นระเบียบ เป็นแถว ..เป็นพันๆคน
ที่เขียนเล่ามานี้ มันเป็นเรื่องส่วนหนึ่งของจิตที่ออกจากเรือนกายเป็นมนุษย์ ที่ยังไม่ได้ไปเกิด เป็นจิตเร่ร่อนอยู่ เวลาเค้าทำบุญทำทาน เค้าก็อยากได้รับบุญกุศล แต่ก็ไม่ค่อยเกิดเป็นบุญเกิดขึ้น บางงานเห็นเป็นเงาดำชัดเจน ให้ดูว่า จิตที่เร่ร่อนนั้นยืนติดเรียงเป็นแถวอยู่ใกล้พระหนุ่มที่สวดมนต์สวดเหมือนนักร้องเลย ..
ที่เขียนเล่าๆ มามันเป็นเรื่องที่ได้เห็นเรียนรู้ เรื่องจิตที่เร่ร่อน หลังออกจากกายมนุษย์ จิตที่ไปแต่ดวงจิต กายก็ของๆโลก ทรัพย์สินเงินทองก็ของๆโลก ..เมื่อเราได้เรียนรู้ความทุกข์ขอ
จิตที่เร่ร่อนนั้นทุกข์ยากลำบาก เวลาเค้าเข้ามาใกล้ ..สัมผัส มันทั้งแสบร้อน หงุดหงิด เหมือนเค้ามาบอกว่า เค้านั่นทุกข์มากร้อน อยู่ตลอดเวลาเหมือนอยู่กลางทะเลทราย
นี่แหละที่เค้าว่า ตอนเป็นคนเค้าให้โอกาสสร้างบุญสร้างกุศล แต่ไม่สนใจ ศึกษาเรื่องบุญกุศล เห็นเป็นเรื่องงมงาย เรื่องพิธีกรรมบ้าง พอจิตออกจากร่าง ก็ได้แต่ร้อง เห็นใครมีบุญก็เข้ามาขอ ช่วยฉันด้วย ..คนไม่ทำบุญทำทาน ก็ดีอย่าง ..ผีเร่ร่อนเค้าก็ไม่เข้าไปขอ เพราเค้าเห็นว่าจนด้วยบุญกุศล เหมือนเราเห็นคนจนไม่มีเงินมีทองจะให้ จะขอ..ก็ต้องคนที่มีเงินมีทองคล้ายๆกัน
เมื่อตอนมีชีวิต มีฝันอะไรก็ทำๆไปรีบๆทำซะ เดี๋ยวจิตออกจากร่างๆ ไม่มีกายมนุษย์จะให้ทำ ฝันที่เกิดจากกายจากอารมณ์ไม่มีให้ใช้แล้ว จิตมันเปลี่ยนแปลงไปอยู่อีกที่หนึ่งที่ไม่มีกายที่ไม่มีฝัน..ที่ๆต้องมีทุกข์ร้อน ทุกข์ร้อนเพราะไม่บุญกุศลเป็นเนื้อนาบุญติดตามไปกับจิตเลย เรื่องของบุญกุศล จึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษาเรียนรู้ ว่าบุญเกิดจากอะไร ทำอย่างไรจึงเกิดเป็นบุญ บุญกุศลที่จิตเร่ร่อนเค้ามาขอเป็นอย่างไร แต่นั้นแหละ มันเป็นเรื่องราวเฉพาะตัวก็ว่าได้ มันมีคนสนใจ และไม่สนใจ เหมือนเราเกิดมาเราก็ไม่รู้ตัวว่ามาจากไหน.
โฆษณา