การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงิน
ซอฟต์แวร์ทางการเงินเป็นสาขาที่เฉพาะเจาะจงมากซึ่งมุ่งเน้นที่การตอบสนองความต้องการทางธุรกิจเท่านั้น การใช้งานที่ไม่เหมือนใครนี้ก่อให้เกิดความท้าทายที่แตกต่างกันสําหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงิน ความท้าทายเหล่านี้คืออะไร และสิ่งที่จําเป็นเพื่อเอาชนะความท้าทายเหล่านี้
ในธุรกิจสมัยใหม่ การใช้ซอฟต์แวร์ทางการเงินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความซับซ้อนและความหลากหลายของการดําเนินงานเชิงพาณิชย์มีมากมาย ดังนั้น การซื้อหรือแม้แต่การพัฒนาเครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์สามารถช่วยให้ผู้ใช้รายบุคคลและองค์กรจัดการกิจกรรมของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายเฉพาะบางอย่างที่เกี่ยวข้อง ลองมองในแง่นี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ทําไมบริษัทถึงต้องการซอฟต์แวร์ทางการเงินเฉพาะทาง?
หากคุณเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ การติดตามบัญชีของคุณหรือการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยมืออาจดูเหมือนเป็นวิธีที่ดีในการทําให้งานของคุณสําเร็จลุล่วง แต่เมื่อเวลาผ่านไป บริษัทของคุณจะเติบโต ดังนั้นปริมาณข้อมูลที่คุณต้องการเพื่อรับมือกับมันทุกวัน
การเปลี่ยนจากการประมวลผลทางการเงินด้วยตนเองเป็นแบบจําลอง software-based อาจดูยุ่งยากในตอนแรก มีโอกาสที่คุณจะต้องแก้ไขรูปแบบข้อมูลเก่าที่คุณคุ้นเคย คุณอาจต้องติดตามข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่ที่คุณไม่คิดว่าจะต้องการมาก่อน
คุณอาจต้องปรับกระบวนการทางธุรกิจของคุณ: เพื่อดําเนินการฝึกอบรมบุคลากรและทํางานวิเคราะห์เพิ่มเติม แต่ความจริงก็คือ การทํางานทั้งหมดเหล่านี้โดยใช้ซอฟต์แวร์ทางการเงินเฉพาะทางจะช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่นๆ ให้กับคุณได้มากในที่สุด
ยังไม่มั่นใจ? คําว่า 'ซอฟต์แวร์ทางการเงิน' เป็นมากกว่างานปกติ เช่น การติดตามรายได้และค่าใช้จ่าย การสร้างงบประมาณ หรือการพิมพ์รายงานเป็นครั้งคราว ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องจัดการการลงทุน วางแผนต้นทุนวัสดุที่จําเป็น หรือคาดการณ์ผลลัพธ์ทางการเงินในอนาคตตามระดับปัจจุบันของกิจกรรมบริษัทของคุณ
และสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของการใช้ซอฟต์แวร์ทางการเงินสามารถสัมผัสได้เมื่อบริษัทของคุณเติบโตมากขึ้น
ความท้าทายในการพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงิน: มันคืออะไร?
ซอฟต์แวร์ทางการเงินขึ้นอยู่กับชุดของเงื่อนไขที่แม่นยําและเฉพาะเจาะจงเสมอ กฎหมาย ข้อบังคับ และภาษีเหมือนกันสําหรับทุกคน แต่ถึงกระนั้น สําหรับธุรกิจทุกประเภทที่สร้างแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่จัดการข้อมูลและกระบวนการทางการเงินอาจแตกต่างกันบ้าง
ดังนั้น นักพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าวจึงต้องพิจารณาว่าลูกค้าต้องเผชิญกับความท้าทายใดบ้าง และประเมินเมื่อสร้างซอฟต์แวร์ทางการเงิน
ความท้าทายเหล่านี้คืออะไร? นี่คือหลักของแนวคิด:
ความปลอดภัย: ซอฟต์แวร์จะต้องมีความปลอดภัยสูงเพื่อปกป้องข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนจากการโจมตีทางไซเบอร์และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
การปฏิบัติตามข้อกําหนด: ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ต้องเป็นไปตามข้อกําหนดด้านกฎระเบียบและมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น PCI DSS, GDPR และ SOX
ความแม่นยําและการจัดการข้อมูล: ข้อมูลทางการเงินจําเป็นต้องจัดเก็บในรูปแบบที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการคํานวณหรือการรายงานทางการเงิน ข้อมูลต้องได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รับรองความสมบูรณ์และความพร้อมใช้งาน
การผสานรวม: แอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางการเงินมักต้องการความสามารถในการรวมเข้ากับระบบอื่นๆ เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี แพลตฟอร์มการซื้อขาย และเกตเวย์การชําระเงิน
ความสามารถในการปรับขนาด: ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโต ดังนั้น เช่นเดียวกับเครื่องมือทางการเงินดิจิทัลทุกชิ้น ซอฟต์แวร์จําเป็นต้องปรับขนาดได้เพื่อจัดการกับข้อมูลและผู้ใช้จํานวนมากเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น
ประสิทธิภาพ: ระบบการเงินจําเป็นต้องทํางานได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่และการคํานวณที่ซับซ้อน
การใช้งาน: ต้องใช้งานง่ายขึ้นเอง มิฉะนั้น ซอฟต์แวร์อาจยากเกินไปที่จะเรียนรู้หรือแม้แต่นําไปสู่ข้อผิดพลาดของการใช้งานอินเทอร์เฟซต้องใช้งานง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับผู้ใช้ที่ไม่ใช่ด้านเทคนิค เช่น ผู้ค้าหรือนักวิเคราะห์ทางการเงิน
การจัดการการเปลี่ยนแปลง: สภาพแวดล้อมทางธุรกิจไม่คงที่ แต่เปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป กฎระเบียบใหม่และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดเกิดขึ้นในขณะที่ข้อจํากัดที่เก่ากว่าบางอย่างล้าสมัย ซอฟต์แวร์จําเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้
ทักษะชุดใดที่จําเป็นสําหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงิน
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงินต้องใช้ชุดทักษะเฉพาะที่นอกเหนือไปจากการสร้างซอฟต์แวร์ทั่วไป แน่นอนว่าเห็นได้ชัดว่าโปรแกรมเมอร์จําเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ดที่เหมาะสม แต่นี่ไม่ใช่ข้อกําหนดเบื้องต้นเพียงอย่างเดียวที่นําไปสู่ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ดีเท่านั้น ทีมผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในการสร้างระบบทางการเงินจะต้องมีทักษะสูงในด้านต่อไปนี้:
ทักษะการเขียนโปรแกรมที่เชี่ยวชาญ: ซึ่งรวมถึงความเชี่ยวชาญในภาษาต่างๆ เช่น Java, Python, C++ และ SQL โปรแกรมเมอร์สามารถเลือกภาษาโปรดของเขาได้ ตราบใดที่เวอร์ชันซอฟต์แวร์สุดท้ายทํางานได้อย่างถูกต้องและตรงตามข้อกําหนดทั้งหมดจากฝั่งไคลเอ็นต์
ความเข้าใจในหลักการทางการเงินและการบัญชี: นักพัฒนาจําเป็นต้องมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับแนวคิดทางการเงิน เช่น ประเภทสินทรัพย์ เครื่องมือทางการเงิน การซื้อขาย และการบริหารความเสี่ยง คุณอาจจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่อย่างน้อยความเข้าใจพื้นฐานจากฝั่งผู้เขียนโค้ดก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก
ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบทางการเงิน: นักพัฒนาต้องทําความคุ้นเคยกับกฎระเบียบต่างๆ เช่น GDPR, SOX, PCI DSS และมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าอาจไม่ทราบจํานวนข้อบังคับที่ต้องนําไปใช้ในซอฟต์แวร์ของตนเสมอไป เป็นความรับผิดชอบของนักพัฒนาในการเตรียมผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายสําหรับการใช้งานจริง
ความใส่ใจในรายละเอียด: โปรแกรมทางการเงินต้องการความใส่ใจในรายละเอียดในระดับสูง เนื่องจากข้อผิดพลาดอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญ ทั้งด้านการเงินและทางกฎหมาย
ทักษะการวิเคราะห์: การวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่และข้อมูลทางการเงินอาจช่วยระบุรูปแบบและข้อมูลเชิงลึก ในทางกลับกัน ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สามารถใช้เพื่อสร้างฟังก์ชันและเครื่องมือใหม่ๆ ที่มีประโยชน์สําหรับลูกค้า และสร้างความแตกต่างให้กับซอฟต์แวร์ทางการเงินจากทางเลือกที่มีอยู่
ทักษะการแก้ปัญหาที่มากด้วยประสบการณ์: ทีมงานที่ทํางานเกี่ยวกับการสร้างซอฟต์แวร์ทางการเงินต้องสามารถระบุและแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ ลูกค้ามักจะนําความท้าทายที่ไม่เหมือนใครมาสู่การทำงานและนั่นคือเหตุผลที่รูปแบบการพัฒนาเดียวกันอาจไม่เหมาะที่จะดําเนินการตามคําสั่งซื้อแต่ละรายการ
ทักษะการสื่อสาร: การสร้างซอฟต์แวร์ทางการเงินเกี่ยวข้องกับการสื่อสารจํานวนมากกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ค้า ผู้จัดการความเสี่ยง และเจ้าหน้าที่กํากับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ งานนี้ต้องทําอย่างมีประสิทธิภาพ
ความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย: นักพัฒนาจําเป็นต้องมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัย และสามารถนําไปใช้ในซอฟต์แวร์ทางการเงินเพื่อปกป้องข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน
สุดท้าย
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการเงินเป็นพื้นที่เฉพาะที่มีข้อกําหนดเฉพาะ ทําให้แตกต่างจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ มาก การรู้ภาษาโปรแกรมและการมีประสบการณ์การเขียนโค้ดไม่เพียงพอ: นักพัฒนาต้องทําความคุ้นเคยกับกฎระเบียบทางการเงิน กฎหมาย แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และแม้แต่ข้อมูลเฉพาะของแต่ละด้านธุรกิจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
