30 มี.ค. 2023 เวลา 05:11 • ความคิดเห็น
จะจริงหรือเท็จ ความสุขสำหรับผู้รับรู้ความสุขก็จริงเสมอ จะจริงหรือเท็จ ความทุกข์สำหรับผู้รับรู้ความทุกข์ก็จริงเสมอ
1
เหมือน ๆ กับความทุกข์ของชายชราที่หวาดกลัวหัวขโมยที่ไม่มีอยู่จริง แม้คนรอบ ๆ ข้างจะเพียรปลอบโยนและแสดงหลักฐานว่าสิ่งที่เขากลัวนั้น "ไม่มีอยู่จริง" เพียงไร ก็ไม่อาจทำได้ทั้ง ทำให้เขาหายจากทุกข์และเห็นความเป็นจริง
1
จริงเท็จ นัยนึงเป็นเรื่องบัญญัติ แต่กล่าวแบบนี้ก็ดูเป็นการละเลยภาวะที่เป็นสัจธรรม แต่หากกล่าวว่า ความจริงแบบที่รับรู้โดยทั่ว ๆ ไปเป็นสัจธรรมอันเที่ยงแท้ ก็ดูละเลยความจริงที่ว่า อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนอยู่เหมือนกัน แต่หากจะกล่าวว่าความจริงแท้คือเรื่องเหลวไหล คนก็คงจะหัวเราะเยาะและหาว่าเป็นบ้า แต่สมัยนี้เขามีคำพูดใหม่ทำนองว่า ความจริงเป็นเรื่องสัมพัทธ์ แต่มันก็ฟังดูตลบตะแลงอีกนั่นแหละ สำหรับคนที่เขามองว่า เท็จคือเท็จ จริงคือจริง เหมือน ๆ กับขาวคือขาว ดำคือดำ
ส่วนความจริงที่ล่วงบัญญัติไปนั้น.. ก็ไม่รู้เหมือนกัน
จึงมีคำกล่าวอีกแบบหนึ่งว่า ความจริงแท้อยู่เหนือคำพูด ผมไม่อยากยอมรับคำพูดแบบนี้นัก ทั้งเห็นว่าคนเรามีอิสระและอำนาจในการกำหนดคำพูด แต่มันก็ดูเป็นจริงอยู่ว่า คำพูดไม่ได้เป็นอิสระจากความคิดเท่าไรนัก เหมือนกับที่ท่านกล่าวว่า คนเราตรึกตรองแล้วค่อยพูด
....
เราคงไม่ถึงกับไปปรามาสความสุขของคนที่มีความสุขในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่จริง พอ ๆ กับละเลยความทุกข์ของคนที่เป็นทุกข์เพราะสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ๆ เลยอีกนั่นแหละ ขณะเดียวกันเราก็คงจะไม่ถึงกับละเลยที่จะนำเสนอความจริงให้กับคนที่มีความสุขในสิ่งที่เป็นเท็จ(หากทำได้)เพราะมันเป็นความจริงอีกนั่นแหละว่า ความสุขที่เจือด้วยเพลิดเพลินนั้น มีส่วนทำให้เกิดความหลง
.
1
ผมรู้สึกขลาด ๆ กลัว ๆ ในการแสดงความเห็นนี้อย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่อยากถูกพิจารณาว่าเป็นคนที่พูดจาเพ้อเจ้อ หรือชอบสั่งสอนคนอื่นในลัทธิ ศาสนา ปรัชญาที่ตนศึกษามา แต่ก็เหมือนอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ ธรรมชาติไม่ได้มอบอิสระในการพูดให้กับคนเราเท่าไรนัก แต่ว่า.. การอยู่ในรูร่ม ๆ ของตัวเองนานเกินไป การออกไปตากแดดบ้าง ร้อนแล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่เอง.
1
โฆษณา