28 มี.ค. 2023 เวลา 20:12 • ความคิดเห็น
ผมขอสมมุติตัวเองว่าเป็นนักมายากล
โดยผมอยากให้คุณนึกถึงคำสองคำดังนี้
“Choice” หรือ “ทางเลือก”
และ
“Condition” หรือ “เงื่อนไข”
ตอนนี้ผมขอกลับมาพิจารณาถึงคำสองคำคือ
“ความสุข” (Happiness)
กับ
“ความจริง” (Reality)
“ความสุข”
ในสภาวะการณ์ที่ทั้งระบบเศรษฐกิจ, การเมือง, สังคม, และสิ่งแวดล้อมของโลก นำมาซึ่ง “ความท้าทาย” ในการใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่นี้
ผมคาดหวังว่า ผู้คนจะตระหนักถึงความจริงที่ว่า
ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “แสวงหา” คุณหยุด “ไขว่คว้า” ความสุขเมื่อไหร่ มันจะเป็นของคุณ “ที่นั่นและเดี๋ยวนั้น”
”Happiness cannot be pursued; it must ensue.”
Viktor E. Frankl,
”For success, like happiness, cannot be pursued; it must ensue, and it only does so as the unintended side-effect of one's personal dedication to a cause greater than oneself or as the by-product of one's surrender to a person other than oneself.
Happiness must happen, and the same holds for success: you have to let it happen by not caring about it.”
Viktor E. Frankl,
Viktor Frankl ท่านกล่าวไว้ชัดเจนว่า ความสุขนั้นเป็นสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วและควรปกป้อง ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องออกแสวงหาและก้มกราบเพื่อให้ใครหยิบยื่นให้คุณ
VF ท่านเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ท่านได้รับความทุกข์ทรมานต่างๆนานา และท่านได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งไปหลายท่าน แม้แต่ตัวของท่านเองก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแสนสาหัส
แต่ท่านก็มองเห็นคุณค่าของชีวิต ท่านเลยช่วยเหลือให้กำลังใจเพื่อนร่วมชะตากรรมในค่ายแห่งนั้น ให้มีพลังใจในการมีชีวิตในสภาพความยากลำบากนั้น จนในที่สุด ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้มาปลดปล่อยผู้ถูกกักกันในช่วงท้ายๆ
ของ WW II
จึงเห็นได้ว่า
“ความสุข” เป็นภาพสะท้อนถึง “ความฉลาดทางอารมณ์” หรือ
EQ: Emotional Intelligence
ที่เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ โดย “ความสุข” สามารถเป็นภาพสะท้อนของ
“มุมมอง” หรือ “Perception”
ที่คุณมีต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ผมขอยกตัวอย่างเป็นคำถามง่ายๆ คือ
“คุณคิดว่าคนที่ขับรถราคา ‘สองล้านบาท’ จะมีความสุขเป็น 4 เท่า ของคนที่ขับรถราคา 5 แสน อย่างนั้นหรือ?”
2
หรือ
“คุณคิดว่าคนที่ใช้ laptop ที่มีหน่วยความจำ หรือ RAM ขนาด 32 GB จะต้องมีความสุขเป็น 8 เท่า ของคนที่ใช้ laptop ที่มี RAM เพียง 4 GB อย่างนั้นหรือ?”
โดยถ้าคุณตอบว่า “ใช่” จากทั้งสองคำถาม
ผมมองว่า “คุณเป็นคนที่น่าเป็นห่วง!”
1
(It doesn’t work that way, MOFO.)
แต่ถ้าคุณรู้คำตอบอยู่แล้วว่า “ไม่ใช่” ผมก็มองว่า
คุณเป็นคนที่มีวุฒิภาวะในการใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น!
ข้อจำกัดด้านจิตใจที่จะทำให้เราไม่มีความสุข
ผมมองว่ามันไม่เคยมีครับ เราทุกคนมีวันสุดท้ายด้วยกันทั้งนั้น
อย่าเอาสิ่งใดมาเป็นข้อจำกัดหรือ “เงื่อนไข” ในเรื่องความสุขทางจิตใจของเราเลยครับ
ที่ผมคิดแบบนี้เพราะเคยเห็นชีวิตผู้คนที่เขาเกิดมาไม่มีแขนขา หรือร่างกายของเขาไม่สมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เขานำมาเป็นข้ออ้างเพื่อกักขังตัวเองอยู่ในข้อจำกัดทางกายภาพที่เขาเผชิญอยู่ จิตใจเป็นสิ่งที่ทรงพลังเมื่อฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ผมจึงชอบคำกล่าวที่ว่า
”The environment has never defined you, it simply gives you the opportunity to define yourself.”
นั่นคือ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ สถานที่และเวลาใด คุณอาจออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อ
“เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม”
โดยคุณคาดหวังว่า เมื่อคุณเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมแล้ว “ความรู้สึกสุขทุกข์” ของคุณจะเปลี่ยนตาม
แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
เพราะคุณอาจหนีทุกอย่างได้ แต่คุณไม่สามารถหนีตัวเองพ้น!
“Wherever you go, there you are.”
“ความจริง”
ผมเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า
“ความกล้าหาญทำให้คุณยอมรับความจริง
1
และการยอมรับความจริงจะทำให้คุณเป็นอิสระ”
1
คล้ายๆกับว่า คุณเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน”
-ผู้รู้: คือรู้ว่า ไม่ว่าคุณจะพบเจอในสิ่งที่คุณไม่อยากเจอ และไม่พบเจอในสิ่งที่คุณอยากเจอ
ทั้งหมดทั้งมวลล้วน “ไม่เที่ยง” มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ และก็ดับไป
-ผู้ตื่น: เมื่อคุณมองเห็น “ความไม่เที่ยง” อันเป็น “ความจริง” นี้
จิตของเราจะถอนออกมาจากความยึดมั่นถือมั่น และคุณจะ “ตื่น” จากทั้งความทุกข์และความสุข!
-ผู้เบิกบาน: จิตที่ละวางจากทุกข์และสุขจะเป็นจิตประภัสสร ที่ว่างจาก “กิเลส” และจิตใจของคุณจะ “เบิกบาน” นั่นเอง!
กรณีศึกษาที่ผมสนใจเกี่ยวกับ
“Steve Jobs” กล่าวคือ
เรื่องราวของ RDF หรือ
“Reality Distortion Field”
เรื่องมีอยู่ว่า
ราวปี ค.ศ. 1984 คือช่วงที่ Apple มีการพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์
“ Macintosh”
SJ ขอให้วิศวกรท่านหนึ่งในทีมพัฒนา Mac ลดเวลาการ boot เครื่อง (boot time) ลง 10 วินาที
วิศวกรคนนั้นตอบสวนกลับทันทีว่า
“มันเป็นไปไม่ได้!”
SJ จึงเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาใหม่ว่า
“ถ้าการที่คุณทำให้เครื่อง Mac ลดเวลา boot ลงได้ 10 วินาที แล้วสิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้
คุณจะทำได้มั้ย?”
วิศวกรคนนั้นตอบว่า “ทำได้”
1
และอีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมา เขาได้เขียนโปรแกรมใหม่ และสามารถลด boot time ได้ถึง 28 วินาที!
ผมจึงมองว่า
ความสามารถที่แท้จริงอันทรงพลังของมนุษย์คือ การ “เลือก” ที่จะ “เชื่อ” ว่า “ตนเองคือผู้นิยามความจริง”
โดยไม่ยอมรอให้อะไรมาหยิบยื่น “ความจริง” ให้
เพราะถ้าคุณ “ยอมมอบอำนาจ” ให้ใครมาบอกคุณว่า “อะไรเป็นไปได้-อะไรเป็นไปไม่ได้”
คุณก็ “แพ้” แล้ว “จริงๆ”
# คราวนี้กลับไปที่คำสองคำที่ผมขอให้คุณจำไว้ตั้งแต่ตอนแรก
“ถ้าผมยื่นไพ่ให้คุณหนึ่งใบ แล้วบนหน้าไพ่นั้น ด้านหนึ่งเขียนคำว่า
‘ความสุข’ หรือ ‘Happiness’
แล้วถ้าคุณพลิกไพ่ใบนั้นไปอีกด้าน
คุณคิดว่า หน้าไพ่อีกด้าน คุณต้องการให้มันถูกเขียนเป็น ‘ความจริง’ ด้วยคำว่า
‘Choice’ หรือ ‘Condition’ ?
โฆษณา