26 มี.ค. 2023 เวลา 13:44 • การเมือง

จากการลงสำรวจและประเมิณคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนส่วนใหญ่

ทำให้เราได้รู้ถึงวิถีชีวิตที่แสนจะลำบากของชาวบ้าน เปรียบคือ “คนจนหาอาหารใส่ท้อง
แต่คนรวยเตรียมท้องไว้ใส่อาหาร”
สังคมไทยเราในปัจจุบันนี้มีคนร่ำรวยเพียงไม่กี่คน
แต่กลับมีคนยากจนเป็นจำนวนมาก
คนยากจนย่อมอดอยาก หิวโหย พวกเขาปรารถนาเพียงให้มีอาหารกินประทังชีวิตไปวัน ๆ พวกเขาปราถนาเพียงให้มีเครื่องนุ่งห่มเพียงเพื่อป้องกันความร้อนหนาวที่เกิดขึ้น และขอให้มีที่อยู่อาศัยพอได้ซุกหัวนอน รวมถึงมียารักษาโรค
ยามป่วยไข้
ความหิวเป็นปัญหาสำคัญอันดับแรกของสังคม
เมื่อท้องหิวและไม่สามารถหาอาหารมาประทังความหิวได้ สังคมก็จะเริ่มปั่นป่วนวุ่นวาย
และขาดระเบียบ ความหิวเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดที่ประวัติศาสตร์โลกที่เคยบันทึกมา
แม้รัฐจะออกกฎหมายมาควบคุมสังคมให้เป็นระเบียบ แต่ก็ไม่มีกฎหมายฉบับใดที่จะห้ามมิให้ท้องคนหิวได้ สังคมไทยเป็นสังคมเสรีประชาธิปไตย ประชาชนมีเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่มีความหมายเมื่อท้องของประชาชนส่วนใหญ่นั้น
ยังหิวโหย ฐานะของรัฐและฐานะของประชาชน
ไม่อาจแยกจากกันได้ตราบใดความยากจนยังคงครอบคลุมประชาชนส่วนใหญ่ ฐานะของรัฐก็ไม่มั่นคงถาวรอยู่ได้แล้ว ในที่สุดก็ไม่สามารถจะพิทักษ์คนร่ำรวยเพียงไม่กี่คนเหล่านั้นไว้ได้เช่นกัน ทำอย่างไรคนยากจนและคนร่ำรวยจึงจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
แน่นอนหากคนร่ำรวยยอมสละประโยชน์ส่วนตนเพียงเล็กน้อยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หยุดเตรียมท้องสำหรับใส่อาหาร ส่วนคนยากจนก็ขยันหาอาหารใส่ท้องให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยมีรัฐคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในคราวที่จำเป็น เราก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
วิธีการเช่นนี้เป็นวิธีลด ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยได้อย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่ดึงคนรวยให้ต่ำลง
แต่เราจะช่วยกัน " ดันคนจนให้สูงขึ้น "
ความยากจนของประชาชนส่วนใหญ่จะลดลงทันทีถ้าคนมั่งมีให้ความเมตตา
โฆษณา