28 มี.ค. 2023 เวลา 09:28 • ความงาม

แนะนำ หมดปัญหาขนส่วนเกินมากวนใจด้วย Gentle Yag

แนะนำ หมดปัญหาขนส่วนเกินมากวนใจด้วย Gentle Yag จาก Meko Clinic รับรองคุณภาพคุ้มราคา
Gentle Yag คืออะไร?
การทำ Gentle Yag เป็นการใช้เลเซอร์รูปแบบหนึ่งยิงลงไปบนผิวหนัง โดยคลื่นนี้จะลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ จากนั้นคลื่นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะเข้าไปทำลายรากของขน นอกจากนี้ยังจะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ และยังจะช่วยให้ขนขึ้นช้ากว่าเดิม พร้อมทั้งเปลี่ยนให้เป็นขนที่เส้นเล็ก และบางลงอีกด้วย
เนื่องจากการคลื่นรักษาโดย Gentle Yag จะมีความร้อนในระหว่างที่รักษาอาจจะมีความรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วในขณะที่ยิงเลเซอร์ จะมีเครื่องเป่าลมเย็นคอยบรรเทาอาการร้อนอยู่ตลอด และยังจะช่วยปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้เกิดการไหม้อีกด้วย แต่การทำ Gentle Yag จะไม่ทำให้ขนหลุดทั้งหมดภายในครั้งเดียว ซึ่งขนจะหลุดไปประมาณ 30% ในการทำแต่ละครั้ง ดังนั้นควรจะทำต่อเนื่องประมาณ 6–8 ครั้ง เพื่อให้ขนหลุดออกไปอย่างถาวร
Gentle Yag เหมาะกับใครบ้าง?
บางคนอาจจะคิดว่า Gentle Yag จะใช้สำหรับการกำจัดขนเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วยังจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากริ้วรอย มีรอยเหี่ยวย่น โดยหลังจากที่รักษาแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียน ผิวกลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ ริ้วรอยต่างๆ แลดูจางลงอีกด้วย
ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
ก่อนทำ Gentle Yag ควรจะต้องดูแลผิวบริเวณอย่างดี เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยควรเตรียมตัวดังนี้
ก่อนรักษาประมาณ 3–4 สัปดาห์ ควรเลี่ยงการโกนขน ถอนขน หรือแวกซ์ขนบริเวณที่ต้องการจะรักษา
งดใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างร่างกาย หรือโลชั่นต่างๆที่มีสารที่จะทำให้ระคายเคืองผิวหนัง เช่น กรด AHA , วิตามินเอ เป็นต้น
– ในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนรักษา ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
– ไม่ควรขัดผิว หรือสครับผิวตรงบริเวณที่จะรักษา และงดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนก่อนจะมาทำ
หลังทำต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ และไม่เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆตามมา หลังจากรักษาควรจะต้องดูแลตัวเองดังนี้
หลังจากที่รักษามาแล้ว 1–2 วัน สามารถบรรเทาอาการได้โดยการประคบเย็น และทาโลชั่นบำรุงผิวควบคู่กันไป
1–2 สัปดาห์ หลังจากรักษา ควรเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ทำมาโดนแสงแดด และควรทาครีมกันแดดทุกวัน แม้แต่วันที่ไม่ได้ออกไปไหนก็ควรทา
งดทำกิจกรรมที่มีความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อบไอน้ำ ทำซาวน่า เป็นต้น
สำหรับการรักษาบริเวณรักแร้ ควรงดทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายประมาณ 2–3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
อ่านต่อบทความ
โฆษณา