27 มี.ค. 2023 เวลา 14:50 • ความงาม

แนะนำ ไขข้อสงสัย Filler ทำบริเวณใดได้บ้าง และมีเหตุผลอะไรบ้างที่ควรพึ่ง Filler

ทำความรู้จักกับ Filler
การฉีด Filler เป็นการยกกระชับใบหน้าให้กลับมาดูอิ่มฟู เติมร่องริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้น โดยใช้สาร HA หรือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสารนี้เป็นสารที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกาย เมื่อฉีดลงไปแล้วสารนี้จะเข้าไปทดแทน และเติมเส้นใยคอลลาเจนที่เสื่อมสลายลงไป ส่งผลให้ผิวหน้ากระมาดูกระชับ และเต่งตึงได้อีกครั้ง
แต่นอกจาก Filler จะทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึงแล้ว ยังจะสามารถช่วยเสริมคาง ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่น รูขุมขนดูเล็กลง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยเสริมความงามที่มีคุณประโยชน์หลากหลายทีเดียว
Filler มีให้เลือกกี่ประเภท?
ก่อนจะทำการรักษาเราควรรู้ก่อนว่า Filler มีให้ได้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดประสงค์ดังนี้
Filler แบบชั่วคราว จะเป็นการฉีดสารไฮยาลูโรนิคแอซิดลงไป ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1–2 ปี มีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
Filler แบบกึ่งถาวร สารที่เอามาใช้ฉีดปกติจะเป็นสารโพลีอัลคิลลิไมด์ หรือสาร PMMA โดยการฉีดแบบนี้จะอยู่ได้ประมาณ 2–5 ปี แต่สารจะไม่สลายไป 100% และยังจะเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้ เพราะเป็นการฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย
Filler แบบถาวร การฉีดในแบบนี้จะนำน้ำมันพาราฟิน หรือซิลิโคนเหลว มาฉีดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถสลายเองได้ และจะส่งผลข้างเคียงในระยะยาว หรืออาจจะเกิดการอักเสบรุนแรงได้
บริเวณที่นิยมฉีด Filler
จริงๆแล้วการฉีด Filler สามารถฉีดได้หลายบริเวณตามร่างกาย แต่ตำแหน่งที่มักจะได้รับความนิยมจะเป็นบริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก ใต้ตา ปาก คาง หรือฉีดปรับรูปหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ในการฉีดบางบริเวณก็ควรจะตัดสินใจให้ดี บวกกับปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากใบหน้าของเรามีแขนงเส้นเลือดแดงจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วทั้งใบหน้า ยิ่งแถวบริเวณหน้าผากและจมูก หากเลือกแพทย์หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับตัวเองได้
อ่านต่อบทความ
โฆษณา