27 มี.ค. 2023 เวลา 10:49 • ธุรกิจ

ส่องสัญญาณท่องเที่ยวไทยคึกคัก ธุรกิจโรงแรมไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2566

แม้ตลาดการท่องเที่ยวของไทยจะมีมูลค่าลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจโรงแรมชะลอตัวลง แต่หลังจากสถานการณ์ผ่านพ้น รัฐบาลปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาประเทศไทย ก็เริ่มปูทางให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในปี 2566 มีแนวโน้มสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
ตลาดโรงแรม ปี 65 เติบโตมากขึ้น
แม้ว่าในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้นจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น สายพันธุ์ที่พบไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก คนไทยเริ่มคลายกังวลและกล้าออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักหลายแห่งฟื้นตัวกลับมาสร้างกำไรได้ และมีการจ้างงานในธุรกิจโรงแรมและที่พักเพิ่มขึ้นถึง 75%
แต่ธุรกิจโรงแรมของไทยในปี 65 ยังต้องเผชิญความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขาดแคลนแรงงาน รายล้อมไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นและกำลังซื้อของคนไทยบางส่วนลดลง
ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) พบว่าบางช่วงเวลา นักท่องเที่ยวคนไทยใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อทริปลดลง โดยเลือกที่จะเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ไม่พักโรงแรมสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
แต่อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่น่าจับตามองตั้งแต่ปี 2565 คือ ‘การเที่ยวแบบล้างแค้น’ (Revenge Travel) เพื่อชดเชยเวลาที่ไม่ได้ท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันให้ธุรกิจโรงแรมไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และน่าจะส่งผลมาจนถึงปีนี้ด้วยเช่นกัน
ปี 66 โรงแรมฟื้นตัวเกือบเท่าตัว แต่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน
ttb analytics ประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 28 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.25 ล้านล้านบาท
หลังจากจีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลางเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยสะดวกมากขึ้น จากการทำงานในรูปแบบ work from anywhere เมืองท่องเที่ยวหลักหลายจังหวัดในไทยจึงคึกคักมากขึ้น
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในปีนี้ รายได้ของธุรกิจโรงแรมและที่พักจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอาจจะฟื้นตัวได้เกือบเท่าตัวของปี 2565
แต่ธุรกิจโรงแรมและที่พักในปีนี้ยังพบความท้าทายจากตลาดนักท่องเที่ยวที่ยังมีความไม่แน่นอนจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ภาวะเงินเฟ้อและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงอยู่ รวมไปถึงสถานการณ์ความตึงเครียดของรัสเซีย-ยูเครน อาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนทั้งเรื่องราคาสินค้า พลังงาน และการเงินของบรรดาผู้ประกอบการ หากยิ่งยืดเยื้อจะยิ่งเพิ่มต้นทุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ธุรกิจโรงแรมยังต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากจำนวนโรงแรมและที่พักที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น จากการที่ผู้ประกอบการที่ส่วนใหญ่เป็นเชนโรงแรม เร่งขยายการลงทุนในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และยังมีการแข่งขันจากผู้ประกอบการที่พักรูปแบบอื่นๆ ด้วย เช่น อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียมที่แอบเปิดให้เช่ารายวัน รวมถึงสตาร์ทอัพอย่าง Airbnb
ทางด้านตัวเลขผลประกอบการ ปีนี้ธุรกิจโรงแรมน่าจะสร้างรายได้ประมาณ 5-6 แสนล้านบาท มีอัตราการเข้าพักทั้งปีประมาณ 52-60% คาดว่ากลุ่มโรงแรมที่จะฟื้นตัวได้คือกลุ่มที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลักภาคตะวันตกและภาคเหนือ นอกจากนี้กลุ่มโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าเอเชียและตะวันออกกลางมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก อย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราเข้าพัก 65%-70% (เทียบกับในปี 2562 อยู่ที่ 79%) ในภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาเที่ยวไทยในปี 2566 ประมาณ 22.7 ล้านคน และในปี 2567 ประมาณ 35.3 ล้านคน เพราะไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากรัฐบาลมาช่วยสนับสนุนอีกทาง
บวกกับข้อได้เปรียบของธุรกิจ MICE ไทยที่ช่วยสนับสนุนตลาดโรงแรม โดยในปี 2566 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการจัดอีเว้นต์และการประชุมสัมมนาจะมากขึ้นจากปี 2565 ซึ่งกลุ่มโรงแรมที่จัดงานอีเว้นต์และประชุมสัมมนาน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวได้ดี ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวรูปแบบ MICE ให้ความสนใจ
โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางอย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 มีงานระดับนานาชาติเข้ามาจัดทั้งในศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า และโรงแรมต่าง ๆ มีผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางมาจากทั่วโลก
ท่องเที่ยวไทยไตรมาสแรกฟื้นตัวเร็ว-ราคาห้องพักสูงขึ้น
ททท.มองว่าการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด คาดว่าในไตรมาส 1/2566 นี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 6 ล้านคน แต่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเท่าก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยช่วงต้นปีกลับมาคึกคัก คือการขยายวีซ่าท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในบางประเทศ จากไม่เกิน 30 วัน มาเป็นไม่เกิน 45 วัน และการขยาย Visa on Arrival จากเดิมไม่เกิน 15 วันเพิ่มเป็นไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 31 มีนาคม 2566
ส่วนการท่องเที่ยวของคนไทยในไตรมาสแรก ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และโครงการ ‘เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม’ นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังมีการปรับปรุงสนามบินในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดรองหลายแห่ง เพื่อรองรับการเดินทางที่จะกลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น
ด้านมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) มองว่าตอนนี้โรงแรม 5 ดาวเริ่มกลับมาทำราคาห้องพักได้ดีขึ้น โรงแรมที่มีซัพพลายห้องจำนวนมากก็มีราคากลับมาใกล้เคียงปกติแล้ว ส่วนเชนโรงแรมระดับนานาชาติเริ่มรุกเข้าไปทำตลาดในจังหวัดเมืองรอง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและให้รอดจากสมรภูมิการแข่งขัน
ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและที่พักในประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2/2566 ซึ่งเป็นช่วง Low season คาดว่านักท่องเที่ยวจากอินเดียและตะวันออกกลางน่าจะเดินทางเข้าไทยมากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่มาทั้งแบบเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) หรือมาแบบกรุ๊ปทัวร์ ทำให้โรงแรมที่เคยรับเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ฟื้นตัว
สรุปได้ว่า ถึงแม้อุตสาหกรรมโรงแรมและที่พักยังต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่ก็เห็นสัญญาณที่ดีจากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงการประชุม งานอีเว้นต์และการจัดงานระดับนานาชาติในประเทศไทย ที่ฟื้นตัวเรื่อยๆ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคโรงแรมของไทยกลับมาสดใสได้อีกครั้ง
โฆษณา