10 เม.ย. 2023 เวลา 08:04 • ท่องเที่ยว
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู

🍃ผจญภัย “ลำคลองงู” พิสูจน์คำเล่าอ้าง “7 ภูกระดึง ก็ไม่เท่า 1 ลำคลองงู”🍃

⛰️ ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปผจญภัยป่าดงดิบกันที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรีค่ะ
ก่อนอื่นเลยขอเล่าให้ฟังว่าทริปนี้เกิดจากตอนที่เราไปเดินภูสอยดาว แล้วได้ยินคนอื่นคุยกันว่าไปที่ลำคลองงูมาเหนื่อยมาก ไอ่ทางเราก็สงสัยว่ามันยังจะมีที่ๆเหนื่อยกว่านี้อีกหรอ จะเหนื่อยขนาดไหนกันเชียว เลยลองชวนเพื่อนดู
1
แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงตอนชวนเพื่อนคือ เพื่อนแทบทุกคนถามว่า ลำคลองงูนี่มีงูมั้ย ไอ่ตัวเราก็ยังไม่เคยไป จะบอกไปเลยว่าไม่มีหรอกก็กลัวว่าถ้ามีขึ้นมาจะทำยังไง เลยตอบเพื่อนไปว่า ป่าที่ไหนไม่มีงูบ้าง!!! สรุป ชวนเพื่อนไป 6 คน ตอบตกลงแค่ 2 เฮ้ออออ น่าจะผิดที่เราเองแหละ
🍂 อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จะเปิดให้ท่องเที่ยวเข้าแค่ปีละ 2 เดือนเท่านั้น คือเดือนมีนาคมและเมษายนค่ะ ใครรู้สึกว่าใช้ชีวิตแบบสบายเกินไปแล้ววววว อยากพาชีวิตไปลำบากบ้าง ไม่สิต้องเป็น ลำบากมาก ก็ขอแนะนำให้มาที่นี่้ได้เลยนะคะ
ในทริปนี้เราจะใช้เวลา 2 วัน 1 คืนกับการผจญภัยไปกับลำคลองงู โดยวันแรกเราจะไปกันที่ถ้ำเสาหิน และวันที่ 2 ไปที่ถ้ำนกนางแอ่นค่ะ
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
⛰️ ถ้ำเสาหิน ก็ตามชื่อเลยค่ะ จะมีเสาหินที่เกิดจากหินงอกหินย้อยอยู่ในถ้ำ เจ้าหน้าบอกว่า เป็นเสาหินที่สูงที่สุดในโลก คือสูง 62.5 เมตร
⛰️ ถ้ำนกนางแอ่น เป็นถ้ำที่สวยมาก ช่วง 1-2 ปีก่อนอุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้เปิดให้เข้าแค่ที่นี่ที่เดียว แต่นักท่องเที่ยวก็จะบ่นว่า มันง่ายเกินไป ปีนี้ทางอุทยานเลยเปิดเบิ้ล 2 ถ้ำเหมือนเดิมมมม เต็มคาราเบ้ลลลลลล ใครไหวไปก่อนเลย…
🍂 การเตรียมตัว : เตรียมตัวเหมือนลงแข่งไตรกีฬาได้เลย แต่เปลี่ยนจากจักรยานเป็นปีนหน้าผาแทนนะ ช่วงที่เราไปพื้นดินแห้ง จนทำให้เดินแล้วลื่นพร้อมไถลแหกโค้งได้ทุกเมื่อ แล้วก็จะมีช่วงลงเขาแนวดิ่ง คนขาสั้นอย่างเราก็จะช้ากว่าคนอื่นเขา เขาก้าวเดียวแต่เรา 2 ก้าว เรียกได้ว่า คนขาสั้นเหนื่อยกว่าเป็น 2 เท่านะบอกเลย 555++
🍂 อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.ถุงกันน้ำ Ocean Packs สำคัญมากกก แนะนำว่าซื้อแบบ 10 ลิตรไปเลยนะคะ เพราะเท่าที่สังเกตของหลายคนซื้อแบบ 5 ลิตร แล้วพอใส่ของมันม้วนปิดได้แค่ไม่กี่ทบ สรุปจบทริปน้ำเต็มกระเป๋าเลยยยย สงสารเขานะคะ TvT **บางคนคือมือถือได้แช่ออนเซ็นนะ แช่เสร็จก็สู่ขิตไปเลย
2.ไฟฉายแบบคาดหัว ใช้เฉพาะที่ถ้ำเสาหิน
3.รองเท้าเน้นกันลื่นได้ดี เปียกน้ำได้
4.เสื้อผ้าไม่อุ้มน้ำ แห้งง่ายพร้อมทิ้ง เจอมาแล้วกางเกงตูดขาดเพราะไถลไปบนหินนี่ไม่แปลกใจ แต่บางคนเสื้อขาดเพราะเพื่อนดึงนี่มันน่าโมโหอยู่นะ 😂
2
🍂 เราออกจากกรุงเทพฯตอน 3 ทุ่ม ถึงอุทยานประมาณตี 2 กางเต็นท์อะไรเสร็จก็นอน ตื่นอีกทีเกือบ 7 โมงก็เตรียมตัว ล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าวแล้วขึ้นรถกระบะ เพื่อออกเดินทางไปยังถ้ำเสาหิน ซึ่งเป็นจุดหมายในวันแรกของเราค่ะ
จุดกางเต็นท์ของอุทยาน
📸 วันที่ 1 : ใช้เวลา 1 วันเต็ม
เราเริ่มจากนั่งรถกระบะของอุทยานไปประมาณ 10 กิโลเมตร ดีนะเราออกเป็นคันแรก ฝุ่นเลยไม่เยอะ แต่คันที่ตามหลังมาคือหัวทอง หน้าขาวกันทุกคนเลย 555+
1
จุดเริ่มเดินไปถ้ำเสาหิน
🍃 เมื่อถึงจุดเริ่มเดินก็ลงรถแล้วออกเดินกันต่อ โดยการเดินวันนี้หลักๆจะมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แบ่งเป็นเดินลง 1 กิโลเมตร และปีนหินอีก 1 กิโลเมตร (ไปกลับ 4 กิโลเมตร) แล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าถ้ำ เราก็จะได้ว่ายน้ำเย็นๆกัน
🍃 เริ่มต้นเดินด้วยเส้นทางง่ายๆ 1 กิโลเมตร สองข้างทางเป็นป่าไผ่ ทางเป็นดินร่วนแห้งๆ ปกคลุมไปด้วยใบไผ่แห้งๆ ง่ายต่อการวิ่งลงมาแล้วแหกโค้ง ใครลงไปแบบไม่มีเบรคก็อาจจะลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นได้นะคะ ระวังกันด้วยเน้ออออ
เส้นทาง 1 กิโลเมตรแรก (ป่าไผ่)
🍃 กิโลเมตรที่ 2 เริ่มมีการปีนป่ายขึ้นเรื่อยๆ จึงถึงขั้นดิ่งลงเหว ดูเหมือนระยะทางน้อย แต่บอกเลยว่าความชันไม่ธรรมดา ขาลงไปไม่เท่าไหร่ ขาขึ้นกลับมานี่ขาสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ พร้อมเพลงนึงที่เริ่มผุดขึ้นมาในหัว “ชั้นมาทำอะไรที่นี่ 🎵”
เส้นทางกิโลเมตรที่ 2 (ทางชันต้องปีนเขา)
🍃 และแล้วเราก็เดินมาถึงน้ำตกค่ะ ที่เห็นใส่เสื้อชูชีพกัน นี่แหละใกล้จะถึงจุดที่จะได้ใช้มันให้เป็นประโยชน์ละ หลังจากเรามาถึงน้ำตกก็นั่งพักให้หายเหนื่อย ถ่ายรูป และแวะกินข้าวเที่ยงกันตรงนี้ ก่อนจะออกเดินต่อไปยังถ้ำเสาหินค่ะ
น้ำตก
🍃 ปากทางเข้าถ้ำเสาหิน อาจจะมีปีนป่ายเล็กน้อย ลื่นนิดหน่อย แต่สบายใจได้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลนำทาง 1 คน ตรงกลาง 1 คน และรั้งท้ายอีก 1 คน จะคอยแนะนำวิธีการเดินและขั้นตอนการปีนตลอดทาง เรียกได้ว่าได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเลยล่ะ
ทางเข้าถ้ำเสาหิน
🍃 และแล้วก็ถึงเวลาของเสื้อชูชีพที่เป็นภาระเรามาตลอดทาง เริ่มใส่สายรัดเป้า!!! คาดไฟฉายที่หัว!!! แล้วไปส่องกบกันได้!!! หยอกๆ ไปลงน้ำกันได้
ขาเข้าถ้ำจะเป็นการว่ายน้ำทวนกระแส เน้นการพุ่งตัวออกจากหินให้เร็วแรงทะลุนรก จากหินก้อนนึงไปหินอีกก้อนนึง เพื่อเป็นการผ่อนแรงว่าย
1
🍃 บางจุดกระแสน้ำแรงมากกก เจ้าหน้าที่ก็จะมีเชือกให้ไต่ไป จุดสุดท้ายคือพีคมาก (ดูวิดีโอนะ เพราะในถ้ำมืดมากถ่ายรูปแทบไม่เห็น) ระยะทางน่าจะเกือบ 50 เมตร กระแสน้ำแรงสุด เราไต่เชือกไปถึงแค่กลางทางแขนก็หมดแรง ไต่เชือกยังไงก็ไม่ไป ในใจเป็นท้อแท้ แล้วเพลงนึงก็ผุดขึ้นมาในหัว “ใจสู้รึเปล่า ไหวมั้ยบอกมา 🎵 สู้โว้ย!!! สุดท้ายเราก็รวบรวมลมปราณเฮือกสุดท้ายไต่จนไปถึงหินอีกฝั่ง” แหม่เกือบขิตแล้วเรา…
🍃สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เราก็ถึงเสาหินที่สูงที่สุดในโลก อย่างที่บอกว่าในถ้ำค่อนข้างมืดไม่มีแสงธรรมชาติเลย แสงสว่างส่วนใหญ่มาจากไฟฉายบนหัว ครั้นมาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปเป็นหลักฐานการมาถึง อารมณ์พิชิตดวงจันทร์อ่ะ แล้วเราทุกคนก็รวมพลังกันส่องไฟฉาย ช่วยกันจี่ไฟฉายไปที่คนถ่ายรูป แล้วเราก็ได้รูปมาจากแรงจี่ของเพื่อนร่วมทริป ต้องขอขอบคุณทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ถ่ายรูปกับเสาหิน
🍃 ไฮไลต์สุดท้ายของวันนี้ คือขากลับเราจะได้กระโดดน้ำตกกัน สูงประมาณ 3 เมตรแหละ ไอ่เราตอนแรกก็ฉันไม่โดด ฉันกลัวความสูง สุดท้ายเหมือนโดนหลอกให้มาโดด เพราะกลับตัวไปเดินอ้อมไม่ทันแล้ว เอ้าาาา โดดก็โดด !!!!
จุดกระโดดน้ำของถ้ำเสาหิน
🍃 ก่อนโดดไฟฉายที่เพิ่งฝากเพื่อนซื้อมายังอยู่ที่หัว พอโผล่พ้นน้ำอีกที อ้าวเอ้ยยยย ไฟฉายหายไปกับสายน้ำแล้ว ตังค์ยังไม่ได้จ่ายเพื่อนเลย ไฟฉายไม่อยู่แล้ว RIP my flashlight 3 วินาทีค่ะ T_T
1
🍃 กระโดดน้ำลงมาได้ ก็จะมาโผล่ตรงน้ำตกที่เราพักกินข้าวเที่ยง ที่นี้แหละ…นรกของจริงรออยู่ ทางที่เราไต่ลงมาเมื่อเช้า ถึงเวลานี้เราต้องไต่ขึ้นแล้วววว ฮืออออ
1
📸 วันที่สอง : ถ้ำนกนางแอ่น ระยะทางไป-กลับ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาครึ่งวัน ไม่ต้องเตรียมข้าวเที่ยงนะ พกไปแค่น้ำก็พอ มันหนัก!!!
🍂 วันนี้ก็ขึ้นรถกระบะเหมือนเดิม แต่ไปคนละเส้นกับเมื่อวาน ฝุ่นไม่เยอะเท่าเมื่อวาน เอ๊ะหรือไม่ต่างกัน ไม่แน่ใจเพราะวันนี้เราก็ออกเป็นทีมแรกเหมือนเดิม ฮ่ะฮ่าๆๆๆ
เริ่มเดินมานิดนึงก็ถึงจุดชมวิว
🍂 เส้นทางเดินไปถ้ำนกนางแอ่นจะไม่ลำบากและชันเท่าถ้ำเสาหิน เดินง่ายๆ แต่ขาที่ล้ามาตั้งแต่เมื่อวาน มันทำให้เดินได้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยยยยย เดินมาประมาณ 1 กิโลเราก็มาถึง “ประตูมิติ” ที่ต้องลอดเข้าไปเพราะทางค่อนข้างแคบ บางคนถึงกับต้องคลานเข้าไป แต่สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆปุ๊กปิ๊กๆอย่างเรา แค่ย่อตัวนั่งเข้ามาก็ลอดได้สบายแล้วค่ะ (ข้อดีแค่ข้อเดียวของคนขาสั้น)
1
ประตูทะลุมิติ และทางเดินเข้าถ้ำนกนางแอ่น
🍂 ผ่านประตูทะลุมิติมา ก็จะเจอกับจุดกระโดดน้ำจุดแรกของถ้ำนกนางแอน ระดับกับความสูงน่าจะพอๆกับที่โดดเมื่อวาน มีทางอ้อมนะ แต่ก็ลองโดดดู เมื่อวานก็โดดได้ วันนี้ก็ต้องโดดได้ ย้าาาาาาาาา เอื้อกกกกก น้ำเต็มปอดไปเลยจ้า
จุดกระโดดน้ำจุดแรกของถ้ำนกนางแอ่น
🍂 กระโดดลงน้ำก็ลอยคอกันต่อจ้า วิธีลอยคอง่ายๆคือนอนตัวตรงๆ ก้นห้ามเด้ง เพราะถ้าก้นเด้งได้กระแทกหินใต้น้ำแน่นอน และหากลอยไปใกล้หินข้างๆทาง ให้ใช้ปลายเท้ายันหินเพื่อเปลี่ยนทิศทาง บอกเลยว่าทั้งหมดที่ผ่านมาเราชอบอันนี้สุดละ ^^
🍂 พอน้ำเริ่มตื้น ลอยตัวไปต่อไม่ได้ก็ต้องลุกขึ้นเดินต่อ แหม่เสียดายชะมัด อยากลอยต่อไปยาวๆแล้วโผล่ที่เต้นท์เลยได้มั้ย 555+ พอๆเลิกฝัน แล้วลุกขึ้นยืน เดินต่อไปเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเข้าถ้ำอีกถ้ำนึง
เดินเท้าต่อไปดูหินเอเลี่ยน
🍂 เดินเข้าถ้ำมาก็จะเจอจุดลอยคออีกจุดนึง เป็นจุดที่กระแสน้ำค่อนข้างแรง ต้องใช้วิธีการไต่เชือกไปเพื่อไม่ให้โดนน้ำซัดแรงจนเกินไป แหม่ ขอลอยคอชิลๆก็ไม่ได้… หลังจากจับเชือกไปถึงหินอีกฝั่ง ก็เดินต่อไปอีกนิด แล้วจะเจอกับหินเอเลี่ยนค่ะ แต่ทำไมเรามองเป็นวีน่อมอ่ะ (ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย…🎵)
จุดไต่เชือกในถ้ำ และหินเอเลี่ยน
🍂 หลังจากเดินผ่านหินเอเลี่ยนไป เราจะก็จะได้พบเจอกับแลนด์มาร์คถ่ายรูปของลำคลองงู ที่ใครมาก็ต้องถ่ายให้ได้ แชะๆๆ ภาพกันคนละรูปสองรูป ก็ออกเดินต่อได้
จุดถ่ายรูปในถ้ำนกนางแอ่น
🍂 ปีนหินต่อมาอีกนิด เราก็จะเจอกับจุดไฮไลต์ของถ้ำนกนางแอ่น นั่นก็คือ จุดกระโดดน้ำที่สูงและเสียวกว่า 2 จุดที่ผ่านมา ความสูงน่าจะซัก 6-7 เมตรแหละ ตัวเรานั้นก็ขอบาย ขอเป็นคนอ่อนแอและพ่ายแพ้ที่เดินอ้อมไปสไลด์หินลงเพื่อรอถ่ายรูปและวิดีโอให้เพื่อนๆที่ใจกล้ากระโดดแทนละกัน เราจะทำหน้าที่ของผู้พ่ายแพ้ให้ดีที่สุด…ทุกคนสู้!!!
ปล.บางกลุ่มที่ไปบอกว่าจุดสุดท้ายต้องโดดทุกคน แต่บอกเลยว่าไม่เป็นความจริง เรามีทางลัดที่พี่เจ้าหน้าพาลงมา บอกเลยลับสุดยอด 555++
เป็นไง…สูงพอมั้ย
🍂 หลังจากกระโดดน้ำลงมาหมดทุกคนแล้วก็ลอยคอต่ออีกนิด แล้วก็ไปยกพลขึ้นบกเดินต่ออีกเกือบ 1 กิโลเมตร เพื่อไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ เป็นอันจบทริปลำคลองงูค่ะ
สำหรับทริปนี้รูปที่ได้อาจจะน้อยไปนิด ถ่ายเอียงไปหน่อย เพราะเราถือคำกล่าวที่ว่า เที่ยวแบบไม่เน้นถ่ายรูป แต่เน้นเอาชีวิตรอด… แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า บ้ายบายค่ะ
1
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : YouTube “Station S” นะคะ
โฆษณา